เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ถ้าคุณเคยฝันถึงการเดินทางไปญี่ปุ่น แดนซากุระที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของวัฒนธรรม อาหารแสนอร่อย และวิวที่ทำให้คุณต้องร้องว้าว งั้นเตรียมตัวไว้เลย เพราบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะทำให้ทริปญี่ปุ่นในฝันของคุณเป็นจริงได้แบบไม่ต้องพึ่งทัวร์ !
ลองจินตนาการถึงการเดินเล่นในสวนสวยที่ดอกซากุระปลิวไสวราวกับหิมะสีชมพู ยืนชมภูเขาฟูจิที่ยิ่งใหญ่ หรือการได้ลิ้มรสซูชิสด ๆ ที่ละลายในปากพร้อมชมวิธีการทำจากเชฟมืออาชีพ หรือจะเป็นการเดินตะลุยย่านชินจูกุที่เต็มไปด้วยแสงไฟนีออนสุดตระการตา ฟังดูน่าสนุกใช่ไหมล่ะ ?

แต่ว่าการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองอาจฟังดูน่ากลัวสำหรับมือใหม่หลาย ๆ คน คุณอาจคิดว่า จะจัดการกับแผนที่รถไฟซับซ้อนที่ดูแล้วไม่เข้าใจยังไงดี ? ถ้าต้องพูดญี่ปุ่นแล้วไม่เข้าใจจะทำยังไงล่ะ ? หรือ เราจะไปลุยหาของกินอร่อย ๆ เองได้รึเปล่า ? แต่ไม่ต้องกังวลไป ! เพราะการเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้ยากอย่างที่คิด และถ้าคุณเตรียมตัวดี ๆ การเดินทางก็จะราบรื่นและสนุกจนลืมความกลัวไปเลย !
ยิ่งไปกว่านั้น”การได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง”ยังทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์แบบเต็ม ๆ ไม่ว่าจะเป็นการได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ลองใส่ชุดกิโมโนเดินเล่นในเมืองเกียวโต หรือแวะชมศาลเจ้าที่เงียบสงบกลางหุบเขา การเดินทางด้วยตัวเองทำให้คุณมีอิสระที่จะเลือกเส้นทางและประสบการณ์ได้ตามใจชอบ แถมยังช่วยประหยัดงบอีกด้วย !
และใช่เลย ! ถ้าคุณเป็นสายช้อปปิ้ง อย่าพลาดโอกาสในการเดินเล่นย่านชิบูย่าและฮาราจูกุ ที่มีแฟชั่นสุดล้ำและของฝากเก๋ ๆ ให้เลือกสรร หรือถ้าเป็นสายกิน คุณจะได้อิ่มเอมกับราเม็งร้อน ๆ ที่เสิร์ฟในร้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ตามตรอกซอกซอย พร้อมกับการผจญภัยในตลาดปลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่เต็มไปด้วยอาหารทะเลสด ๆ ที่จะทำให้คุณตาโต!
ทั้งหมดนี้สามารถเป็นจริงได้ง่าย ๆ แค่ทำตาม 5 ขั้นตอน “เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง” ฉบับมือใหม่ ไม่ง้อทัวร์ ! ที่จะช่วยให้การวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นของคุณง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งคิดจะไปญี่ปุ่นครั้งแรก หรือเป็นนักเดินทางที่อยากทำให้ทริปครั้งต่อไปสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น รับรองว่าขั้นตอนเหล่านี้จะทำให้คุณมั่นใจและพร้อมลุยแบบเต็มที่ !
พร้อมจะออกเดินทางไปผจญภัยในดินแดนอาทิตย์อุทัยกันหรือยัง ? ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มวางแผนกันเลย !
5 ขั้นตอน เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ฉบับมือใหม่ ไม่ง้อทัวร์!
1. เลือกช่วงเวลาและฤดูที่เหมาะสม
การเลือกช่วงเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญสุด ๆ เพราะแต่ละฤดูในญี่ปุ่นมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เลือกดี ๆ จะทำให้ทริปของคุณสนุกแบบเต็มอิ่ม และนี่คือไกด์ช่วยเลือกฤดูที่เหมาะกับคุณที่สุด!

- ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) ถ้าคุณเป็นคนชอบหิมะ ชอบความหนาว และหลงใหลในบรรยากาศที่ดูราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย ฤดูหนาวในญี่ปุ่นคือสวรรค์ของคุณ ! ลองจินตนาการถึงการเล่นสกีบนภูเขาหิมะในฮอกไกโด หรือแช่ออนเซ็นกลางแจ้งพร้อมชมวิวหิมะที่โปรยปรายลงมา มันจะฟินขนาดไหน! นอกจากนี้ คุณยังจะได้สัมผัสเทศกาลหิมะอันโด่งดังที่เมืองซัปโปโร ซึ่งเต็มไปด้วยประติมากรรมน้ำแข็งสุดตระการตา

ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) ใครชอบความครึกครื้น ชอบเทศกาล และไม่กลัวแดด ต้องมาฤดูร้อนเลย! ช่วงนี้ญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยกิจกรรมกลางแจ้งสุดมันส์ เช่น เทศกาลดอกไม้ไฟสุดอลังการที่จัดขึ้นทั่วประเทศ คุณจะได้เห็นคนญี่ปุ่นใส่ชุดยูกาตะเดินเที่ยวตลาดนัด และได้ลองชิมอาหารเทศกาลอร่อย ๆ อย่างทาโกะยากิและน้ำแข็งไสแสนชื่นใจ หรือถ้าชอบธรรมชาติ ลองปีนภูเขาฟูจิในช่วงนี้ดูสิ วิวที่ได้เห็นจากยอดเขาเป็นอะไรที่คุ้มค่ากับการเหนื่อยสุด ๆ!

- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) ใครที่เคยเห็นรูปดอกซากุระบานและคิดว่า “ฉันต้องไปเห็นให้ได้สักครั้งในชีวิต” ฤดูใบไม้ผลิคือตัวเลือกของคุณ! ช่วงนี้ทั้งประเทศจะถูกแต่งแต้มด้วยสีชมพูของดอกซากุระที่บานสะพรั่งเต็มสวนสาธารณะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสวนอุเอโนะในโตเกียวหรือริมแม่น้ำคาโมะในเกียวโต แถมบรรยากาศยังสดใส เหมาะกับการปิคนิคใต้ต้นซากุระพร้อมจิบสาเกเบา ๆ และพูดเลยว่า นี่แหละคือประสบการณ์ญี่ปุ่นที่แท้จริง !

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) ช่วงนี้ญี่ปุ่นสวยแบบเกินบรรยาย เพราะใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลืองสดใสไปทั่วภูเขาและสวนต่าง ๆ สถานที่ยอดฮิตคืออาราชิยามะในเกียวโต และนิกโก้ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีสวยจับใจ บรรยากาศเย็นสบายกำลังดี เหมาะกับการเดินเล่นหรือขี่จักรยานชมวิวแบบชิล ๆ แถมยังไม่ต้องเจอกับฝูงนักท่องเที่ยวหนาแน่นเหมือนฤดูอื่น ๆ
เคล็ดลับ : พยายามหลีกเลี่ยงช่วง โกลเด้นวีค (ปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม) เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก และที่พักก็แพงเว่อร์ นอกจากนี้ ช่วง ปีใหม่ (ปลายธันวาคมถึงต้นมกราคม) ก็เป็นอีกช่วงที่ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวแห่กันออกมาเที่ยว ดังนั้น ถ้าไม่ชอบความวุ่นวาย ลองเลี่ยงช่วงเหล่านี้ดูนะ !
2. วางแผนเส้นทางและจุดหมายปลายทาง
เมื่อคุณเลือกช่วงเวลาได้แล้ว ก็ถึงเวลาสนุกกับการวางแผนเส้นทางและจุดหมายปลายทางของทริปญี่ปุ่น! การวางแผนดี ๆ จะช่วยให้คุณเที่ยวได้อย่างเต็มอิ่มและประหยัดเวลาสุด ๆ ลองมาดูกันว่าแต่ละเมืองในญี่ปุ่นมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง !
เมืองหลักที่น่าเที่ยวในญี่ปุ่น

- โตเกียว : นี่คือเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ! โตเกียวเหมือนเป็นสวรรค์ของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย อาหารอร่อย หรือวัฒนธรรมสุดคูล ที่นี่คุณจะได้เดินช้อปปิ้งในย่านฮาราจูกุที่เต็มไปด้วยแฟชั่นแปลกตา ถ่ายรูปกับฝูงชนที่ไขว้กันไปมาในสี่แยกชิบูย่า หรือเดินเล่นในอาซากุสะเพื่อสักการะวัดเซนโซจิ แล้วอย่าลืมแวะชมโตเกียวสกายทรีเพื่อชมวิวเมืองแบบ 360 องศา !

เกียวโต : เมืองนี้เหมาะกับคนที่ชอบความสงบและวัฒนธรรมโบราณ ถ้าคุณอยากเห็นวัดและศาลเจ้าที่สวยงามในบรรยากาศคลาสสิก เกียวโตคือคำตอบ! ลองไปเดินเล่นในอาราชิยามะเพื่อชมป่าไผ่และสะพานโทเง็ตสึเคียว หรือแวะไปวัดทองคินคะคุจิที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกาย แล้วอย่าลืมสวมชุดกิโมโนเดินเล่นในย่านกิออนเพื่อสัมผัสบรรยากาศเก่าแก่แบบเต็มอิ่ม

- โอซาก้า : ถ้าคุณรักอาหาร (ซึ่งใครไม่รักบ้างล่ะ?) โอซาก้าคือเมืองที่คุณต้องไป ! เมืองนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น “ครัวของญี่ปุ่น” เพราะอาหารทุกจานอร่อยเว่อร์ ตั้งแต่ทาโกะยากิไปจนถึงโอโคโนมิยากิ อย่าลืมไปถ่ายรูปกับป้ายไฟกูลิโกะในย่านโดทงโบริที่โด่งดัง และแวะไปชมปราสาทโอซาก้าที่สวยงามอลังการ

ฮอกไกโด : สำหรับสายธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง ฮอกไกโดคือสวรรค์ ! ฤดูร้อนที่นี่มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ฟูราโนะสวยจนต้องหยิบกล้องมาถ่ายรัว ๆ ส่วนในฤดูหนาว คุณจะได้เห็นหิมะขาวโพลนสวยงาม และสามารถเล่นสกีได้ที่รีสอร์ตระดับโลกอย่างนิเซโกะ หรือถ้าคุณรักอาหารทะเล อย่าพลาดซูชิและปูยักษ์ที่สดที่สุดในชีวิต!
แผนการเดินทางระหว่างเมือง
JR Pass : ถ้าคุณมีแผนเดินทางข้ามเมืองใหญ่ ๆ หลายเมือง JR Pass คือตัวช่วยสำคัญ! เป็นบัตรที่ให้คุณขึ้นรถไฟชินคันเซ็น (รถไฟหัวกระสุน) และรถไฟของ JR ได้แบบไม่จำกัดในช่วงระยะเวลาที่กำหนด การซื้อ JR Pass จะช่วยประหยัดเงินได้เยอะ และยังทำให้การเดินทางของคุณรวดเร็วและสะดวกขึ้นอีกด้วย
พาหนะอื่น ๆ : ถ้าคุณวางแผนเที่ยวเฉพาะในเมืองใหญ่ การใช้รถไฟฟ้าใต้ดินหรือรถบัสก็สะดวกดีเหมือนกัน สำหรับในเมืองเล็ก ๆ หรือถ้าคุณอยากเที่ยวแบบอิสระมากขึ้น การเช่ารถขับก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ต้องระวังเรื่องกฎจราจรและป้ายภาษาญี่ปุ่นที่อาจจะทำให้สับสนหน่อย
คำแนะนำ : ในการวางแผนเส้นทาง
เลือกสถานที่ที่อยากไปให้ชัดเจน : ลองลิสต์สถานที่ที่อยากไปให้หมดก่อน แล้วดูว่าแต่ละที่อยู่ใกล้กันไหม จะได้จัดเส้นทางให้เหมาะสม ไม่เสียเวลาเดินทางมากเกินไป
ใช้แอปพลิเคชันช่วยวางแผน : แอปอย่าง Google Maps และ Hyperdia เป็นตัวช่วยที่ดีในการดูเส้นทางรถไฟและคำนวณเวลาเดินทางแบบแม่นยำ คุณจะได้ไม่หลงและประหยัดเวลาไปได้เยอะ
ยืดหยุ่นบ้างก็ดี : แม้จะวางแผนไว้แน่นแล้ว แต่เผื่อเวลาไว้สำหรับการเดินเล่นสบาย ๆ หรือแวะร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ ระหว่างทางบ้าง รับรองว่าคุณจะได้เจอประสบการณ์ดี ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในแผนอีกเพียบ!
3. จองที่พักล่วงหน้า
เมื่อคุณวางแผนเส้นทางได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจองที่พัก เพราะเรื่องที่พักนี่แหละจะช่วยให้ทริปของคุณราบรื่นและสบายใจยิ่งขึ้น การจองล่วงหน้าไม่ใช่แค่ช่วยให้คุณได้ราคาดี แต่ยังทำให้มั่นใจว่าจะมีที่พักชัวร์ ๆ โดยไม่ต้องเครียดหาที่พักเมื่อไปถึง!
ประเภทของที่พักในญี่ปุ่น

- โรงแรม : ถ้าคุณชอบความสะดวกสบายและบริการแบบครบครัน โรงแรมคือคำตอบ! มีตั้งแต่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่มีห้องพักกว้างขวาง วิวสวยปัง ไปจนถึงโรงแรมบิสสิเนสที่ราคาประหยัด แต่ยังคงความสะดวกไว้ครบถ้วน

Airbnb : ถ้าคุณเดินทางกับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว และต้องการพื้นที่กว้างขวาง Airbnb เป็นตัวเลือกที่ดีเลย คุณจะได้ที่พักหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่บ้านญี่ปุ่นดั้งเดิมไปจนถึงอพาร์ตเมนต์ทันสมัย และยังได้ความเป็นส่วนตัวด้วย

- เรียวกัง : ถ้าอยากสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ ๆ ลองพักที่เรียวกังดูสิ! เป็นที่พักสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ที่มีฟูกนอนปูบนเสื่อทาทามิ มีบริการอาหารญี่ปุ่นชุดใหญ่เสิร์ฟถึงห้อง และที่ขาดไม่ได้คือออนเซ็นส่วนตัวที่จะทำให้คุณผ่อนคลายแบบสุด ๆ บอกเลยว่าการพักในเรียวกังเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด!

โฮสเทลและเกสต์เฮ้าส์ : สำหรับนักเดินทางสายประหยัด โฮสเทลและเกสต์เฮ้าส์ในญี่ปุ่นมีคุณภาพดีมาก! แถมยังเป็นที่ที่คุณจะได้พบเพื่อนใหม่จากทั่วโลกอีกด้วย บางที่มีห้องนอนรวมแบบแคปซูลที่สะอาดและทันสมัย สะดวกและสนุกไปอีกแบบ
เคล็ดลับการจองที่พัก
- เช็คราคาและอ่านรีวิว : ก่อนจองที่พัก ลองเช็คราคาจากหลายเว็บไซต์ เช่น Booking.com, Agoda หรือ Rakuten Travel และอย่าลืมอ่านรีวิวจากผู้เข้าพักจริงด้วย จะได้รู้ว่าที่พักเป็นอย่างไรบ้าง บรรยากาศดีไหม บริการเป็นยังไง
- เลือกทำเลที่สะดวก : ทำเลคือสิ่งสำคัญ! ถ้าคุณวางแผนเที่ยวในเมืองใหญ่ อย่างโตเกียวหรือโอซาก้า ควรเลือกที่พักใกล้สถานีรถไฟใหญ่ เพราะการเดินทางในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะพึ่งพารถไฟ การพักใกล้สถานีจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาเดินทางได้เยอะ หรือถ้าไปเที่ยวเมืองเล็ก ๆ อาจเลือกที่พักใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญเพื่อความสะดวก
- จองล่วงหน้าในช่วงไฮซีซั่น : ถ้าคุณวางแผนไปเที่ยวช่วงที่มีเทศกาลใหญ่ ๆ หรือฤดูที่นักท่องเที่ยวเยอะ เช่น ช่วงซากุระบานหรือช่วงปีใหม่ แนะนำให้จองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 เดือน เพื่อให้ได้ที่พักในทำเลดี ๆ และราคาที่ไม่แพงจนเกินไป
ข้อควรระวังในการจองที่พัก
- อ่านนโยบายการยกเลิก : เพราะบางครั้งแผนเราอาจเปลี่ยนได้ การอ่านนโยบายการยกเลิกจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า หากมีเหตุฉุกเฉิน คุณสามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงการจองได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเยอะเกินไป
- ตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวก : บางที่อาจไม่มีบริการที่คุณต้องการ เช่น ลิฟต์สำหรับอาคารสูง หรือห้องน้ำในตัว ถ้าคุณมีข้อจำกัดบางอย่าง อย่าลืมตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนจอง
คำแนะนำ : ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบประสบการณ์แปลกใหม่ ลองเลือกพักที่ “โรงแรมแคปซูล” ในโตเกียวดูสิ! เป็นห้องพักเล็ก ๆ คล้ายกับแคปซูลอวกาศ แต่เต็มไปด้วยความสะอาดและความแปลกใหม่

4. เตรียมเอกสารสำคัญและบัตรโดยสาร
เมื่อคุณวางแผนเส้นทางและจองที่พักเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมเอกสารสำคัญต่าง ๆ และบัตรโดยสารที่จำเป็นสำหรับการเดินทางไปญี่ปุ่น การเตรียมตัวให้พร้อมจะช่วยให้ทริปของคุณราบรื่นและปราศจากความเครียด มาดูกันว่าคุณต้องเตรียมอะไรบ้าง!
การขอวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น
- สำหรับคนไทย ข่าวดีคือถ้าคุณวางแผนไปเที่ยวไม่เกิน 15 วัน คุณจะได้รับการ ยกเว้นวีซ่า นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องเสียเวลาขอวีซ่าให้ยุ่งยาก เพียงแค่มีหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ (ควรเหลืออายุอย่างน้อย 6 เดือน) ก็พร้อมลุยได้เลย
- แต่ถ้าคุณคิดจะอยู่เกิน 15 วัน อาจต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอวีซ่า ซึ่งสามารถทำได้ที่สถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย อย่าลืมเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเพื่อให้กระบวนการผ่านไปอย่างราบรื่น
การแลกเงินและบัตรเครดิต
- แม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่ทันสมัยสุด ๆ แต่การใช้เงินสดยังคงเป็นเรื่องปกติในหลาย ๆ สถานที่ โดยเฉพาะร้านค้าเล็ก ๆ และร้านอาหารท้องถิ่น ดังนั้น ควรแลกเงินเยนไว้ล่วงหน้าให้เพียงพอ การแลกเงินจากธนาคารในไทย หรือที่สนามบินก็สะดวกดี หรือถ้าอยากได้เรทที่ดีกว่านั้น อาจลองเช็คกับร้านแลกเงินที่ได้รับความนิยม
- นอกจากนี้ ควรมีบัตรเครดิตติดตัวไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือสำหรับการช้อปปิ้งในห้างใหญ่ ๆ บัตรที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือ Visa และ Mastercard ส่วน American Express อาจใช้ได้บางที่เท่านั้น
- ถ้าคุณต้องการกดเงินสดที่ญี่ปุ่น ตู้ ATM ที่สะดวกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวคือตู้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ซึ่งรองรับบัตรต่างชาติ และมีคำแนะนำเป็นภาษาอังกฤษ
บัตรโดยสารสำหรับการเดินทางในญี่ปุ่น
- JR Pass : ถ้าคุณวางแผนจะเดินทางข้ามเมือง เช่น โตเกียวไปโอซาก้า หรือไปเมืองไกล ๆ การซื้อ JR Pass จะช่วยประหยัดเงินได้เยอะ บัตรนี้จะช่วยให้คุณขึ้นรถไฟชินคันเซ็น (รถไฟหัวกระสุน) และรถไฟของ JR ได้แบบไม่จำกัดในช่วงเวลาที่คุณเลือก เช่น 7 วัน หรือ 14 วัน แต่ต้องซื้อจากนอกประเทศญี่ปุ่นก่อนเดินทาง ดังนั้น อย่าลืมจัดการซื้อล่วงหน้า!
- บัตร Suica หรือ Pasmo : เป็นบัตรเติมเงินที่ใช้จ่ายค่าเดินทางในเมืองใหญ่ ๆ อย่างโตเกียวและโอซาก้าได้สะดวก บัตรนี้ไม่ใช่แค่ใช้กับรถไฟและรถบัส แต่ยังใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อหรือแม้แต่ตู้หยอดเหรียญได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นบัตรอเนกประสงค์ที่ควรมีติดตัวไว้!
- บัตรโดยสารเฉพาะเมือง : บางเมือง เช่น เกียวโต หรือฮิโรชิม่า มีบัตรโดยสารเฉพาะที่ใช้เดินทางได้แบบไม่จำกัดในเมืองนั้น ๆ ซึ่งช่วยประหยัดเงินและทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น ลองศึกษาแต่ละเมืองเพื่อดูว่ามีบัตรแบบไหนที่เหมาะกับแผนของคุณบ้าง
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ประกันการเดินทาง : อาจฟังดูไม่สำคัญ แต่ประกันการเดินทางจะช่วยให้คุณอุ่นใจได้ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วย หรือกระเป๋าเดินทางหาย ค่ารักษาพยาบาลในญี่ปุ่นค่อนข้างแพง ดังนั้น การทำประกันไว้ล่วงหน้าถือเป็นไอเดียที่ดีสุด ๆ
- สำเนาเอกสารสำคัญ : เช่น หนังสือเดินทางและตั๋วเครื่องบิน ควรถ่ายสำเนาเก็บไว้ในกรณีที่เอกสารหาย จะช่วยให้คุณจัดการสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น
คำแนะนำ : อย่าลืมตรวจสอบกฎระเบียบการเดินทางล่าสุด เช่น ข้อกำหนดเรื่องวัคซีนหรือมาตรการป้องกันโรค (เช่น COVID-19) เพื่อให้การเดินทางของคุณปลอดภัยและไม่มีปัญหา !
5. เตรียมตัวเดินทางและสิ่งจำเป็นที่ต้องพก
ใกล้จะถึงวันเดินทางแล้ว! ตื่นเต้นใช่ไหมล่ะ ? แต่ก่อนจะลุยไปญี่ปุ่น อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมด้วยสิ่งของที่จำเป็น เพื่อให้การผจญภัยของคุณสนุกสุด ๆ และไร้ปัญหา นี่คือสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไว้ในกระเป๋าเดินทางของคุณ:
สิ่งของสำคัญที่ควรมีติดตัว

อะแดปเตอร์ไฟฟ้า : ญี่ปุ่นใช้ปลั๊กไฟแบบขากลมสองขา (คล้ายของอเมริกา) และมีแรงดันไฟฟ้า 100 โวลต์ ดังนั้น หากคุณใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการแรงดันไฟต่างกัน หรือปลั๊กไฟที่ไม่เข้ากับแบบของญี่ปุ่น อย่าลืมพกอะแดปเตอร์ไปด้วย!

ยาและของใช้ส่วนตัว : อย่าลืมพกยาประจำตัว หรือยาแก้ปวดและยาแก้เมารถไปด้วย เพราะร้านขายยาในญี่ปุ่นอาจไม่มียาบางตัวที่คุณต้องการ นอกจากนี้ ของใช้ส่วนตัว เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และของใช้ในห้องน้ำส่วนตัว ก็เตรียมไว้ให้พร้อม โดยเฉพาะถ้าคุณมีผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้อย่างเฉพาะเจาะจง

แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) : สำหรับคนที่ใช้โทรศัพท์ตลอดเวลา เช่น ถ่ายรูป เช็คแผนที่ หรืออัปเดตโซเชียลมีเดีย พกแบตสำรองไปด้วยเผื่อแบตหมดระหว่างวัน เพราะบางทีคุณอาจจะเจอวิวสวย ๆ หรือสถานที่ที่น่าสนใจที่ต้องถ่ายรูปจนลืมเรื่องแบตหมดเลยล่ะ!
การเช่าซิมการ์ดหรือพ็อกเก็ต Wi-Fi
- ซิมการ์ดสำหรับนักท่องเที่ยว : ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเดินทางคนเดียวหรือไม่ต้องแชร์อินเทอร์เน็ตกับใคร ซิมการ์ดนักท่องเที่ยวที่มีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตไม่จำกัดจะเป็นตัวเลือกที่ดี ซิมการ์ดเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ที่สนามบินหรือสั่งออนไลน์ล่วงหน้า
- พ็อกเก็ต Wi-Fi : ถ้าคุณเดินทางเป็นกลุ่ม หรืออยากให้อินเทอร์เน็ตครอบคลุมทุกอุปกรณ์ พ็อกเก็ต Wi-Fi จะช่วยให้ทุกคนเชื่อมต่อได้แบบไร้สะดุด และสะดวกต่อการใช้แผนที่หรือแปลภาษาในระหว่างเดินทาง แถมยังแชร์กับเพื่อน ๆ ได้ด้วยนะ!
เคล็ดลับ : การเช่าพ็อกเก็ต Wi-Fi ล่วงหน้าจะได้ราคาดีกว่า และบางที่มีบริการส่งให้ที่สนามบินพร้อมใช้งานทันที
แอปพลิเคชันที่ควรดาวน์โหลดก่อนเดินทาง

Google Maps : แผนที่ที่แม่นยำที่สุด ช่วยให้คุณเดินทางในเมืองใหญ่ ๆ ได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ ยังสามารถดูเส้นทางรถไฟและบอกวิธีเดินจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้แบบเป๊ะ ๆ

Google Translate : ถึงแม้ว่าคนญี่ปุ่นหลายคนจะพยายามช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเสมอ แต่การสื่อสารอาจเป็นอุปสรรคได้ โดยเฉพาะในร้านอาหารท้องถิ่นที่ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ Google Translate จะช่วยให้คุณสื่อสารได้ง่ายขึ้น และยังมีฟีเจอร์แปลข้อความจากภาพถ่ายที่สะดวกสุด ๆ!

Navitime : แอปนี้สำคัญสุด ๆ สำหรับการวางแผนเส้นทางรถไฟในญี่ปุ่น คุณสามารถค้นหาตารางรถไฟ และดูว่าต้องเปลี่ยนสายที่ไหน ช่วยให้คุณเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนที่ซับซ้อนของญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น

Japan Official Travel App : แอปแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากหน่วยงานการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ให้คุณรู้ทันทุกกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษ
บทความที่น่าสนใจ”เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง”
- เที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน 6 คืน แจกแพลนสุดฟิน เที่ยวคุ้ม ครบจบ ! ปี 2025
- ทำความรู้จักกับภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น ก่อนไปเที่ยวกันดีกว่า
- เรื่องควรรู้ ก่อนเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่น ด้วยตนเอง

เคล็ดลับ : การจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก
การได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูกคือความฝันของนักเดินทางทุกคน เพราะเงินที่ประหยัดได้จากค่าตั๋วสามารถเอาไปใช้เที่ยวหรือกินของอร่อยในญี่ปุ่นได้อีกเยอะ! นี่คือเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณได้ตั๋วเครื่องบินในราคาดีที่สุด:
- 1. จองล่วงหน้า แต่ไม่เร็วเกินไป :
- การจองตั๋วล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือนก่อนวันเดินทางเป็นช่วงที่ดีสำหรับการได้ราคาตั๋วที่สมเหตุสมผล แต่ถ้าคุณวางแผนไปช่วงเทศกาลใหญ่ ๆ เช่น ปีใหม่หรือซากุระบาน ควรจองล่วงหน้ามากกว่านั้น เพราะตั๋วมักจะแพงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อใกล้วันเดินทาง
- สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ (Low-Cost Airlines) บางครั้งจะมีโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเวลาจำกัด คอยติดตามข่าวสารให้ดีและจองทันทีที่เห็นโปรโมชั่น
- 2. ใช้เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาตั๋ว :
- เว็บไซต์อย่าง Skyscanner, Google Flights, หรือ Kayak เป็นเครื่องมือที่ดีในการค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก คุณสามารถเปรียบเทียบราคาได้จากหลายสายการบินในครั้งเดียว และยังดูได้ด้วยว่าการบินวันไหนจะถูกที่สุด
- เคล็ดลับเล็ก ๆ: ลองค้นหาตั๋วในโหมด “เดือนทั้งหมด” เพื่อดูราคาตั๋วที่ถูกที่สุดในแต่ละเดือน ถ้าคุณมีวันเดินทางที่ยืดหยุ่น จะช่วยประหยัดเงินได้เยอะเลย!
- 3. เลือกบินวันธรรมดา :
- ตั๋วเครื่องบินในวันธรรมดา (เช่น วันอังคารหรือวันพุธ) มักจะถูกกว่าการบินวันศุกร์หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ การบินในช่วงเวลาที่ไม่เป็นที่นิยม เช่น เที่ยวบินเช้าตรู่หรือตอนดึก ก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เช่นกัน
- 4. สมัครรับข่าวสารและโปรโมชั่น :
- สมัครรับข่าวสารจากสายการบินที่คุณชอบ เพราะพวกเขามักจะส่งอีเมลแจ้งโปรโมชันพิเศษให้สมาชิกก่อนใคร หรือถ้ามีการลดราคาพิเศษ คุณจะได้ไม่พลาด!
- ติดตามเพจหรือกลุ่มในโซเชียลมีเดียที่แชร์ข่าวสารตั๋วเครื่องบินราคาถูก เช่น กลุ่มคนชอบเที่ยว หรือเพจท่องเที่ยว ที่คอยอัปเดตโปรโมชันเด็ด ๆ อยู่เสมอ
- 5. ใช้คะแนนสะสมหรือบัตรเครดิต :
- ถ้าคุณมีคะแนนสะสมจากโปรแกรมของสายการบินหรือบัตรเครดิต ลองใช้แลกตั๋วเครื่องบินหรือลดค่าตั๋วได้เลย บางบัตรเครดิตมีโปรโมชั่นร่วมกับสายการบินที่ทำให้คุณได้ส่วนลดพิเศษ หรือได้ไมล์สะสมเพิ่ม
- โปรแกรมสะสมไมล์ : สมัครสมาชิกโปรแกรมสะสมไมล์ของสายการบินที่คุณใช้บ่อย ๆ เพราะการสะสมไมล์อาจทำให้คุณได้สิทธิพิเศษ เช่น การอัปเกรดที่นั่ง หรือส่วนลดตั๋วในอนาคต
- 6. อย่าลืมเช็คสนามบินปลายทาง :
- ญี่ปุ่นมีสนามบินหลายแห่งในเมืองใหญ่ เช่น โตเกียวมีทั้งสนามบินนาริตะและฮาเนดะ ลองเปรียบเทียบราคาตั๋วระหว่างสนามบินทั้งสอง หรือพิจารณาเดินทางไปลงที่โอซาก้า หรือสนามบินอื่น ๆ ถ้ามีราคาที่ดีกว่า
ถ้าคุณไม่รีบหรือต้องการผจญภัย ลองมองหาเที่ยวบินที่มีการต่อเครื่อง เพราะมักจะมีราคาถูกกว่าเที่ยวบินตรง แต่อย่าลืมเผื่อเวลาในการต่อเครื่องให้เพียงพอ เพื่อให้การเดินทางราบรื่นและไม่พลาดเที่ยวบินถัดไป!
พร้อมออกเดินทางหรือยัง ? ลองแพลนเที่ยวญี่ปุ่นของคุณเลย !
การเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองฟังดูสนุกและน่าตื่นเต้นใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าคุณยังรู้สึกว่ามันดูซับซ้อนเกินไป หรืออยากมีแผนการเดินทางที่รัดกุมกว่านี้ ลองดูแพลนเที่ยวที่เราเตรียมไว้ให้สิ! ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชอบเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงสีอย่างโตเกียว สายกินที่ต้องลุยโอซาก้า สายธรรมชาติที่อยากสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ในฮอกไกโด หรือสายวัฒนธรรมที่อยากสำรวจวัดโบราณในเกียวโต เราก็มีแพลนให้ครบ!

FUJI
แพลนเที่ยวแบบจัดเต็ม 7 วัน 6 คืน : เดินทางข้ามเมืองด้วย JR Pass ที่คุณจะได้สำรวจทุกสิ่งที่ญี่ปุ่นมีให้ ตั้งแต่การชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยจนต้องตะลึง ไปจนถึงการชิมอาหารทะเลสด ๆ ในตลาดปลาซึกิจิ

UENO PARK
แพลนท่องเที่ยวชิล ๆ 5 วัน 4 คืน : เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้เวลาเดินเล่นสบาย ๆ ชมซากุระในสวนอุเอโนะ หรือเดินช้อปปิ้งในย่านชินจูกุ พร้อมแวะพักผ่อนในคาเฟ่น่ารัก ๆ

JAPANESE FOOD
แพลนพิเศษสำหรับสายกิน : รวมร้านอาหารเด็ดที่ห้ามพลาด ตั้งแต่ซูชิสายพานในโตเกียว ไปจนถึงโอเด้งที่ต้องลองในโอซาก้า และอย่าลืมร้านราเม็งชื่อดังที่คนต่อแถวกันยาวเหยียด!
หากคุณสนใจแพลนเที่ยวแบบไหน หรืออยากปรับแผนให้ตรงกับความต้องการของคุณ บอกเราได้เลย! แพลนเที่ยวที่ดีจะช่วยให้คุณประหยัดเวลา ประหยัดงบ และได้ประสบการณ์ที่คุ้มค่าแบบสุด ๆ
พร้อมหรือยังที่จะออกไปสัมผัสญี่ปุ่นในแบบที่คุณไม่เคยเจอ ? จองตั๋วเครื่องบิน เก็บกระเป๋า แล้วไปลุยญี่ปุ่นด้วยตัวเองกันเถอะ! ไม่ว่าจะไปครั้งแรกหรือครั้งไหน ญี่ปุ่นจะทำให้คุณประทับใจแบบไม่รู้ลืมแน่นอน!
บริการรับทำแพลนเที่ยว ลูกค้าสามารถเลือกแพลนเที่ยวได้เอง เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองได้แบบง่าย ๆ

ทั้งเรื่องกิน เรื่องเที่ยว ที่พัก ที่ช้อป พร้อมรายละเอียดการเดินทาง ไม่พลาดกับทุกสถานที่ยอดฮิต!
แหล่งอ้างอิง”เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง”
- องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) : www.jnto.go.jp/th
- Go Tokyo : www.gotokyo.org/th
- Osaka Info : www.osaka-info.jp/th
- Hyperdia : www.hyperdia.com