พาสปอร์ตหายที่ญี่ปุ่น ทำยังไงดี? 4 ขั้นตอนง่าย ๆ อัปเดตปี 2025!

ทริปญี่ปุ่นที่เพื่อน ๆ หลายคนเฝ้ารอ… ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสความทันสมัยของโตเกียว วัฒนธรรมในเกียวโต หรือการชมธรรมชาติที่งดงาม ทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างน่าประทับใจ แต่แล้ววินาทีที่ใจหายวาบก็มาถึง เมื่อเพื่อน ๆ ล้วงกระเป๋าแล้วพบว่า… หนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ตไม่มี! วินาทีนั้น โลกทั้งใบอาจเหมือนจะหยุดหมุน ความกังวลถาโถมเข้ามาว่า “จะกลับยังไง?” “ต้องไปติดต่อใคร?” “แผนเที่ยวที่เหลือจะทำยังไงต่อ?” ไม่ต้องกังวลไป เพราะการทำ “พาสปอร์ตหายที่ญี่ปุ่น” แม้จะเป็นเหมือนจะเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวไทย แต่มันคือปัญหาที่ “จัดการได้” และเพื่อน ๆ ไม่ได้เจอปัญหานี้เพียงลำพัง Tripjapanonline ในฐานะเพื่อนร่วมเดินทางที่เชี่ยวชาญเรื่องญี่ปุ่น เราได้รวบรวมข้อมูลอัปเดตล่าสุดปี 2025 จาก “สถานทูตไทยในญี่ปุ่น” มาสรุปให้เพื่อน ๆ แบบจับมือทำทีละขั้นตอนในบทความนี้แล้ว

พร้อมหรือยัง? มาเปลี่ยนสถานการณ์ที่น่ากังวลนี้ให้กลายเป็นเรื่องที่จัดการได้ และกลับไปเพลิดเพลินกับทริปญี่ปุ่นของเพื่อน ๆ ต่ออย่างสบายใจกันเถอะ

4 ขั้นตอนต้องทำ เมื่อนักท่องเที่ยว “ทำพาสปอร์ตหายที่ญี่ปุ่น“

เมื่อตั้งสติได้แล้ว เรามาเริ่มลงมือแก้ไขสถานการณ์กันอย่างเป็นระบบกัน กระบวนการทั้งหมดไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงแค่ทำตามขั้นตอนที่เราสรุปมาให้ครบถ้วน ซึ่งจะนำเพื่อน ๆ ไปสู่การได้รับเอกสารสำคัญเพื่อใช้เดินทางกลับประเทศได้อย่างแน่นอน

ขั้นตอนที่ 1 : “พาสปอร์ตหายที่ญี่ปุ่น” ตั้งสติและค้นหาอีกครั้งอย่างมีสติ

เรารู้ดีว่ามันยากที่จะไม่ตื่นตระหนก แต่การตั้งสติคือสิ่งแรกและสำคัญที่สุด เพราะความตื่นตระหนกจะทำให้เพื่อน ๆ คิดอะไรไม่ออกและเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ การมีสติจะช่วยให้สมองของเพื่อน ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนึกย้อนเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

ก่อนจะด่วนสรุปว่าพาสปอร์ตหายไปแล้ว ให้เวลากับตัวเองในการค้นหาอย่างละเอียดอีกครั้งตามวิธีต่อไปนี้ :

• หยุดและค้นหา ณ จุดที่ยืนอยู่ : หยุดการเคลื่อนไหวทันทีที่เพื่อน ๆ รู้ตัว สำรวจรอบ ๆ ตัวเพื่อน ๆ ให้ดีที่สุด ตรวจดูบนโต๊ะ ใต้เก้าอี้ หรือบริเวณพื้นใกล้ ๆ ตัวเพื่อน ๆ
• ค้นในสัมภาระทุกชิ้นอย่างละเอียด : ไม่ใช่แค่การมองหา แต่คือการ “เทของออกมา” ตรวจค้นในกระเป๋าเป้ กระเป๋าถือ ถุงช้อปปิ้ง หรือแม้แต่กระเป๋ากางเกงทุกใบอย่างละเอียดถี่ถ้วน บางครั้งพาสปอร์ตอาจจะแค่เลื่อนไปอยู่ในซอกหลืบ หรือช่องลับที่เพื่อน ๆ ลืมไปแล้ว
• นึกย้อนรอยเส้นทาง : นี่คือเทคนิคที่ได้ผลบ่อยที่สุด ลองหลับตาแล้วนึกถึงกิจกรรมที่เพื่อน ๆ ทำในช่วง 1-2 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพื่อน ๆ ไปที่ไหนมาบ้าง?
  • ร้านอาหาร / คาเฟ่ : เพื่อน ๆ อาจจะวางพาสปอร์ตไว้บนโต๊ะตอนหยิบเงิน หรืออาจจะหล่นจากกระเป๋าตอนลุกจากที่นั่งใช่หรือไม่? ลองโทรกลับไปสอบถามที่ร้าน หรือถ้าไม่ไกลให้ลองเดินกลับไปดู
  • ร้านค้า / ร้านสะดวกซื้อ : เพื่อน ๆ ได้หยิบพาสปอร์ตออกมาตอนทำ Tax Refund หรือไม่? อาจจะลืมไว้ที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน
  • ห้องน้ำสาธารณะ : เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนมักลืมของไว้บ่อย ๆ
  • รถไฟ / รถไฟใต้ดิน / รถบัส : ตรวจสอบบริเวณที่นั่ง ช่องเก็บของเหนือศีรษะ หรือช่องใส่ของด้านหน้าเบาะ หากเพิ่งลงจากรถไฟไม่นาน ให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สถานีนั้น ๆ (Lost & Found) ทันที
• สอบถามพนักงานในสถานที่ล่าสุด : หากเพื่อน ๆ คิดว่าอาจลืมไว้ที่ไหนสักแห่ง การสอบถามพนักงานคือวิธีที่ดีที่สุด เพื่อน ๆ สามารถใช้ประโยคง่าย ๆ นี้ในการสื่อสาร “Sumimasen, pasupōto o wasuremashita ka?” (สุมามิเซ็น, พาสุโปโตะ โอะ วาสุเรมาชิตะ ก๊ะ?) (ขอโทษนะครับ/คะ, ฉันลืมพาสปอร์ตไว้ที่นี่หรือเปล่าครับ/คะ?)

ให้เวลากับขั้นตอนนี้อย่างเต็มที่ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง หากค้นหาอย่างสุดความสามารถแล้วยังไม่พบจริง ๆ ก็ถึงเวลายอมรับความจริงและก้าวสู่ “ขั้นตอนที่ 2” ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่สำคัญที่สุดในการเริ่มต้นกระบวนการขอเอกสารเพื่อเดินทางกลับบ้าน

ขั้นตอนที่ 2 : แจ้งความพาสปอร์ตหายที่ “สถานีตำรวจ” เท่านั้น

หลังจากที่เพื่อน ๆ ค้นหาอย่างสุดความสามารถแล้วไม่พบ ขั้นตอนนี้คือที่สำคัญที่สุดในการเริ่มต้นกระบวนการทางเอกสารทั้งหมด การมี “ใบแจ้งความ” เป็นหลักฐานอย่างเป็นทางการคือสิ่งที่จะทำให้เพื่อน ๆ สามารถเดินเข้าไปติดต่อสถานทูตไทยได้ แต่สิ่งสำคัญของขั้นตอนนี้อยู่ที่การไป “แจ้งความให้ถูกที่”

• กฎเหล็กข้อสำคัญ : ต้องไปที่ “สถานีตำรวจ (警察署 – Keisatsusho)” เท่านั้น : ข้อมูลที่เราต้องเน้นย้ำกับเพื่อน ๆ เป็นพิเศษและเป็นข้อมูลล่าสุดที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากยังเข้าใจผิด เพื่อน ๆ “ไม่สามารถ” ใช้เอกสารที่ออกจาก “ป้อมตำรวจเล็ก ๆ หรือ โคบัง (Koban – 交番)” ที่เห็นได้ทั่วไปในการยื่นเรื่องกับสถานทูตฯ ได้
  • ✔️ ถูกต้องสถานีตำรวจ (警察署 – Keisatsusho) ซึ่งเป็นสถานีตำรวจขนาดใหญ่ประจำเขตหรือเมืองนั้น ๆ
  • ❌ ไม่ถูกต้องป้อมตำรวจ (交番 – Kōban) ซึ่งเป็นเพียงหน่วยบริการย่อยหรือตู้พักสายตรวจ

• ทำไมเอกสารจากโคบังถึงใช้ไม่ได้? : คำตอบง่าย ๆ คือเรื่องของ “สถานะเอกสาร” เอกสารที่ออกจากโคบังมักเป็นเพียง “บันทึกแจ้งเหตุเบื้องต้น” ที่ไม่มีสถานะเป็นเอกสารทางราชการที่สมบูรณ์ แต่เอกสารที่ออกจากสถานีตำรวจ (Keisatsusho) จะเป็น “หลักฐานทางราชการ” ที่เรียกว่า 遺失盗難等届出証明書 (Ishitsu tōnan-tō todokede shōmei-sho) ซึ่งจะมีเลขที่อ้างอิงและตราประทับอย่างเป็นทางการ ซึ่งสถานทูตฯ จำเป็นต้องใช้เอกสารฉบับนี้ในการยืนยันตัวตนและดำเนินการออกเอกสารเดินทางฉุกเฉินให้เพื่อน ๆ ต่อไป

• วิธีการค้นหาสถานีตำรวจ (Keisatsusho) ที่ใกล้ที่สุด : คุณไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะหาสถานีตำรวจขนาดใหญ่เจอได้อย่างไร วิธีที่ง่ายที่สุดคือ
  • ใช้ Google Maps : เปิดแอปพลิเคชัน Google Maps บนมือถือของคุณแล้วค้นหาด้วยคำว่า : "Police Station near me" หรือ คัดลอกคำนี้ไปวาง “警察署 (Keisatsusho)”
  • สอบถามจากโรงแรม : พนักงานที่โรงแรมของคุณสามารถให้ข้อมูลและชี้ตำแหน่งสถานีตำรวจที่ใกล้และสะดวกที่สุดให้คุณได้อย่างแน่นอน

• เมื่อไปถึงสถานีตำรวจต้องทำอะไรบ้าง? : เมื่อไปถึง ให้เดินเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์หรือเคาน์เตอร์ด้านหน้าด้วยความมั่นใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นคุ้นเคยกับกรณีนักท่องเที่ยวทำของหายเป็นอย่างดี
  • สิ่งที่ต้องแจ้ง : บอกเจ้าหน้าที่ว่าต้องการแจ้งความเรื่องทำพาสปอร์ตหายและต้องการใบรับรองเพื่อนำไปยื่นต่อสถานทูตฯ เพื่อน ๆ อาจใช้ประโยคง่าย ๆ นี้”Pasupōto o nakushimashita. Taishikan ni dasu tame no, shōmei-sho ga hoshii desu.” (พาสุโปโตะ โอะ นาคุชิมาชิตะ. ไทชิคัง นิ ดาสุ ทาเมะ โนะ, โชเมโช ก๊ะ โฮชี่ เดส) (ฉันทำพาสปอร์ตหาย ต้องการใบรับรองเพื่อนำไปยื่นสถานทูตครับ/ค่ะ)
  • สิ่งที่เจ้าหน้าที่จะถาม : เจ้าหน้าที่จะให้คุณกรอกแบบฟอร์มแจ้งของหาย 遺失届 (Ishitsutodoke) โดยจะสอบถามข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น :
    • ชื่อ-นามสกุล และสัญชาติของคุณ
    • หมายเลขหนังสือเดินทาง (หากคุณมีสำเนาหรือรูปถ่ายเก็บไว้ในมือถือจะดีมาก)
    • วัน/เวลา และสถานที่ล่าสุดที่คุณคาดว่าทำหาย
    • รายละเอียดของพาสปอร์ต เช่น สี, วันหมดอายุ (เท่าที่จำได้)
    • ที่พักของคุณในญี่ปุ่นและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ

เมื่อกรอกข้อมูลและให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะออกเอกสารสำคัญที่สุด นั่นคือ “ใบรับแจ้งความ (遺失盗難等届出証明書)” ให้กับเพื่อน ๆ ให้ตรวจสอบข้อมูลในเอกสารว่าถูกต้องหรือไม่ และเก็บรักษามันไว้อย่างดีที่สุด เพราะนี่คือตั๋วผ่านสำหรับขั้นตอนต่อไปทั้งหมด

ขั้นตอนที่ 3 : เตรียมเอกสารให้พร้อมและติดต่อนัดหมายสถานทูตฯ

เมื่อเพื่อน ๆ มีใบแจ้งความจากสถานีตำรวจ (Keisatsusho) อยู่ในมือแล้ว ก็เหมือนกับว่าผ่านขั้นตอนที่ยากและวุ่นวายที่สุดมาเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้คือขั้นตอนการเตรียมเอกสารและข้อมูลให้พร้อม เพื่อให้การติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ฯ เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วที่สุด การเตรียมตัวที่ดีในขั้นตอนนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถทำเรื่องและรับเอกสารเดินทางฉุกเฉิน (TD) ได้เสร็จสิ้นภายในวันเดียว

เช็คลิสต์เอกสารสำคัญสำหรับ “นักท่องเที่ยว”

ก่อนเดินทางไปสถานทูตฯ โปรดตรวจสอบและเตรียมเอกสารต่อไปนี้ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อป้องกันการเสียเวลาหรือต้องเดินทางกลับไปกลับมา :

• ใบแจ้งความสิ่งของสูญหาย (遺失盗難等届出証明書) : ต้องเป็น “ฉบับจริง” ที่ออกโดยสถานีตำรวจ (Keisatsusho) เท่านั้น ตรวจสอบความถูกต้องของชื่อ-นามสกุลในเอกสารอีกครั้ง
• เอกสารแสดงตนของไทย (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
  • บัตรประจำตัวประชาชนไทย ฉบับจริง : นี่คือเอกสารที่ดีที่สุดในการใช้ยืนยันตัวตน
  • หรือสำเนาหนังสือเดินทางเล่มที่หาย : หากคุณได้ถ่ายรูปหรือมีไฟล์สำเนาเก็บไว้ในอีเมลหรือในมือถือ
  • หรือสำเนาทะเบียนบ้านไทย : ที่มีชื่อของคุณชัดเจน

• เอกสารจองบัตรโดยสารเครื่องบิน : ต้องเป็นหลักฐานที่แสดงว่าคุณมีกำหนดการเดินทาง “กลับประเทศ” อย่างชัดเจน อาจจะเป็นอีเมลยืนยันการจองจากสายการบินหรือตัวแทนจำหน่าย
• แบบฟอร์มคำร้อง 2 ฉบับ : คำร้องขอทำเอกสารเดินทางฉุกเฉิน (TD) และหนังสือยืนยันความถูกต้องของหนังสือเดินทาง เพื่อน ๆ สามารถไปกรอกแบบฟอร์มเหล่านี้ได้โดยตรงที่สถานทูตฯ หรือเพื่อความรวดเร็ว สามารถดาวน์โหลดล่วงหน้าได้จากเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ฯ

• การติดต่อนัดหมายและวางแผนเดินทางไปสถานทูตฯ :เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว ขั้นต่อไปคือการวางแผนเดินทางไปยื่นเรื่อง สำหรับ “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว” เพื่อน ๆ มี 2 ทางเลือกดังนี้ :
  • ทางเลือกที่ 1 (แนะนำ) : จองคิวออนไลน์ เพื่อความแน่นอนและรวดเร็วที่สุด คุณควรทำการจองคิวรับบริการล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ของสถานทูตฯ ที่เว็บไซต์ : https://www.thaiconsularservice.jp/ การจองคิวล่วงหน้าจะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้รับการบริการในเวลาที่แน่นอน
  • ทางเลือกที่ 2 : Walk-in สำหรับกรณีฉุกเฉินจริงๆ หรือหากไม่สะดวกจองคิวออนไลน์ คุณสามารถเดินทางไปรอรับบัตรคิวแบบ Walk-in ได้ที่หน้าสถานทูตฯ ทุกวันทำการ (จันทร์-ศุกร์) ในช่วงเวลา 09.00 – 11.30 น. เพื่อรอรับบริการภายในวันเดียวกัน

ข้อควรจำ : ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเลือกวิธีใด ควรตรวจสอบ “วันหยุดทำการของสถานทูตฯ” ก่อนออกเดินทางเสมอ (ซึ่งอาจไม่ตรงกับวันหยุดของญี่ปุ่น) โดยสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของสถานทูตฯโดยตรง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ไปเสียเที่ยว

ขั้นตอนที่ 4 : ยื่นคำร้องและรับ “เอกสารเดินทางฉุกเฉิน (TD)”

เพื่อน ๆ มาถึงขั้นตอนสสุดท้ายแล้ว! ด้วยเอกสารที่เตรียมมาอย่างครบถ้วนในมือ ขั้นตอนนี้มักจะเป็นขั้นตอนที่ตรงไปตรงมาและใช้เวลาน้อยที่สุด ขอเพียงแค่เพื่อน ๆ เดินทางไปถึงสถานทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ฯ ภายในเวลาทำการ ทุกอย่างก็จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ขั้นตอนการยื่นเรื่องที่สถานทูตฯ

เมื่อเดินทางไปถึงสถานทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ฯ ที่คุณได้นัดหมายไว้ กระบวนการโดยรวมจะมีลักษณะดังนี้ :

1. ติดต่อเจ้าหน้าที่ : แจ้งเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ว่าเพื่อน ๆ มาติดต่อเรื่องหนังสือเดินทางหายเพื่อขอทำเอกสารเดินทางฉุกเฉิน (TD) พร้อมแสดงใบนัด (หากจองออนไลน์) หรือรับบัตรคิว (กรณี Walk-in)
2. ยื่นเอกสาร : เมื่อถึงคิวของเพื่อน ๆ ให้ยื่นเอกสารทั้งหมดที่คุณเตรียมมาในขั้นตอนที่ 3 ให้กับเจ้าหน้าที่กงสุล ณ ช่องบริการ
3. ตรวจสอบข้อมูล : เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารทั้งหมดและยืนยันข้อมูลบุคคลของคุณกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร อาจมีการซักถามข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อยเพื่อยืนยันตัวตน
4. รอรับเอกสาร : หากเอกสารทุกอย่างถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่จะแจ้งเวลานัดหมายให้เพื่อน ๆ กลับมารับเอกสารเดินทางฉุกเฉิน (TD) อีกครั้ง ซึ่งโดยปกติแล้ว หากคุณยื่นเรื่องในช่วงเช้า จะสามารถกลับมารับเอกสารได้ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน

ทำความรู้จัก “เอกสารเดินทางฉุกเฉิน (TD)”

เอกสารที่เพื่อน ๆ จะได้รับกลับมานั้นไม่ใช่หนังสือเดินทางเล่มใหม่ แต่คือเอกสารสำคัญที่เรียกว่า “เอกสารเดินทางฉุกเฉิน” (Emergency Travel Document หรือ TD) ซึ่งมีลักษณะเป็นเอกสารเฉพาะกิจที่เพื่อน ๆ จำเป็นต้องทราบข้อจำกัดของมันอย่างชัดเจน :

• ใช้สำหรับกลับประเทศไทยเท่านั้น : จุดประสงค์หลักของ TD คือเพื่อใช้แสดงต่อสายการบินและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นและไทย สำหรับการเดินทาง “เที่ยวเดียวเพื่อกลับสู่ประเทศไทย” เท่านั้น
• ไม่สามารถใช้เดินทางไปประเทศอื่นต่อได้ : หากแผนการเดินทางเดิมของเพื่อน ๆ คือ ญี่ปุ่น -> เกาหลีใต้ -> ไทย เพื่อน ๆ จะไม่สามารถใช้ TD เดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้ คุณจำเป็นต้องใช้เอกสารนี้เพื่อบินตรงจากญี่ปุ่นกลับประเทศไทยสถานเดียว
• มีอายุการใช้งาน 30 วัน : เอกสาร TD จะมีอายุการใช้งาน 30 วันนับจากวันที่ออกเอกสาร ซึ่งเป็นเวลาที่มากเพียงพอสำหรับการเดินทางกลับประเทศ

“ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ” ข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด สำหรับกรณีนักท่องเที่ยวทำหนังสือเดินทางสูญหายและยื่นคำร้องขอเอกสารเดินทางฉุกเฉิน (TD) เพื่อใช้เดินทางกลับประเทศไทยโดยตรง “สถานเอกอัครราชทูตฯ จะยกเว้นค่าธรรมเนียมในส่วนนี้” เพียงเท่านี้ เพื่อน ๆ ก็จะมีเอกสารสำคัญในมือ พร้อมสำหรับเดินทางกลับบ้านตามแผนที่วางไว้แล้ว! เห็นไหมว่าแม้จะดูน่ากังวลในตอนแรก แต่ทุกอย่างมีขั้นตอนและกระบวนการที่ชัดเจนรองรับอยู่เสมอ ขอเพียงแค่เรามีสติและดำเนินการไปทีละขั้นอย่างถูกต้องเท่านั้นเอง

ช่องทางการติดต่อสถานทูตฯ

เพื่อให้การดำเนินการของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด Tripjapanonline ได้รวบรวมข้อมูลการติดต่อที่จำเป็นทั้งหมดไว้ให้คุณในที่เดียว คุณสามารถบันทึกข้อมูลส่วนนี้ไว้ในโทรศัพท์มือถือ หรือส่งให้เพื่อนและครอบครัวเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินได้เลย

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว (Royal Thai Embassy, Tokyo)

สำหรับผู้ที่ทำหนังสือเดินทางหายในพื้นที่ภาคตะวันออกของญี่ปุ่น (ตั้งแต่จังหวัดไอจิ นากาโน่ ชิซุโอกะ ขึ้นไปทางเหนือ) จะต้องติดต่อที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว

• จองคิวออนไลน์ (แนะนำ) : เพื่อความรวดเร็วและแน่นอน สามารถจองคิวล่วงหน้าได้ที่ https://www.thaiconsularservice.jp/ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
• Walk-in : หากไม่สะดวกจองคิว สามารถไปรอรับบัตรคิวได้ที่หน้าสถานทูตฯ ทุกวันทำการ (จันทร์-ศุกร์) ในช่วงเวลา 09.00 – 11.30 น.
• ที่อยู่ : 3-14-6 Kami-Osaki, Shinagawa-ku, Tokyo 141-0021
• ตรวจสอบวันหยุด : ก่อนเดินทาง ควรตรวจสอบวันหยุดทำการของสถานทูตฯ ทุกครั้ง (ซึ่งอาจไม่ตรงกับวันหยุดไทยหรือญี่ปุ่น) ได้ที่ https://site.thaiembassy.jp/th/about/embassy-holiday/

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา (Royal Thai Consulate-General, Osaka)

สำหรับผู้ที่ทำหนังสือเดินทางหายในพื้นที่ภาคตะวันตกของญี่ปุ่น (ตั้งแต่จังหวัดฟุคุอิ กิฟุ มิเอะ ลงไปทางใต้) จะต้องติดต่อที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา

• ที่อยู่ : Bangkok Bank Building, 4th Floor, 1-9-16 Kyutaro-machi, Chuo-ku, Osaka 541-0056
• เว็บไซต์ : https://osaka.thaiembassy.org/

ข้อควรทราบ : โปรดตรวจสอบช่องทางการนัดหมายและวันหยุดทำการโดยตรงจากเว็บไซต์ของสถานกงสุลใหญ่ฯ ณ นครโอซากา เนื่องจากอาจมีรายละเอียดและขั้นตอนที่แตกต่างจากกรุงโตเกียว

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ (Royal Thai Consulate-General, Fukuoka)

สำหรับผู้ที่ทำหนังสือเดินทางหายในพื้นที่เกาะคิวชูและโอกินาวา

• ที่อยู่: 2nd Floor, Dai Ichi Myojo Building, 4-1-37, Tenjin, Chuo-ku, Fukuoka-shi, Fukuoka 810-0001
• เว็บไซต์ : https://fukuoka.thaiembassy.org/ (โปรดตรวจสอบช่องทางการนัดหมายและวันหยุดจากเว็บไซต์โดยตรง)

เบอร์โทรศัพท์และช่องทางติดต่อฉุกเฉิน

“เบอร์โทรศัพท์เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ควรบันทึกไว้ในมือถือของคุณทันที”

• กรณีฉุกเฉินในญี่ปุ่น (สำหรับคนไทยที่อยู่ในญี่ปุ่น)
  • หากคุณประสบเหตุฉุกเฉินร้ายแรง เช่น เจ็บป่วยหนัก ประสบอุบัติเหตุ หรือเสียชีวิต สามารถติดต่อเบอร์ ของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • เบอร์ : 03-5789-2433
• สำหรับญาติที่อยู่ประเทศไทย (ต้องการติดตามหาญาติในญี่ปุ่น)
  • หากญาติที่ประเทศไทยไม่สามารถติดต่อคุณได้และมีความกังวล สามารถยื่นคำร้องเพื่อติดตามหาญาติในญี่ปุ่นได้ที่กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล (กรุงเทพฯ)
  • เบอร์โทรศัพท์ (ในไทย) : 02-575-1047-51 หรือ 02-575-1053
  • อีเมล : [email protected]

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ “พาสปอร์ตหายที่ญี่ปุ่น“

• ถาม : แจ้งความที่ป้อมตำรวจโคบัง (Koban) ที่หาเจอง่ายๆ ใช้ได้ไหม?
  • ตอบ : ไม่ได้เด็ดขาด นี่คือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดและจะทำให้คุณเสียเวลาอย่างมาก เพื่อน ๆ จำเป็นต้องได้รับใบรับแจ้งความฉบับทางการที่เรียกว่า 遺失盗難等届出証明書 ซึ่งออกให้โดย “สถานีตำรวจ” (警察署 – Keisatsusho) ที่เป็นสถานีใหญ่เท่านั้น เอกสารจากโคบังเป็นเพียงบันทึกแจ้งเหตุเบื้องต้นและไม่สามารถใช้ยื่นเรื่องกับสถานทูตฯ ได้
• ถาม : ทำ “พาสปอร์ตชั่วคราว” หรือ “เอกสารเดินทางฉุกเฉิน (TD)” ใช้เวลากี่วัน?
  • ตอบ : โดยปกติแล้ว สามารถรับได้ภายใน 1 วันทำการ หากคุณเตรียมเอกสารไปครบถ้วนถูกต้องและยื่นเรื่องในตอนเช้าของวันทำการ ก็มักจะสามารถกลับมารับเอกสารได้ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน แต่หากเอกสารไม่ครบหรือต้องมีการตรวจสอบข้อมูลบุคคลเพิ่มเติมที่ซับซ้อน ก็อาจใช้เวลานานกว่านั้น
• ถาม : การไปติดต่อสถานทูตฯ ต้องจองคิวออนไลน์เท่านั้น หรือ Walk-in ได้?
  • ตอบ : สำหรับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว สามารถทำได้ทั้งสองแบบครับ เราแนะนำให้จองคิวออนไลน์ ไปล่วงหน้าเพื่อความแน่นอนและรวดเร็ว แต่หากเป็นกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนจริง ๆ เพื่อน ๆ สามารถเดินทางไปขอรับบัตรคิวแบบ Walk-in ได้ที่หน้าสถานทูตฯ ในวันและเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์, 09.00 – 11.30 น.)
• ถาม : ถ้าไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนของไทยเลย (ไม่มีทั้งบัตรประชาชนและสำเนาพาสปอร์ต) ควรทำอย่างไร?
  • ตอบ : อย่าเพิ่งตกใจ สิ่งแรกที่ควรทำคือ โทรศัพท์ติดต่อเบอร์ Hotline ของสถานทูตฯ เพื่อแจ้งสถานการณ์และขอคำแนะนำโดยตรงจากเจ้าหน้าที่ ในกรณีนี้ กระบวนการอาจซับซ้อนและใช้เวลานานขึ้น เนื่องจากสถานทูตฯ จำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลและยืนยันตัวตนของคุณกับหน่วยงานทะเบียนราษฎรในประเทศไทยอย่างละเอียดถี่ถ้วน
• ถาม : การขอเอกสารเดินทางฉุกเฉิน (TD) มีค่าใช้จ่ายไหม?
  • ตอบ : สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้มีถิ่นพำนักที่ทำพาสปอร์ตหายและต้องการขอเอกสารเดินทางฉุกเฉิน (TD) เพื่อใช้เดินทางกลับประเทศไทยเท่านั้น จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม หรือพูดง่าย ๆ คือ “ไม่มีค่าใช้จ่าย”

จะเห็นได้ว่าการทำ “พาสปอร์ตหายที่ญี่ปุ่น” แม้จะเริ่มต้นเหมือนเรื่องเลวร้าย ที่สร้างความตื่นตระหนกและกังวลใจ แต่เมื่อเพื่อน ๆ มีความรู้และทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องอย่างมีสติ มันก็จะกลายเป็นเพียงหนึ่งในอุปสรรคที่สามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

หัวใจสำคัญที่สุดที่เราอยากให้เพื่อน ๆ จำไว้เสมอคือ :

• ตั้งสติสำคัญที่สุด : ความสงบจะช่วยให้คุณคิดและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• แจ้งความให้ถูกที่ : ต้องเป็น “สถานีตำรวจ (警察署 – Keisatsusho)” เท่านั้น (ไม่ใช่ “โคบัง – 交番”)
• เตรียมเอกสารให้ครบ : การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยประหยัดเวลาและทำให้ทุกอย่างราบรื่น
• ติดต่อสถานทูตฯ : เจ้าหน้าที่กงสุลพร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทยเสมอ

Tripjapanonline หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยนำทางและมอบความสบายใจให้เพื่อน ๆ ในยามที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ขอให้เพื่อน ๆ จัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยและเดินทางกลับประเทศโดยสวัสดิภาพนะ

เที่ยวญี่ปุ่นง่าย ๆ ด้วยตัวเองไปกับ TRIP JAPAN ONLINE

และสำหรับทริปญี่ปุ่นในครั้งต่อไป… ให้การเดินทางของเพื่อน ๆ ง่ายและราบรื่นกว่าที่เคย ให้ TRIP JAPAN ONLINE เป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นในแบบของเพื่อน ๆ

• บริการจองรถเช่าในประเทศญี่ปุ่น : สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถตู้พร้อมคนขับได้แบบไม่มีขีดจำกัดตามแพลนของตัวเอง จองโดยตรงกับผู้ประกอบการที่ได้รับรอง มีจุดบริการรองรับทุกเมือง มีตัวเลือกหลากหลาย และรองรับการทำประกันภัยครบวงจร หายห่วงเรื่องความปลอดภัย เหมาะสำหรับทริปคู่รัก, ทริปครอบครัว, ทริปแก๊งค์เพื่อน

• บริการวางแผนท่องเที่ยว (Trip Planner) : ให้การท่องเที่ยวต่างประเทศของเพื่อน ๆ เป็นเรื่องง่าย ไม่ยุ่งยาก ชวนปวดหัว ให้เสียเวลาอีกต่อไป ด้วยบริการจัดแผนการท่องเที่ยว (trip planner) ที่ครอบคลุมทั้งเรื่องกิน, เรื่องเที่ยว, ที่พัก, ที่ช้อป พร้อมแผนที่ท่องเที่ยวและรายละเอียดการเดินทาง ช่วยให้เพื่อน ๆ เที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างมีความสุข สนุกตลอดทั้งทริป ไม่ว่าจะเที่ยวกี่วัน ก็เลือกแพลนเที่ยวได้ในแบบฉบับของเพื่อน ๆ เอง
• บริการประสานงานช่วยเหลือ : หายห่วงทุกเรื่องระหว่างการเดินทางด้วยบริการความช่วยเหลือในทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็กจนไปถึงเรื่องฉุกเฉิน ให้เราเหมือนเพื่อนที่เดินทางเคียงข้างเพื่อน ๆ
• บริการแนะนำการท่องเที่ยว : ตัวช่วยแนะนำข้อมูลและสถานที่ท่องเที่ยวในมุมมองที่นักท่องเที่ยวไม่เคยรู้มาก่อน อย่างร้านลับ หรือสถานที่สุดพิเศษ เฉพาะเพื่อน ๆ เท่านั้น

ด้วยบริการที่ครบวงจรจาก TRIP JAPAN ONLINE การสร้างแพลนเที่ยวด้วยตัวเองง่าย ๆ สำหรับเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกของเพื่อน ๆ จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพื่อน ๆ จะมีผู้ช่วยที่รู้จริงและพร้อมสนับสนุนในทุกขั้นตอน ทำให้ทริปในฝันของเพื่อน ๆ เป็นจริงได้อย่างง่ายดาย

ทักมาคุยกับเราได้เลย! ให้ TRIP JAPAN ONLINE เป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ของเพื่อน ๆ