อย่าพลาด ! ข้อห้ามในญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยว “ไม่ควรทำ” เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น ดินแดนที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต ด้วยความงดงามของธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ อาหารที่น่ารับประทาน และเทคโนโลยีล้ำสมัย ล้วนดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้หลั่งไหลเข้ามาสัมผัสประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์ แต่เดี๋ยวก่อน! ก่อนจะเก็บกระเป๋า แพ็คของ เตรียมบินลัดฟ้าไปตะลุยแดนปลาดิบ คุณเคยสงสัยไหมว่า “มีข้อห้ามอะไรบ้างในญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวควรรู้ ?” อย่าพลาด ! ข้อห้ามในญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยว “ไม่ควรทำ” เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น

หลายคนอาจคิดว่าแค่ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาสุภาพก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่จริง ๆ “มารยาท” และ “ข้อห้าม” ในสังคมญี่ปุ่นนั้นมีความละเอียดอ่อนมากกว่าที่เราคิด การกระทำบางอย่างที่ดูเหมือนจะปกติในบ้านเรา อาจกลายเป็นเรื่อง “เสียมารยาท” อย่างร้ายแรงในญี่ปุ่นโดยไม่รู้ตัว ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเพลิดเพลินกับราเมนชามโต แต่กลับซดเสียงดังจนคนรอบข้างหันมามองด้วยสายตาตำหนิ หรือเผลอเอาตะเกียบปักลงในชามข้าว !

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาเปิดประตูสู่โลกแห่งมารยาทญี่ปุ่นอันน่าค้นหาไปพร้อมกันเลย !

ทำไมต้องรู้ “ข้อห้ามในญี่ปุ่น” ก่อนไปเที่ยว ? เที่ยวสนุก สบายใจ สร้างความประทับใจให้เจ้าบ้าน

หลายคนอาจคิดว่าไปเที่ยวทั้งที แค่เตรียมเงินให้พร้อม จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก ก็ลุยได้เลย แต่สำหรับประเทศที่มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และเคร่งครัดในเรื่องมารยาทอย่างญี่ปุ่นแล้ว การเตรียมตัวเรื่อง “ข้อห้ามในญี่ปุ่น” ต่าง ๆ ก่อนออกเดินทางนั้นสำคัญไม่แพ้กัน เพราะอะไรรู้ไหม ? มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย !

1. เคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมายาวนาน การเรียนรู้และปฏิบัติตามข้อห้ามต่างๆ ถือเป็นการแสดงออกถึงความเคารพต่อวัฒนธรรมของพวกเขา เสมือนเป็นการบอกเจ้าบ้านว่าเราให้เกียรติและใส่ใจในวิถีชีวิตของพวกเขา ลองคิดดูสิว่าถ้าเราไปเที่ยวบ้านเพื่อน แล้วไม่เคารพกฎกติกาของบ้านนั้น เพื่อนจะรู้สึกอย่างไร การไปเที่ยวต่างประเทศก็เช่นกันครับ การเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่นคือหัวใจสำคัญของการเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี

2. หลีกเลี่ยงการทำผิดโดยไม่ตั้งใจ

ข้อห้ามหลายอย่างในญี่ปุ่นอาจแตกต่างจากบ้านเราอย่างสิ้นเชิง บางอย่างที่เราคิดว่าปกติ อาจกลายเป็นเรื่อง “ต้องห้าม” ในญี่ปุ่น การรู้ข้อห้ามเหล่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เราเผลอทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง หรือกังวลว่าจะทำให้ใครไม่พอใจ เที่ยวได้อย่างสบายใจ ไร้กังวลเรื่องดราม่า

3. สร้างความประทับใจที่ดี

คนญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความมีน้ำใจและเอื้อเฟื้อต่อแขกผู้มาเยือน หากเราแสดงออกถึงความพยายามในการเรียนรู้และปฏิบัติตามวัฒนธรรมของพวกเขา พวกเขาก็จะยิ่งประทับใจและเต็มใจให้ความช่วยเหลือเรามากขึ้น การเคารพกฎระเบียบและมารยาทจะช่วยสร้างความประทับใจที่ดี เปิดประตูสู่มิตรภาพดีๆ และอาจทำให้เราได้รับประสบการณ์พิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหน

4. เที่ยวสนุกไร้กังวล

เมื่อเรารู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ เราก็จะเที่ยวได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะเผลอไปทำอะไรผิด หมดห่วงเรื่องมารยาท ก็สามารถโฟกัสกับการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ ดื่มด่ำกับความงามของสถานที่ต่างๆ ลิ้มรสอาหารอร่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์และความทรงจำดีๆ กลับบ้านได้อย่างเต็มกระเป๋า

5. เข้าใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นยิ่งขึ้น

การเรียนรู้ข้อห้ามต่าง ๆ ไม่ใช่แค่การท่องจำกฎระเบียบเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นในมุมมองที่ยิ่งขึ้น เข้าใจถึงที่มาที่ไปของธรรมเนียมปฏิบัติ เห็นคุณค่าของความใส่ใจในรายละเอียด และความอ่อนน้อมถ่อมตนของคนญี่ปุ่น เรียกได้ว่าการรู้ข้อห้ามจะช่วยยกระดับการท่องเที่ยวของเราให้เป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมที่น่าประทับใจ

การรู้ “ข้อห้ามในญี่ปุ่น” ก่อนไปเที่ยวนั้นมีประโยชน์มากมายขนาดไหน ไม่ใช่แค่ช่วยให้เที่ยวสนุกเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความเคารพต่อเจ้าบ้าน สร้างความประทับใจ และเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งอีกด้วย ดังนั้นก่อนออกเดินทาง อย่าลืมทำการบ้าน ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับข้อห้ามต่าง ๆ ให้ดี แล้วคุณจะพบว่าการท่องเที่ยวญี่ปุ่นของคุณจะราบรื่น ประทับใจ และน่าจดจำอย่างแน่นอน !

หมวดหมู่”ข้อห้ามในญี่ปุ่น” จัดระเบียบมารยาท จำง่าย

หลังจากที่เราได้รู้ถึงความสำคัญของการเรียนรู้ข้อห้ามญี่ปุ่นกันไปแล้ว หลายคนอาจเริ่มกังวลว่า “แล้วข้อห้ามมันมีอะไรบ้างล่ะ ?” ไม่ต้องห่วง ! เพื่อไม่ให้ทุกคนสับสน เราได้จัดหมวดหมู่ข้อห้ามต่าง ๆ ออกเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและนำไปใช้ รับรองว่าอ่านจบแล้ว คุณจะ “เป๊ะ” เรื่องมารยาท เที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างมั่นใจ ไม่มีโป๊ะแน่นอน

ในบทความนี้ เราจะแบ่งข้อห้ามญี่ปุ่นออกเป็น 5 หมวดหมู่หลัก ดังนี้ :

1. มารยาทในการรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่น : ครอบคลุมมารยาทบนโต๊ะอาหาร การใช้ตะเกียบ การทานซูชิ และการดื่ม
2. มารยาทในการใช้ขนส่งสาธารณะในญี่ปุ่น : รวมมารยาทในการใช้รถไฟ รถไฟใต้ดิน รถบัส และแท็กซี่
3. มารยาทการเยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในญี่ปุ่น : แนะนำข้อปฏิบัติเมื่อไปเยือนศาลเจ้าและวัด
4. มารยาททั่วไปในญี่ปุ่น : มารยาทพื้นฐานในการปฏิสัมพันธ์กับคนญี่ปุ่น เช่น การทักทาย การให้ของขวัญ การถอดรองเท้า
5. มารยาทที่สำคัญในญี่ปุ่น : มารยาทในออนเซ็น การให้ทิป การถ่ายรูป

การจัดหมวดหมู่แบบนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของข้อห้ามต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น และสามารถจดจำได้ง่ายกว่าการอ่านแบบเรียงต่อกันยาว ๆ เราจะเจาะลึกข้อห้ามในแต่ละหมวดหมู่แบบละเอียด เพื่อให้คุณเข้าใจ และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง เตรียมปากกาและสมุดโน้ตให้พร้อม แล้วมาเรียนรู้มารยาทญี่ปุ่นแบบ “อินไซด์” ไปด้วยกันเลย !

1.มารยาทในการรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่น

อาหารญี่ปุ่นไม่ได้มีดีแค่รสชาติ แต่ยังรวมถึงมารยาทในการรับประทานที่เป็นเอกลักษณ์ การเรียนรู้มารยาทเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณทานอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย แต่ยังแสดงถึงความเคารพต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นอีกด้วย มาดูกันว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างที่เราควรรู้

1. ตะเกียบ

ตะเกียบเป็นอุปกรณ์ทานอาหารหลักของคนญี่ปุ่น การใช้ตะเกียบอย่างถูกวิธีจึงเป็นมารยาทพื้นฐานที่สำคัญ

• ห้ามปักตะเกียบลงในชามข้าวเด็ดขาด : การกระทำนี้สื่อถึงความตาย เพราะคล้ายกับการปักธูปในพิธีศพ ให้วางตะเกียบไว้บนที่วางตะเกียบหรือขอบชามแทน
• ห้ามส่งอาหารต่อกันด้วยตะเกียบ : เพราะคล้ายกับพิธีเก็บกระดูก ควรใช้ตะเกียบคีบอาหารใส่จานของอีกฝ่าย หรือใช้ตะเกียบกลาง
• ห้ามเลียตะเกียบ : ดูไม่สุภาพและไม่ถูกสุขลักษณะ
• ห้ามใช้ตะเกียบชี้คนหรือสิ่งของ : ถือเป็นการเสียมารยาท
• วางตะเกียบให้ถูกที่ : เมื่อทานเสร็จหรือพัก ควรวางตะเกียบไว้บนที่วางตะเกียบ (Hashioki) หรือขอบชาม อย่าปล่อยทิ้งไว้บนโต๊ะ

**ที่มาของความเชื่อ ความเชื่อเรื่องการห้ามปักตะเกียบและส่งอาหารต่อกันด้วยตะเกียบ มาจากพิธีกรรมทางศาสนาพุทธที่เกี่ยวข้องกับความตาย

2. ซูชิและซาชิมิ

• จิ้มโชยุให้ถูกส่วน : จิ้มเฉพาะส่วนเนื้อปลาลงในโชยุ ไม่ควรจิ้มส่วนข้าว เพราะจะทำให้ข้าวเละและเสียรสชาติ
• ทานทั้งคำในคำเดียว : ซูชิและซาชิมิถูกออกแบบมาให้ทานทั้งคำในครั้งเดียว การกัดแบ่งจะทำให้เสียรูปทรงและรสชาติ
• การสั่งซูชิกับเชฟ : สามารถบอกเชฟได้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่ไม่ควรจู้จี้จุกจิกมากเกินไป
• วาซาบิ : โดยปกติเชฟจะใส่วาซาบิมาให้แล้ว หากต้องการเพิ่ม ให้ใส่แต่น้อย ไม่ควรผสมวาซาบิลงในโชยุโดยตรง เพราะจะทำให้เสียรสชาติ

3. การดื่ม

• รินเครื่องดื่มให้ผู้อื่นก่อน : ถือเป็นการแสดงความใส่ใจและให้เกียรติ โดยเฉพาะกับผู้ที่อาวุโสกว่า
• รอให้ทุกคนมีเครื่องดื่มก่อนจึงชนแก้ว : และกล่าวคำว่า “คัมไป!” (Kanpai!) ที่แปลว่า “ชนแก้ว” หรือ “Cheers!”
• การปฏิเสธเครื่องดื่ม : หากไม่ต้องการดื่ม สามารถปฏิเสธได้ แต่ควรปฏิเสธอย่างสุภาพ

4. มารยาทอื่น ๆ บนโต๊ะอาหาร

• ห้ามพูดคุยเสียงดังในร้านอาหาร : รักษาระดับเสียงให้เหมาะสม ไม่รบกวนผู้อื่น
• การซดซุปเสียงดัง : การซดซุปบางประเภทเสียงดัง เช่น ราเมน โซบะ ถือเป็นเรื่องปกติและแสดงว่าอาหารอร่อย แต่กับซุปใสหรืออาหารอื่นๆ ควรงด
• การทิ้งอาหาร : การทานอาหารเหลือทิ้งถือว่าเสียมารยาท ควรสั่งอาหารแต่พอดี หรือขอห่อกลับบ้าน
• “อิตาดาคิมัส” (Itadakimasu) และ “โกะจิโซซามะเดชิตะ” (Gochisosama deshita) : ก่อนทานอาหาร พูดว่า “อิตาดาคิมัส” เป็นการแสดงความขอบคุณต่ออาหาร และหลังทานเสร็จ พูดว่า “โกะจิโซซามะเดชิตะ” เป็นการขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนั้น

การเรียนรู้มารยาทบนโต๊ะอาหารญี่ปุ่นอาจดูเหมือนมีรายละเอียดมากมาย แต่อย่าเพิ่งท้อใจ เพียงแค่จำหลักการง่ายๆ และนำไปปฏิบัติ คุณก็จะสามารถทานอาหารญี่ปุ่นได้อย่างเอร็ดอร่อยและถูกกาลเทศะ แถมยังสร้างความประทับใจให้กับคนญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอน

 2.มารยาทในการใช้ขนส่งสาธารณะในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ตรงต่อเวลา และสะอาด แต่การใช้บริการอย่างสะดวกสบายนั้น ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้โดยสารทุกคน มาดูกันว่ามีมารยาทอะไรบ้างที่เราควรรู้เมื่อใช้ขนส่งสาธารณะในญี่ปุ่น

1. รถไฟและรถไฟใต้ดิน

• เข้าแถวรออย่างเป็นระเบียบ : ยืนต่อแถวตามเส้นที่กำหนดบนชานชาลา อย่าแซงคิว และให้ผู้โดยสารด้านในลงจากรถก่อน
• ห้ามพูดคุยเสียงดังหรือคุยโทรศัพท์ : การพูดคุยเสียงดังรบกวนผู้โดยสารคนอื่นๆ หากจำเป็นต้องคุยโทรศัพท์ ให้คุยสั้นๆ และเบาที่สุด หรือใช้การส่งข้อความแทน
• ให้ที่นั่งแก่ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และคนพิการ : บริเวณที่นั่งสำรอง ถูกจัดไว้สำหรับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ คนพิการ และผู้ที่มีเด็กเล็ก หากคุณนั่งอยู่ในบริเวณนี้ ควรลุกให้ที่นั่งแก่บุคคลดังกล่าว
• ห้ามวางสัมภาระเกะกะ : วางกระเป๋าเดินทางหรือสัมภาระไว้บนชั้นวาง หรือวางไว้ด้านหน้าตัวเองโดยไม่กีดขวางทางเดิน
• ระวังการใช้บันไดเลื่อน : ยืนชิดซ้าย เพื่อให้คนรีบเดินแซงทางขวาได้ (ในบางเมือง เช่น โอซาก้า จะยืนชิดขวา)
• การใช้บัตร IC Card: แตะบัตรเข้าและออกสถานีให้ถูกต้อง และเติมเงินให้เพียงพอต่อการเดินทาง
• มารยาทบนชินคันเซ็น (Shinkansen) : จองที่นั่งล่วงหน้า ไม่ส่งเสียงดัง และรักษาความสะอาด

2. รถบัส (Buses)

• เข้าแถวรอรถบัส : ต่อแถวรอที่ป้ายรถบัส อย่าแซงคิว
• ชำระเงินให้ถูกต้อง: ระบบการจ่ายค่าโดยสารรถบัสในญี่ปุ่นมีหลายแบบ บางระบบจ่ายตอนขึ้น บางระบบจ่ายตอนลง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณจ่ายค่าโดยสารถูกต้อง หรือใช้บัตร IC Card แตะตอนขึ้นและลง
• กดกริ่งก่อนถึงป้ายที่ต้องการลง : เมื่อใกล้ถึงป้ายที่ต้องการลง ให้กดกริ่งเพื่อแจ้งคนขับ
• ให้ที่นั่งแก่ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และคนพิการ : เช่นเดียวกับรถไฟ

3. แท็กซี่ (Taxis)

• ประตูรถแท็กซี่เปิด-ปิดอัตโนมัติ : อย่าเปิดหรือปิดประตูเอง รอให้คนขับเปิด-ปิดประตูให้
• บอกจุดหมายปลายทางให้ชัดเจน : เตรียมชื่อสถานที่หรือที่อยู่ในภาษาญี่ปุ่นไว้ หรือแสดงแผนที่ให้คนขับดู
• การให้ทิป (Tipping) : โดยทั่วไปไม่ต้องให้ทิปแท็กซี่ในญี่ปุ่น

การปฏิบัติตามมารยาทเหล่านี้จะช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่น สะดวกรวดเร็ว และสร้างความประทับใจที่ดีให้กับคนญี่ปุ่น ที่สำคัญยังช่วยรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อให้ทุกคนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย

3.มารยาทการเยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยวัดและศาลเจ้าอันงดงาม สถานที่เหล่านี้ไม่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวญี่ปุ่น ดังนั้น การปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่และศาสนา

1. ศาลเจ้า (Shrines)

• การชำล้างก่อนเข้า : สำหรับชำระล้างร่างกายและจิตใจ
  1. ใช้กระบวยตักน้ำล้างมือซ้าย
  2. ล้างมือขวา
  3. บ้วนปากด้วยมือซ้าย (อย่าบ้วนลงในอ่างน้ำโดยตรง)
  4. ล้างมือซ้ายอีกครั้ง
  5. ล้างกระบวยโดยการตั้งขึ้นให้น้ำไหลผ่านด้ามจับ แล้ววางคืนที่เดิม
• การเดินผ่านประตูโทริอิ : โค้งคำนับเล็กน้อยก่อนเดินผ่านประตูโทริอิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แบ่งเขตแดนระหว่างโลกมนุษย์และดินแดนศักดิ์สิทธิ์
• การเดินในบริเวณศาลเจ้า: ควรเดินชิดริมทาง ไม่เดินตรงกลาง เพราะเชื่อว่าเป็นทางเดินของเทพเจ้า
• การโค้งคำนับ : โค้งคำนับ 2 ครั้ง ปรบมือ 2 ครั้ง แล้วโค้งคำนับอีก 1 ครั้ง เป็นวิธีการแสดงความเคารพต่อเทพเจ้า
• การโยนเหรียญลงในกล่องบริจาค : โยนเหรียญลงในกล่องบริจาคเบาๆ แล้วจึงขอพร
• การสั่นกระดิ่ง : หากมีกระดิ่ง ให้สั่นก่อนขอพร เพื่อเรียกความสนใจจากเทพเจ้า (ไม่ใช่ทุกศาลเจ้าที่มี)
• การขอพร : ยืนสงบนิ่ง หลับตา และขอพรในใจ
• ห้ามถ่ายรูปในเขตหวงห้าม : สังเกตป้ายห้ามถ่ายรูป และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
• แต่งกายสุภาพ : ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ไม่สวมเสื้อผ้าที่เปิดเผยมากเกินไป

2. วัด (Temples)

• ห้ามส่งเสียงดัง : รักษากิริยาให้สงบ ไม่พูดคุยเสียงดัง รบกวนสมาธิของผู้ปฏิบัติธรรม
• ห้ามถ่ายรูปในเขตหวงห้าม: เช่นเดียวกับศาลเจ้า สังเกตป้ายและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
• แต่งกายสุภาพ : แต่งกายให้เรียบร้อย หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่เปิดเผย
• การจุดธูปเทียน : หากต้องการจุดธูปเทียน ให้จุดจากเทียนที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ ไม่ควรใช้ไฟแช็กของตัวเอง
• การกราบพระ : กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ (กราบ 3 ครั้ง)
• ความแตกต่างระหว่างศาลเจ้าและวัด :
  • ศาสนา : ศาลเจ้าเป็นของศาสนาชินโต ส่วนวัดเป็นของศาสนาพุทธ
  • สัญลักษณ์ : ศาลเจ้าจะมีประตูโทริอิ ส่วนวัดจะมีเจดีย์หรือสถูป
  • เทพ/พระ : ศาลเจ้าบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของชินโต ส่วนวัดบูชาพระพุทธรูป

การปฏิบัติตามมารยาทเหล่านี้ ไม่เพียงแสดงถึงความเคารพต่อสถานที่และศาสนา แต่ยังช่วยให้คุณสัมผัสได้ถึงความสงบและพลังแห่งศรัทธาของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย

4.มารยาททั่วไปในญี่ปุ่น

1. การทักทาย

• การโค้งคำนับ (Ojigi) : เป็นการทักทายและแสดงความเคารพที่ปฏิบัติกันทั่วไปในญี่ปุ่น ระดับการโค้งขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความอาวุโส
• โค้ง 15 องศา (Eshaku) : ใช้ทักทายกับคนที่อยู่ในระดับเดียวกันหรือเพื่อน
• โค้ง 30 องศา (Keirei) : ใช้ทักทายผู้ที่อาวุโสกว่าหรือลูกค้า
• โค้ง 45 องศา (Saikeirei) : ใช้แสดงความเคารพอย่างสูงหรือขอโทษอย่างจริงใจ
• ไม่นิยมการสัมผัสตัว : คนญี่ปุ่นไม่คุ้นชินกับการสัมผัสตัว เช่น การจับมือ การโอบกอด การทักทายแบบตะวันตก ควรหลีกเลี่ยง
• คำทักทายพื้นฐาน :
  • Ohayo gozaimasu (โอฮาโย โกไซอิมัส) : สวัสดีตอนเช้า (ใช้ถึงประมาณ 10 โมงเช้า)
  • Konnichiwa (คนนิจิวะ) : สวัสดีตอนกลางวัน (ใช้หลัง 10 โมงเช้าถึงเย็น)
  • Konbanwa (คมบังวะ) : สวัสดีตอนเย็น
  • Arigatou gozaimasu (อาริกาโต โกไซอิมัส) : ขอบคุณ
  • Sumimasen (สุมิมะเซ็น) : ขอโทษ / ขอทาง / เรียกร้องความสนใจ

2. การให้และรับของ

• ใช้สองมือ : เมื่อให้หรือรับของ ควรใช้ทั้งสองมือ เป็นการแสดงความเคารพและใส่ใจ
• ห่อของขวัญให้สวยงาม : คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการห่อของขวัญ ควรห่อของขวัญให้เรียบร้อยและสวยงาม
• การปฏิเสธ : หากไม่สะดวกรับของ ควรปฏิเสธอย่างสุภาพ โดยอาจกล่าวว่า “ขอบคุณมาก แต่ขออนุญาตไม่รับ”
• มารยาทการให้ของขวัญตามโอกาสต่าง ๆ : ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธรรมเนียมการให้ของขวัญในโอกาสพิเศษ เช่น ปีใหม่ วันเกิด

3. การถอดรองเท้า

• ถอดรองเท้าก่อนเข้าสถานที่ : บ้าน, เรียวกัง (ที่พักแบบญี่ปุ่น), วัด, ศาลเจ้า, โรงเรียน, บางร้านอาหารและคลินิก
• วางรองเท้าให้เป็นระเบียบ : หันหัวรองเท้าออกไปทางประตู
• การใช้รองเท้าแตะในบ้าน : เจ้าบ้านอาจมีรองเท้าแตะเตรียมไว้ให้ อย่าใส่รองเท้าแตะเข้าห้องน้ำ ให้เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะสำหรับเข้าห้องน้ำแทน

4. การใช้ห้องน้ำ

• เปลี่ยนรองเท้าแตะ : เมื่อเข้าห้องน้ำ ให้เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะสำหรับเข้าห้องน้ำที่มักจะวางไว้หน้าประตู
• รักษาความสะอาด : ทิ้งกระดาษชำระลงในโถส้วมเท่านั้น ไม่ทิ้งสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำ
• เสียงดัง : หากทำธุระเสียงดังสามารถเปิดเสียงเพลงได้

5. มารยาทอื่น ๆ ที่ควรรู้

• ห้ามชี้หน้าคน : ถือเป็นการเสียมารยาท หากต้องการชี้ ให้ใช้การผายมือแทน
• การเข้าคิว : คนญี่ปุ่นเคร่งครัดเรื่องการเข้าคิวมาก ไม่ว่าจะเข้าแถวรอรถไฟ รอร้านอาหาร หรือรอซื้อของ ควรเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ ไม่แซงคิว
• การทิ้งขยะ : ญี่ปุ่นมีกฎระเบียบในการแยกขยะ ควรแยกขยะตามประเภทและทิ้งในถังขยะที่กำหนด
• ไม่ทิ้งขยะบนท้องถนน : รักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะเรี่ยราด
• ระวังการเดินบนถนน : เดินชิดซ้าย (เหมือนการขับรถ)

การเรียนรู้และปฏิบัติตามมารยาทเหล่านี้จะช่วยให้คุณปรับตัวเข้ากับสังคมญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น สร้างความประทับใจที่ดี และแสดงถึงความเคารพต่อวัฒนธรรมของพวกเขา ทำให้การท่องเที่ยวหรือการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นของคุณราบรื่นและน่าจดจำยิ่งขึ้น

5.มารยาทที่สำคัญในญี่ปุ่น

นอกจากมารยาทต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีข้อควรปฏิบัติอื่นๆ ที่น่ารู้อีก มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง ?

1. ออนเซ็น (Onsen)

ออนเซ็นคือบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการผ่อนคลายที่โด่งดังของญี่ปุ่น การแช่ออนเซ็นมีมารยาทที่ต้องปฏิบัติ ดังนี้

• การล้างตัวก่อนลงแช่ : ต้องล้างตัวให้สะอาดก่อนลงแช่ โดยใช้ฝักบัวและสบู่ที่ทางออนเซ็นจัดเตรียมไว้ให้ โดยนั่งบนเก้าอี้เตี้ยๆ ไม่ยืนอาบ
• ห้ามใส่ชุดว่ายน้ำ : ออนเซ็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะออนเซ็นรวม จะต้องเปลือยกายลงแช่ ยกเว้นบางแห่งที่อนุญาตให้ใส่ชุดว่ายน้ำได้ ควรตรวจสอบกฎระเบียบก่อนใช้บริการ
• มัดผมยาวให้เรียบร้อย : เพื่อไม่ให้ผมตกลงไปในบ่อ และเพื่อความสะอาด
• ห้ามส่งเสียงดัง : ออนเซ็นเป็นสถานที่ผ่อนคลาย ควรรักษามารยาท ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น
• ห้ามนำผ้าขนหนูลงแช่ในบ่อ : นำผ้าผืนเล็กขึ้นมาปิดส่วนลับได้ แต่ห้ามนำลงไปแช่ในบ่อ ให้วางไว้บนศีรษะหรือขอบบ่อ
• ห้ามถ่ายรูป : เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ

2. การให้ทิป (Tipping)

• ไม่ต้องให้ทิป : วัฒนธรรมการให้ทิปไม่มีในญี่ปุ่น เพราะการบริการที่ดีถือเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว การให้ทิปอาจทำให้พนักงานรู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายใจ เพราะพวกเขาได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรมแล้ว
• ขอบคุณด้วยคำพูด : แสดงความขอบคุณด้วยคำพูด เช่น “Arigatou gozaimasu” (ขอบคุณ) ก็เพียงพอแล้ว

**ยกเว้นในบางกรณี เช่น ไกด์นำเที่ยวหรือเรียวกังระดับสูง อาจมีการให้ทิปบ้าง แต่ควรสอบถามข้อมูลให้แน่ชัดก่อน

3. การถ่ายรูป (Photography)

• สอบถามก่อนถ่ายรูปบุคคล : เป็นการเคารพสิทธิส่วนบุคคล ควรถามความยินยอมก่อนถ่ายรูปทุกครั้ง โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า
• ระวังป้ายห้ามถ่ายรูป : สถานที่บางแห่ง เช่น วัด ศาลเจ้า พิพิธภัณฑ์ อาจมีป้ายห้ามถ่ายรูป ควรสังเกตและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
• ห้ามใช้แฟลชในสถานที่ที่ไม่อนุญาต : แสงแฟลชอาจรบกวนผู้อื่นหรือทำลายวัตถุโบราณได้

การเรียนรู้มารยาทเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นของคุณให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น แสดงถึงความใส่ใจและเคารพต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่น สร้างความประทับใจให้แก่คนญี่ปุ่น และทำให้การเดินทางของคุณราบรื่นและน่าจดจำ

บทความที่น่าสนใจ  “ข้อห้ามในญี่ปุ่น”

• เที่ยวญี่ปุ่น “แลกเงินเยน” เท่าไหร่ดี ? อัพเดทสิ้นปี 2024 เตรียมตัวก่อนบิน !
• Street Food ญี่ปุ่น ที่ต้องลอง ! ราคาถูก อร่อยคุ้มค่า !
• ทำความรู้จักกับภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น ก่อนไปเที่ยวกันดีกว่า

  “ข้อห้ามในญี่ปุ่น” เที่ยวญี่ปุ่นอย่างมั่นใจ

การเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติ วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ และอาหารเลิศรสเท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมและมารยาทที่แตกต่าง ซึ่ง “ข้อห้ามในญี่ปุ่น” ถือเป็นสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวทุกคนควรรู้ เพื่อการท่องเที่ยวที่ราบรื่น สร้างความประทับใจ และแสดงถึงความเคารพต่อเจ้าบ้าน

ตลอดบทความนี้ เราได้เรียนรู้ข้อห้าม และมารยาทต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่การรับประทานอาหาร การใช้ขนส่งสาธารณะ การเยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มารยาททั่วไป ไปจนถึง มารยาทอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น การแช่ออนเซ็น และการถ่ายรูป หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ ช่วยให้คุณเตรียมตัวก่อนเดินทาง และปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

การเรียนรู้ “ข้อห้ามในญี่ปุ่น” อาจดูเหมือนเป็นเรื่องจุกจิก แต่จริงๆ แล้วเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการท่องเที่ยว เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง เข้าใจถึงความใส่ใจในรายละเอียด และความอ่อนน้อมถ่อมตนของคนญี่ปุ่น เพียงแค่เราเปิดใจ เรียนรู้ และปฏิบัติตาม ก็จะสามารถท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างมั่นใจ สร้างความประทับใจ และสัมผัสประสบการณ์อันน่าจดจำได้อย่างแน่นอน

“เที่ยวญี่ปุ่นให้สนุก เดินทางปลอดภัย และสร้างความทรงจำดีๆ ที่ไม่มีวันลืมเลือน !”

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)”ข้อห้ามในญี่ปุ่น”

“ข้อห้ามในญี่ปุ่น” หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่น อย่าปล่อยให้ความไม่รู้มารยาท มาทำลายประสบการณ์การเที่ยวของคุณ เลือกแผนเที่ยวญี่ปุ่นของเรา แล้วเตรียมตัวออกเดินทางสัมผัสความงดงาม เรียนรู้วัฒนธรรม และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืม ! คลิกเลย !

“ให้การเที่ยวญี่ปุ่นของคุณเป็นเรื่องง่าย ด้วยการจัดแพลนท่องเที่ยวกับเรา Trip Japan Online”

บริการรับทำแพลนเที่ยว วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น หรือให้ลูกค้ามาเลือกแพลนเที่ยวได้เอง สามารถเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองได้แบบง่าย ๆ