หากเพื่อน ๆ กำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง และมองหาเมืองที่ผสมผสานความทันสมัยของเมืองใหญ่เข้ากับวัฒนธรรมอันสงบสุขได้อย่างลงตัว มีอาหารอร่อยเลื่องชื่อจนต้องหาโอกาสไปลองสักครั้ง และเป็นเมืองที่เที่ยวง่าย เดินทางสะดวกสบาย คำตอบของเพื่อน ๆ อาจอยู่ที่นี่ “ฟุกุโอกะ (Fukuoka)” เมืองหลวงแห่งเกาะคิวชูที่พร้อมจะทำให้เพื่อน ๆ ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเยือน

เพื่อน ๆ หลายคนอาจรู้จัก “ฟุกุโอกะ (Fukuoka)” ในฐานะ “ประตูสู่คิวชู” ที่เป็นเพียงเมืองทางผ่าน แต่ความจริงแล้วเมืองแห่งนี้มีเสน่ห์ซ่อนอยู่มากมายเกินกว่าที่เพื่อน ๆ จะจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก” อยู่เสมอ ด้วยเมืองที่สะดวกสบาย สนามบินที่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียงไม่กี่นาที และระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพสูงสุด บทความนี้เรารวบรวมทุกอย่างของการเที่ยวฟุกุโอกะ มาไว้ให้เพื่อน ๆ ในที่เดียว ตั้งแต่การวางแผนเดินทาง ที่เที่ยวไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด แหล่งของกินเด็ดที่ต้องไปโดน ไปจนถึงการเลือกที่พักให้เหมาะกับสไตล์การเที่ยวของเพื่อน ๆ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปค้นพบกันว่าทำไมฟุกุโอกะถึงเป็นจุดหมายที่ควรไปสำหรับทริปญี่ปุ่นครั้งต่อไปของเพื่อน ๆ
ทำไมต้องเลือก “ฟุกุโอกะ (Fukuoka)” เป็นจุดหมายต่อไป?
เมืองน่าเที่ยวมากมายในญี่ปุ่น อะไรที่ทำให้ฟุกุโอกะโดดเด่นและควรค่าแก่การเป็นหมุดหมายต่อไปของเพื่อน ๆ คำตอบนั้นมากกว่าแค่การเป็นเมืองที่สวยงาม แต่เป็นเพราะฟุกุโอกะ คือเมืองที่มีชีวิตชีวาของเกาะคิวชู ที่ซึ่ง “อาหารชั้นเลิศ” คือหัวใจสำคัญของการเดินทาง เมืองนี้ไม่ได้เป็นเพียงทางผ่าน แต่เป็นจุดหมายที่มอบประสบการณ์อันน่าจดจำด้วยเหตุผลเหล่านี้

- เมืองที่มีชีวิตชีวา : ฟุกุโอกะ คือเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดในญี่ปุ่น และด้วยตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่ใกล้ทวีปเอเชียแผ่นดินใหญ่ (ใกล้โซลและเซี่ยงไฮ้มากกว่าโตเกียวเสียอีก) ทำให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์กลางแห่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม บรรยากาศของเมืองจึงมีความสบาย ๆ เป็นกันเอง ผู้คนมีทัศนคติที่ดีและอบอุ่น จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมดิเตอร์เรเนียนแห่งญี่ปุ่น” เหมาะสำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่ผ่อนคลายและเป็นมิตร
- สวรรค์ของนักชิมในราคาที่เข้าถึงได้ : หากเรื่องกินคือเรื่องใหญ่สำหรับเพื่อน ๆ “ฟุกุโอกะ” เมืองนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศว่ามีอาหารอร่อยเลื่องชื่อในราคาที่ไม่แพงอย่างน่าทึ่ง คุณจะได้ลอง “ทงคตสึราเมง” ต้นตำรับในราคาเริ่มต้นเพียงไม่กี่ร้อยเยน หรือลองเมนูปลาเฉพาะถิ่นอย่าง “โกมะซะบะ” ที่สดใหม่ รวมถึงสัมผัสวัฒนธรรม “ยาไต” หรือร้านแผงลอยริมน้ำ ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทั้งญี่ปุ่นให้มาลอง
- เมืองที่ครบเครื่อง : จากเมืองสู่ทะเลและภูเขาของฟุกุโอกะ คือข้อได้เปรียบอย่างมาก เพื่อน ๆ สามารถสนุกกับความเป็นเมืองใหญ่ในย่านธุรกิจอย่าง “ฮากาตะ (Hakata)” และย่านวัฒนธรรมอย่าง “เทนจิน (Tenjin)” ได้อย่างเต็มที่ และในวันเดียวกันก็สามารถเดินทางออกไปพักผ่อนหย่อนใจริมหาดทรายที่ “ซีไซด์โมโมจิ (Seaside Momochi)” หรือไปตั้งแคมป์และเดินป่าที่ “คาบสมุทรอิโตชิมะ (Itoshima Peninsula)” ได้อย่างง่ายดาย เป็นความครบเครื่องที่หาได้ยากในเมืองใหญ่อื่น ๆ
- เมืองแห่งเทศกาลที่สนุกสนานตลอดปี : ฟุกุโอกะ คือบ้านของเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และมีสีสัน หากเพื่อน ๆ มาเยือนในช่วงโกลเด้นวีคเดือนพฤษภาคม จะได้พบกับเทศกาล “ฮากาตะ ดงทะคุ (Hakata Dontaku)” ที่ดึงดูดผู้คนกว่า 2-3 ล้านคนในแต่ละปี หรือตื่นตาตื่นใจไปกับความแข็งแกร่งของผู้คนในเทศกาล “ฮากาตะ กิอง ยามากาสะ (Hakata Gion Yamakasa)” ในเดือนกรกฎาคม ที่มีการแห่เกี้ยวขนาดใหญ่หนักกว่า 1 ตันไปตามท้องถนน ความสนุกสนานเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของ DNA ของเมือง
- จุดหมายที่ “ใช่” นอกเส้นทางหลัก : หากเพื่อน ๆ เคยสัมผัสความวุ่นวายของโตเกียว ความคลาสสิกของเกียวโต หรือความสนุกสนานของโอซาก้ามาแล้ว และกำลังมองหาเมืองที่มีบรรยากาศสบาย ๆ แต่ยังคงความเป็นเมืองใหญ่อย่างครบถ้วน “ฟุกุโอกะ” ที่นี่คือประตูสู่การผจญภัยทั่วเกาะคิวชูที่รอให้คุณมาเปิดประสบการณ์ด้วยตัวเอง
การเดินทางใน “ฟุกุโอกะ (Fukuoka)” เริ่มต้นทริปเที่ยวเองแบบง่าย ๆ
หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้การเที่ยวฟุกุโอกะด้วยตัวเองเป็นเรื่องง่าย และได้รับความนิยมอย่างสูง ก็คือระบบการคมนาคมที่ถูกออกแบบมาอย่างดีและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งลงจากเครื่องบิน ต้องการสำรวจจุดต่าง ๆ ในเมือง หรือวางแผนจะใช้ฟุกุโอกะ เป็นฐานในการออกไปผจญภัยในเมืองอื่นของคิวชู ทุกอย่างก็สะดวกสบายไปหมด เราได้สรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเดินทางที่คุณต้องรู้มาให้แล้วที่นี่!

การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองฟุกุโอกะ
ลืมการเดินทางจากสนามบินที่แสนยาวนานและวุ่นวายไปได้เลย เพราะสนามบินฟุกุโอกะ (Fukuoka Airport – FUK) ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสนามบินที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกและรวดเร็วที่สุดในญี่ปุ่น!
- รถไฟใต้ดิน (Subway) : นี่คือวิธีที่แนะนำที่สุด คุณสามารถเดินจากอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (Domestic Terminal) ไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน “Fukuoka Airport” ได้โดยตรง และใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสายคูโค (Kuko Line) เพียง 2 สถานี (ประมาณ 6 นาที) ก็จะถึงสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางหลักของเมือง หรือนั่งต่อไปอีก 3 สถานี (ประมาณ 11 นาที) ก็จะถึงสถานีเทนจิน (Tenjin Station) แหล่งช้อปปิ้งและวัฒนธรรม ด้วยค่าโดยสารเพียง 260 เยนเท่านั้น (หากเดินทางจากอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ จะมีรถชัทเทิลบัสฟรีมาส่งที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศเพื่อต่อรถไฟใต้ดิน)
- รถบัส (Bus) : มีบริการรถบัสจากสนามบินเพื่อเชื่อมต่อไปยังตัวเมืองและส่วนอื่น ๆ ในคิวชูโดยตรง ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณมีสัมภาระจำนวนมาก หรือที่พักของคุณอยู่ในเส้นทางของรถบัสพอดี
บัตรรถไฟและรถบัสสำหรับเที่ยวในฟุกุโอกะ
เพื่อความคุ้มค่าและสะดวกสบายในการสำรวจเมืองฟุกุโอกะ การเลือกใช้บัตรโดยสารแบบเหมาจ่ายเป็นความคิดที่ดี
- IC Card (Suica, Pasmo, ICOCA, Hayakaken) : บัตรเติมเงินอัจฉริยะคือเพื่อนที่ดีที่สุดของนักเดินทางในญี่ปุ่น คุณสามารถใช้บัตร IC Card จากภูมิภาคอื่น (เช่น Suica จากโตเกียว) แตะเพื่อจ่ายค่ารถไฟใต้ดิน รถบัส และซื้อของในร้านสะดวกซื้อที่ฟุกุโอกะได้เลย เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดหากคุณไม่ได้เดินทางบ่อยในหนึ่งวัน
- Fukuoka City Subway 1-Day Pass : บัตรโดยสารรถไฟใต้ดินแบบเหมา 1 วัน ราคา 640 เยน จะคุ้มค่าทันทีหากคุณวางแผนจะขึ้นรถไฟใต้ดิน 3 ครั้งขึ้นไปในหนึ่งวัน เหมาะสำหรับวันที่เน้นเที่ยวตามแนวรถไฟใต้ดินเป็นหลัก
- Fukuoka Tourist City Pass : บัตรนี้ออกแบบมาเพื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ มี 2 ราคาให้เลือก คือ 1,000 เยน (สำหรับเที่ยวในเมืองฟุกุโอกะ) และ 1,500 เยน (รวมการเดินทางไป Dazaifu ด้วย) จุดเด่นคือครอบคลุมการเดินทางทั้งรถไฟใต้ดิน, รถบัส Nishitetsu และรถไฟ JR (ในโซนที่กำหนด) ทำให้คุณเดินทางได้อย่างอิสระและคุ้มค่าที่สุดในวันเดียว
เดินทางจากฟุกุโอกะสู่เมืองอื่น
ด้วยตำแหน่งที่ตั้งฟุกุโอกะจึงเป็น “ประตูสู่คิวชู” การเดินทางจากที่นี่เพื่อไปเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ (Day Trip) หรือเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นนั้นทำได้ง่ายมาก โดยมีสถานี JR Hakata เป็นศูนย์กลาง
- รถไฟชินคันเซ็นและรถไฟด่วนพิเศษ (Shinkansen & Limited Express) : จากสถานี Hakata คุณสามารถนั่งรถไฟหัวกระสุนเพื่อไปยังเมืองสำคัญอย่างคุมาโมโตะ (Kumamoto) หรือนั่งรถไฟด่วนพิเศษ (Limited Express) ที่สวยงามและสะดวกสบายไปยังเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น นางาซากิ (Nagasaki), ยุฟุอิน (Yufuin), และ เบปปุ (Beppu) ได้อย่างรวดเร็ว
- รถบัสทางหลวง (Highway Bus) : เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ประหยัดกว่า โดยมีท่ารถบัสใหญ่อยู่ที่สถานี Hakata และ Tenjin ซึ่งมีเส้นทางครอบคลุมเมืองต่าง ๆ ทั่วเกาะคิวชู
- JR Kyushu Rail Pass : สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนที่จะเที่ยวหลายเมือง คือการซื้อพาสรถไฟเหมา หากแผนของคุณคือการใช้ฟุกุโอกะ เป็นฐานและออกไปเที่ยวเมืองรอบ ๆ การซื้อ JR Northern Kyushu Area Pass (มีแบบ 3 หรือ 5 วัน) จะช่วยคุณประหยัดค่าเดินทางไปได้อย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับการซื้อตั๋วทีละเที่ยว
- เดินทางข้ามประเทศ : ที่ท่าเรือฮากาตะ (Hakata Port International Terminal) ยังมีบริการเรือเฟอร์รี่ความเร็วสูงข้ามไปยังเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ตอกย้ำความเป็นเมืองท่านานาชาติของฟุกุโอกะได้เป็นอย่างดี
10 พิกัดที่เที่ยว “ฟุกุโอกะ (Fukuoka)” ห้ามพลาด อัปเดตล่าสุดปี 2025
“ฟุกุโอกะ” เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย มีตั้งแต่ศาลเจ้าเก่าแก่หลายร้อยปี ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลสุดล้ำ และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นสายวัฒนธรรม, สายช้อปปิ้ง, สายกิน หรือสายชิล ที่นี่มีครบทุกรสชาติ และนี่คือ 10 สถานที่เที่ยวในฟุกุโอกะ ที่ Trip japan online คัดสรรมาแล้วว่าเพื่อน ๆต้องไปเยือนให้ได้!
รวมของกิน “ฟุกุโอกะ (Fukuoka)” ที่ห้ามพลาดราเมงต้นตำรับและอาหารขึ้นชื่อ
ถ้าสถานที่ท่องเที่ยวคือร่างกาย “อาหาร” ก็เปรียบเสมือนจิตวิญญาณของฟุกุโอกะเลยทีเดียว เมืองนี้ได้รับการยอมรับไปทั่วญี่ปุ่นว่าเป็น “สวรรค์ของนักชิม” ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารชั้นเลิศได้ในราคาที่สบายกระเป๋าอย่างไม่น่าเชื่อ ตั้งแต่ราเมงชามเด็ดที่โด่งดังไปทั่วโลก ไปจนถึงหม้อไฟรสเลิศและวัฒนธรรมสตรีทฟู้ดที่ไม่เหมือนใคร เตรียมท้องของคุณให้พร้อม แล้วไปดูกันว่ามีอะไรที่ต้องห้ามพลาดบ้าง?
ทงคตสึราเมง (Tonkotsu Ramen)

นี่คือเมนูยืนหนึ่งที่เปรียบเสมือนลายเซ็นของฟุกุโอกะ หรือที่คนญี่ปุ่นมักจะเรียกติดปากว่า “ฮากาตะราเมง” จุดเด่นคือซุปกระดูกหมู (ทงคตสึ) ที่ผ่านการเคี่ยวนานหลายชั่วโมงจนได้น้ำซุปสีขาวขุ่นที่เข้มข้น หอมมัน และกลมกล่อม ทานคู่กับเส้นราเมงแบบตรงและเล็กที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ซุปเกาะเส้นได้ดี เสิร์ฟพร้อมหมูชาชูนุ่ม ๆ เห็ดหูหนู และต้นหอมซอย วัฒนธรรม “คาเอดามะ” (Kaedama / 替え玉) คือการสั่งขอเพิ่มเฉพาะเส้นราเมงเปล่า ๆ มาใส่ในน้ำซุปที่เหลืออยู่ เป็นวิธีทานของคนท้องถิ่นเพื่อให้ได้อิ่มอร่อยกับน้ำซุปจนหยดสุดท้าย
- แหล่งที่หาทานได้ : มีอยู่ทุกที่! ตั้งแต่ร้านยาไตริมทาง, ร้านเล็กๆ ตามตรอกซอกซอย ไปจนถึงเชนร้านดังระดับโลกที่ถือกำเนิดจากเมืองนี้อย่าง Ichiran และ Ippudo
- ราคาโดยประมาณ : เป็นเมนูที่ราคาเป็นมิตรมาก เริ่มต้นเพียงชามละ 500 – 900 เยนเท่านั้น
มตสึนาเบะ (Motsunabe)

เมนูหม้อไฟ (นาเบะ) ประจำถิ่นที่คนรักหม้อไฟต้องลองสักครั้ง มตสึนาเบะคือหม้อไฟเครื่องในวัวหรือหมู (มตสึ) ที่จะเสิร์ฟมาในหม้อใหญ่พร้อมกับผักกะหล่ำปลี, ใบกุยช่าย (นิระ) และกระเทียม ในน้ำซุปรสชาติเข้มข้นซึ่งโดยมากจะเป็นซุปมิโสะหรือโชยุ เมื่อทานเครื่องต่างๆ หมดแล้ว นิยมสั่งเส้นจัมปง (Champon) หรือข้าวสวยมาต้มกับน้ำซุปที่เหลือเป็นเมนูปิดท้าย (เรียกว่า “ชิเมะ”) ถือเป็นสุดยอดอาหารที่ให้ความอบอุ่นและเหมาะกับการทานร่วมกับเพื่อนๆ อย่างยิ่ง
- แหล่งที่หาทานได้ : ร้านอาหารท้องถิ่น, ร้านอิซากายะ (Izakaya) และร้านที่เชี่ยวชาญด้านมตสึนาเบะโดยเฉพาะ
- ราคาโดยประมาณ : มักจะสั่งสำหรับ 2 คนขึ้นไป ราคาต่อคนจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 – 3,000 เยน
มิซึทากิ (Mizutaki)
หากมตสึนาเบะคือหม้อไฟรสเข้มข้น มิซึทากิก็คือหม้อไฟสไตล์เรียบหรูที่เน้นรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ เป็นหม้อไฟไก่ที่เสิร์ฟมาในน้ำซุปไก่ใ สๆ วิธีทานที่เป็นเอกลักษณ์คือ เริ่มจากการชิมรสชาติของน้ำซุปบริสุทธิ์ก่อน จากนั้นจึงเริ่มทานเนื้อไก่และผักต่าง ๆ โดยจิ้มกับซอสพอนสึ (Ponzu) รสเปรี้ยวสดชื่น เป็นเมนูที่แสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันและคุณภาพของวัตถุดิบได้อย่างแท้จริง

- แหล่งที่หาทานได้ : ร้านอาหารที่เชี่ยวชาญด้านมิซึทากิโดยเฉพาะ ซึ่งมักจะเป็นร้านที่มีบรรยากาศดี
- ราคาโดยประมาณ : เป็นเมนูที่มีราคาสูงกว่าหม้อไฟชนิดอื่นเล็กน้อย ราคาต่อคนเริ่มต้นที่ประมาณ 3,000 – 6,000 เยน
โกมะซะบะ (Goma Saba)

เมนูนี้คือเครื่องพิสูจน์ความสดใหม่ของอาหารทะเลในฟุกุโอกะ! โกมะซะบะคือซาซิมิปลาแมคเคอเรล (ปลาซะบะ) สดๆ คลุกเคล้ากับซอสโชยุและงาขาวคั่วหอมๆ ซึ่งเป็นเมนูที่หาทานแบบสดอร่อยเช่นนี้ได้ยากในเมืองอื่นของญี่ปุ่น เพราะปลาซะบะเป็นปลาที่ต้องอาศัยความสดสูงมาก แต่ด้วยความที่ฟุกุโอกะ เป็นเมืองท่าติดทะเล ทำให้สามารถลิ้มรสเมนูนี้ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
- แหล่งที่หาทานได้ : พบได้ทั่วไปในร้านอิซากายะและร้านอาหารท้องถิ่น
- ราคาโดยประมาณ : ประมาณ 800 – 1,500 เยนต่อหนึ่งจาน
เมนไทโกะ (Mentaiko)

นี่คือสุดยอดของฝากและวัตถุดิบที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของฟุกุโอกะ เมนไทโกะคือไข่ของปลาค็อดหรือปลาพอลล็อคที่นำไปหมักกับพริกและเครื่องปรุงต่างๆ จนมีรสเค็มอมเผ็ดนิดๆ นิยมทานกับข้าวสวยร้อน ๆ, เป็นไส้โอนิกิริ, ท็อปปิ้งบนราเมง, หรือนำไปทำเป็นซอสพาสต้าสไตล์ญี่ปุ่น เป็นวัตถุดิบสารพัดประโยชน์ที่สะท้อนวัฒนธรรมอาหารของที่นี่ได้เป็นอย่างดี
- แหล่งที่หาทานได้ : มีขายตามร้านขายของฝากทั่วไปในสนามบินและสถานีรถไฟ Hakata หรือสั่งเป็นเมนูเครื่องเคียงในร้านอาหารต่างๆ
- ราคาโดยประมาณ : ราคาแตกต่างกันไปตามขนาดและคุณภาพ เริ่มต้นตั้งแต่กล่องเล็กๆ ราคาประมาณ 1,000 เยน
รวมที่พัก “ฟุกุโอกะ (Fukuoka)” เลือกย่านไหนดีให้เหมาะกับสไตล์ของคุณ?
การเลือกที่พักให้ถูกย่านเปรียบเสมือนการมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการเดินทางและได้ซึมซับบรรยากาศที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด สำหรับฟุกุโอกะนั้นมี 2 ย่านหลักที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละย่านก็มีข้อดีและเสน่ห์ที่แตกต่างกันไปอย่างชัดเจน
ย่านฮากาตะ (Hakata Area)
บรรยากาศ : ย่านฮากาตะมีสถานี JR Hakata เป็นศูนย์กลาง ทำให้บรรยากาศโดยรอบมีความทันสมัย เป็นระเบียบเรียบร้อย เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานและโรงแรมขนาดใหญ่ เป็นย่านที่คึกคักมากในตอนกลางวัน แต่จะเงียบสงบลงในตอนกลางคืนเมื่อเทียบกับเทนจิน

- เหมาะสำหรับใคร :
- นักเดินทางที่ใช้ฟุกุโอกะเป็นฐาน : หากคุณวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวเมืองอื่นในคิวชูแบบไปเช้า-เย็นกลับ (Day Trip) บ่อยๆ การพักที่นี่คือสะดวกที่สุด เพราะใกล้สถานีรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟด่วนพิเศษ
- คนที่มาถึงดึกหรือต้องไปสนามบินเช้า : ด้วยการเดินทางไปสนามบินที่ใช้เวลาเพียง 6 นาที ทำให้การพักย่านนี้ช่วยลดความกังวลเรื่องการเดินทางไปได้มาก
- ครอบครัวที่เน้นความสะดวกสบาย : การเดินทางที่ไม่ซับซ้อนและมีห้างใหญ่ครบครันอยู่ติดสถานี ทำให้สะดวกต่อการจัดการทริปของครอบครัว
- ข้อดี :
- ที่สุดแห่งความสะดวกในการเดินทาง : เป็นที่ตั้งของสถานี JR Hakata, สถานีรถไฟใต้ดิน, และท่ารถบัสทางหลวง (Hakata Bus Terminal)
- ใกล้สนามบินที่สุด : นั่งรถไฟใต้ดินเพียง 2 สถานีเท่านั้น
- แหล่งช้อปปิ้งและของกินครบครันในสถานี : มีห้างใหญ่อย่าง Amu Plaza, Hakata Hankyu และ KITTE อยู่ในตัวสถานีเลย
- ข้อสังเกต :
- บรรยากาศในตอนกลางคืนจะเงียบกว่าย่านเทนจิน อาจไม่เหมาะกับคนที่ชอบแสงสีและความคึกคักยามดึก
- ร้านอาหารส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่รอบ ๆ หรือในสถานี
- ประเภทที่พัก : มีโรงแรมเชนใหญ่ ๆ และโรงแรมสำหรับนักธุรกิจ (Business Hotel) ให้เลือกมากมายในราคาที่หลากหลาย ตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงหรูหรา
ย่านเทนจิน (Tenjin Area)
บรรยากาศ : เทนจินคือย่านดาวน์ทาวน์ที่เปรียบเสมือนหัวใจของฟุกุโอกะที่นี่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, ร้านค้าแบรนด์เนม, ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น, คาเฟ่เก๋ๆ และร้านอาหารนับไม่ถ้วน เป็นย่านที่มีชีวิตชีวาและคึกคักตั้งแต่เช้าจรดค่ำ มีตรอกซอกซอยให้เดินสำรวจมากมาย โดยเฉพาะในย่านไดเมียว (Daimyo) ที่อยู่ติดกัน

- เหมาะสำหรับใคร :
- สายช้อปปิ้งตัวยง : ที่นี่คือสวรรค์ของคุณอย่างแท้จริง เพราะห้างทุกห้างและถนนช้อปปิ้งใต้ดิน (Tenjin Chikagai) อยู่ในระยะที่เดินถึงกันได้หมด
- สายกินดื่มและคาเฟ่ฮอปปิ้ง : มีตัวเลือกร้านอาหารและคาเฟ่ที่หลากหลายและกระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ ให้คุณได้ค้นพบร้านใหม่ๆ ตลอดเวลา
- คนที่รักแสงสีและชีวิตกลางคืน : เทนจินมีความคึกคักต่อเนื่องไปจนถึงตอนดึก มีบาร์และสถานบันเทิงให้เลือกมากมาย
- ข้อดี :
- ศูนย์กลางการช้อปปิ้งที่แท้จริง : เดินทางเชื่อมต่อห้างต่างๆ ได้สะดวกมาก
- ตัวเลือกร้านอาหารและคาเฟ่ละลานตา : มีร้านทุกรูปแบบ ทุกระดับราคาให้เลือกสรร
- ใกล้แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและพักผ่อน : สามารถเดินหรือนั่งรถต่อไปยังสวนโอโฮริได้ไม่ไกล
- เดินทางไปดาไซฟุสะดวก : มีสถานีรถไฟ Nishitetsu Fukuoka (Tenjin) ซึ่งเป็นรถไฟสายตรงไปดาไซฟุ
- ข้อสังเกต :
- อาจจะต้องใช้เวลาเดินทางไปสถานี JR Hakata เพื่อต่อรถไฟชินคันเซ็นประมาณ 5-10 นาที (โดยรถไฟใต้ดิน)
- บางพื้นที่อาจมีเสียงดังรบกวนในตอนกลางคืน
- ประเภทที่พัก : มีความหลากหลายสูง ตั้งแต่โรงแรมดีไซน์เก๋ๆ, บูทีคโฮเทล, ไปจนถึงโรงแรมเชนใหญ่และโรงแรมราคาประหยัด
สรุป
เลือก ฮากาตะ (Hakata) ถ้าคุณให้ความสำคัญกับความสะดวกในการเดินทางไปเมืองอื่นและสนามบิน เป็นอันดับหนึ่ง เลือกเทนจิน (Tenjin) ถ้าคุณให้ความสำคัญกับการช้อปปิ้ง, การกินดื่ม, และความคึกคักของเมือง เป็นอันดับหนึ่ง
ตั้งแต่ความคึกคักของย่านเทนจินไปจนถึงความสงบงามของศาลเจ้าดาไซฟุ จากราเมงทงคตสึรสเข้มข้นชามเด็ดไปจนถึงรอยยิ้มอันอบอุ่นของผู้คนที่เราพบเจอ…ฟุกุโอกะได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าไม่ใช่เป็นเพียง “ประตูสู่คิวชู” แต่เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบในตัวเอง
ที่นี่คือเมืองแห่งความลงตัว เป็นที่ซึ่งความสะดวกสบายของเมืองใหญ่ไม่ได้มาบดบังบรรยากาศอันผ่อนคลาย เป็นที่ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าสามารถอยู่ร่วมกับนวัตกรรมและศิลปะสมัยใหม่ได้อย่างกลมกลืน และเป็นที่ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศได้ในทุกหัวมุมถนน
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะไม่เพียงมอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้แก่เพื่อน ๆ แต่ยังได้จุดประกายความตื่นเต้นและสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ อยากออกเดินทางไปค้นพบเสน่ห์ของเมืองที่น่ารักแห่งนี้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าคุณจะเลือกวางแผนการเดินทางด้วยตนเองในทุกย่างก้าว หรือให้ TRIP JAPAN ONLINE ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยออกแบบทริปในฝันของเพื่อน ๆ
ฟุกุโอกะ…กำลังรอต้อนรับคุณอยู่
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “ฟุกุโอกะ (fukuoka)” (FAQ)
- ถาม : ถ้ามีเวลาแค่ 3 วันในฟุกุโอกะควรตัดที่ไหนออก หรือเน้นไปที่ไหนเป็นพิเศษ?
- ตอบ : ถ้ามีเวลา 3 วัน แนะนำให้เน้นเที่ยวในตัวเมืองเป็นหลัก วันแรกย่านฮากาตะ (ศาลเจ้าคุชิดะ, Canal City) และย่านนาคาสุ (Yatai) ตอนกลางคืน วันที่สองไปดาไซฟุช่วงเช้า กลับมาเดินเล่นย่านเทนจินช่วงบ่ายถึงค่ำ วันที่สาม เลือกไปสวนโอโฮริเพื่อพักผ่อน หรือไปเก็บตกช้อปปิ้งที่ LaLaport Fukuoka ครับ อาจจะต้องตัด Day trip เมืองไกล ๆ อย่างยุฟุอินหรือเบบปุออกไปก่อน
- ถาม : JR Northern Kyushu Pass ใช้กับรถไฟใต้ดินในเมืองฟุกุโอกะ และรถไฟไปดาไซฟุได้ไหม?
- ตอบ : ไม่ได้ JR Pass จะใช้ได้กับรถไฟของบริษัท JR เท่านั้น ซึ่งรวมถึงรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟ Limited Express ที่วิ่งระหว่างเมือง (เช่น ไปยุฟุอิน, เบบปุ, นางาซากิ) แต่จะไม่ครอบคลุมรถไฟใต้ดินในเมือง (Subway) และรถไฟสาย Nishitetsu ที่วิ่งไปดาไซฟุและยานากาวะ สำหรับการเดินทางเหล่านั้นจะต้องจ่ายเงินแยก หรือใช้บัตร IC Card
- ถาม : ระหว่างย่านฮากาตะกับเทนจิน ถ้าเป็นคนชอบหาของกินตอนดึก ๆ ควรพักย่านไหนดีกว่ากัน?
- ตอบ : แนะนำให้พักย่านเทนจิน (Tenjin) เพราะเป็นย่านที่มีชีวิตชีวาและคึกคักไปจนถึงดึก มีร้านอาหาร, บาร์, และอิซากายะเปิดให้บริการหลากหลายกว่า ในขณะที่ย่านฮากาตะจะค่อนข้างเงียบสงบลงมากหลังห้างปิด ยกเว้นร้านยาไตที่นาคาสุซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างสองย่านนี้ แต่เทนจินจะมีตัวเลือกโดยรวมที่มากกว่า
- ถาม : การไปเที่ยว Day trip ที่ยุฟุอิน ควรจองรถไฟ Yufuin no Mori ล่วงหน้านานแค่ไหน?
- ตอบ : รถไฟขบวน Yufuin no Mori เป็นรถไฟท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงมากและที่นั่งมีจำกัด ควรจองทันทีที่คุณแลก JR Pass และกำหนดวันเดินทางที่แน่นอนแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเดินทางในช่วงฤดูท่องเที่ยว (ฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูใบไม้ร่วง) หรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-7 วัน หรือนานกว่านั้นถ้าเป็นไปได้
- ถาม : ถ้าไม่ทานเครื่องใน จะสามารถทานหม้อไฟมตสึนาเบะได้ไหม หรือมีเมนูอื่นแนะนำไหม?
- ตอบ : ถ้าไม่ทานเครื่องใน จะไม่สามารถทานมตสึนาเบะได้ แต่ไม่ต้องกังวลฟุกุโอกะยังมีหม้อไฟอร่อยอีกชนิดคือ “มิซึทากิ (Mizutaki)” ซึ่งเป็นหม้อไฟไก่ในซุปใส รสชาติกลมกล่อม ทานง่าย และอร่อยมาก ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของเมืองที่แนะนำให้ลอง
- ถาม : การเช่ารถขับเที่ยวในเมืองฟุกุโอกะจำเป็นไหม?
- ตอบ : ไม่จำเป็นเลย การเดินทางในตัวเมืองฟุกุโอกะด้วยระบบขนส่งสาธารณะทั้งรถไฟใต้ดินและรถบัสสะดวกและครอบคลุมมาก การขับรถในเมืองอาจเจอปัญหาเรื่องที่จอดรถและค่าจอดที่ค่อนข้างแพง การเช่ารถจะเหมาะก็ต่อเมื่อคุณวางแผนจะขับเที่ยวไปยังพื้นที่นอกเมืองหรือชนบทที่รถไฟเข้าไม่ถึง
- ถาม : ที่ LaLaport Fukuoka นอกจาก Gundam แล้ว มีอะไรน่าสนใจสำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนกันดั้มบ้าง?
- ตอบ : LaLaport Fukuoka เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีร้านค้าแบรนด์ดังมากมายทั้งของญี่ปุ่นและต่างประเทศ มีซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่, ศูนย์อาหาร, โรงภาพยนตร์ และมี “KidZania” เมืองจำลองสำหรับเด็ก ๆ ให้ได้เรียนรู้และสนุกกับอาชีพต่าง ๆ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัว ไม่ใช่แค่แฟนกันดั้ม
- ถาม : อยากไปดูการแสดงน้ำพุที่ Canal City Hakata ต้องไปช่วงเวลากี่โมง?
- ตอบ : การแสดงน้ำพุจะมีทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่ห้างเปิดเวลา 10:00 น. ไปจนถึงช่วงค่ำประมาณ 22:00 น. โดยการแสดงในช่วงกลางวันจะเป็นน้ำพุประกอบดนตรี ส่วนการแสดงในช่วงค่ำ (ตั้งแต่ 19:00 น. เป็นต้นไป) จะมีความพิเศษกว่าคือเป็นการแสดง “Canal Aqua Panorama” ซึ่งมีทั้งแสง สี เสียง น้ำพุ และการฉายภาพ 3D Mapping บนกำแพงตึก แนะนำให้ไปชมช่วงค่ำ
- ถาม : การสื่อสารภาษาอังกฤษใน Fukuoka เป็นเรื่องยากไหม?
- ตอบ : ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ, โรงแรมใหญ่ ๆ, สถานีรถไฟหลัก และสนามบิน จะมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้และมีป้ายบอกทางเป็นภาษาอังกฤษกำกับไว้เสมอ ในร้านอาหารหรือร้านค้าทั่วไปอาจจะสื่อสารได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีความกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือ การใช้แอปแปลภาษาหรือการชี้เมนูจากรูปภาพก็สามารถช่วยได้มาก
- ถาม : นอกจากของกินแล้ว ของฝากขึ้นชื่ออย่างอื่นของ Fukuoka มีอะไรแนะนำบ้าง?
- ตอบ : นอกจากเมนไทโกะแล้ว ของฝากที่น่าสนใจยังมี “ฮากาตะ โทริมง (Hakata Torimon)” ซึ่งเป็นขนมมันจูไส้ถั่วขาวผสมเนยและนม รสชาติหวานมัน อร่อยมาก ได้รับรางวัลติดต่อกันหลายปี และอีกอย่างคือ “เมมเบ้ (Menbei)” ข้าวเกรียบเซมเบ้รสเมนไทโกะ ที่กรอบอร่อยและหาซื้อง่าย
เที่ยวญี่ปุ่นง่ายนิดเดียว แค่ติดต่อเรา TRIP JAPAN ONLINE
อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ คงเห็นแล้วว่า “ฟุกุโอกะ” และเมืองรอบ ๆ นั้นมีเสน่ห์และน่าสนใจมากแค่ไหน แต่การจะวางแผนทริปให้สมบูรณ์แบบ เก็บครบทุกไฮไลท์ เดินทางอย่างราบรื่น และได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร อาจต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามไม่น้อยเลยทีเดียว จะดีกว่าไหม…ถ้าเพื่อน ๆ สามารถข้ามขั้นตอนที่ยุ่งยากทั้งหมด แล้วไปสนุกกับการเดินทางได้เลย?

ให้ TRIP JAPAN ONLINE ดูแลทุกเรื่องให้คุณ! เราไม่ใช่แค่บริษัททัวร์ แต่เราคือผู้ช่วยส่วนตัวที่จะ “ออกแบบ” ทริปญี่ปุ่นในฝันให้เป็นจริง ด้วยบริการที่ครอบคลุมและเข้าใจนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางด้วยตัวเอง
บริการของเรามีอะไรบ้าง?
- แพลนเที่ยวในแบบที่ต้องการ : เราจะออกแบบแผนการเดินทาง ที่ปรับตามไลฟ์สไตล์และความชอบของเพื่อน ๆ โดยเฉพาะ ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะอยากไปสายไหน เราจัดให้ได้
- คู่มือทริปดิจิทัล : คุณจะได้รับข้อมูลที่ครบครัน ใช้งานง่าย ทั้งแผนที่และข้อมูลการเดินทางที่ละเอียดเหมือนมีไกด์ส่วนตัวไปกับเพื่อน ๆ ทุกที่
- ดูแลท่านตลอดทริป : เราพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเพื่อน ๆ ตั้งแต่ก่อนเดินทางไปจนจบทริป มั่นใจได้ว่าเที่ยวสบาย ไม่มีหลง
- บริการครบวงจร : ต้องการความช่วยเหลือเรื่องการจองที่พัก หรือเช่ารถ? บอกเราได้เลย เราจัดการให้ครบจบในที่เดียว!
- อัปเดตใหม่ตลอดเวลา : เราคัดสรรเฉพาะที่เที่ยว ที่พัก และร้านอาหารเด็ด ๆ ที่อัปเดตใหม่และไม่ซ้ำใคร เพื่อให้ทริปของเพื่อน ๆ พิเศษกว่าเดิม
- เก็บทุกจุดไฮไลท์สำคัญ : แผนของเราจะช่วยให้เพื่อน ๆ เที่ยวได้ครบ ไม่พลาดทุกจุดหมายสำคัญที่ตั้งใจไว้
“หมดกังวลกับทุกเรื่องยุ่งยาก แล้วเตรียมเก็บกระเป๋าไปสร้างความทรงจำดี ๆ ที่ฟุกุโอกะได้เลย!”