Skip to content
Home » แพลนเที่ยว “Golden Route ญี่ปุ่น” ด้วยตัวเอง งบเท่าไหร่? ไปไหนดี?

แพลนเที่ยว “Golden Route ญี่ปุ่น” ด้วยตัวเอง งบเท่าไหร่? ไปไหนดี?

  • admin 
แพลนเที่ยว Golden Route ญี่ปุ่น ด้วยตัวเอง งบเท่าไหร่ ไปไหนดี

ตะลุยญี่ปุ่นด้วยตัวเองครั้งแรกใช่ไหม? อยากสัมผัสเมืองใหญ่ ความงดงามของธรรมชาติ และเสน่ห์ของวัฒนธรรมดั้งเดิมในทริปเดียว? “Golden Route ญี่ปุ่น” คือคำตอบที่ใช่ที่สุดสำหรับนักเดินทางสายอิสระอย่างคุณ! เส้นทางท่องเที่ยวสุดคลาสสิกนี้ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะเชื่อมโยงเมืองเอกและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของญี่ปุ่นไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นมหานครโตเกียว, เมืองแห่งภูเขาไฟฟูจิอย่างฮาโกเนะ, อดีตเมืองหลวงเก่าเกียวโต, และเมืองแห่งสีสันโอซาก้า บทความนี้จะพาคุณรู้ทุกเรื่องที่ต้องรู้เพื่อจัดทริป “Golden Route ญี่ปุ่น” ด้วยตัวเอง ตั้งแต่การวางแผนงบประมาณอย่างละเอียด แนะนำสถานที่ห้ามพลาดในแต่ละเมือง ไปจนถึงตัวอย่างแพลนเที่ยวที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง พร้อมเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่น และเต็มไปด้วยความทรงจำดี ๆ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาดูกันว่า Golden Route จะมอบประสบการณ์สุดประทับใจให้คุณได้อย่างไร!

ก่อนที่เราจะไปเรื่องงบประมาณและสถานที่เที่ยว มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Golden Route คืออะไรและครอบคลุมเมืองไหนบ้าง?

Golden Route เป็นชื่อเรียกเส้นทางท่องเที่ยวสุดคลาสสิกของญี่ปุ่นที่เชื่อมโยงเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเศรษฐกิจเข้าไว้ด้วยกัน โดยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากภูมิภาคคันโต (ตะวันออก) ไล่ไปจนถึงภูมิภาคคันไซ (ตะวันตก) หรือในทางกลับกัน ทำให้คุณได้สัมผัสญี่ปุ่นในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นแสงสีในเมืองใหญ่ ความเงียบสงบของวัดวาอารามเก่าแก่ หรือทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงาม เส้นทางนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการ “เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง” เป็นครั้งแรก เพราะการเดินทางสะดวกสบาย มีระบบขนส่งมวลชน และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าถึงง่าย

วางแผน Golden Route ญี่ปุ่น ด้วยตัวเองให้คุ้มค่า เรื่องงบประมาณ, เส้นทางยอดนิยม, และบริการตัวช่วยจาก Tripjapanonline

เมืองหลักที่มักจะถูกอยู่ในแพลน Golden Route ได้แก่ :

  • โตเกียว (Tokyo) เมืองหลวงของญี่ปุ่นและมหานครที่เต็มไปด้วยพลังงานและความทันสมัย เป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดยอดนิยมของ Golden Route ที่นี่คุณจะได้พบกับความหลากหลาย ตั้งแต่ย่านช้อปปิ้งสุดฮิตอย่างชิบูย่าและฮาราจูกุ ไปจนถึงวัดเก่าแก่และสวนสาธารณะอันเงียบสงบ โตเกียวเป็นศูนย์รวมของเทคโนโลยี นวัตกรรม แฟชั่น ศิลปะ และอาหารเลิศรส ทำให้การสำรวจเมืองนี้ไม่มีวันเบื่อ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายช้อปปิ้ง สายกิน สายอาร์ต หรือสายประวัติศาสตร์ โตเกียวมีทุกอย่างให้คุณค้นหาอย่างแน่นอน
  • ฮาโกเนะ (Hakone) คือเพชรเม็ดงามที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว เพียงแค่ขับรถไฟไม่กี่ชั่วโมง คุณก็จะได้หลีกหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่มาสัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอุทยานแห่งชาติฟูจิ-ฮาโกเนะ-อิซุ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟฟูจิที่สะท้อนผิวน้ำในทะเลสาบอาชิ การล่องเรือโจรสลัด ชมบ่อน้ำพุร้อนและไข่ดำโอวาคุดานิ รวมถึงการแช่ออนเซ็นเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ฮาโกเนะจึงเป็นจุดแวะพักที่สมบูรณ์แบบเพื่อเติมพลังก่อนเดินทางต่อไปยังเมืองอื่น ๆ
  • เกียวโต (Kyoto) เมื่อกล่าวถึงวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่น ไม่มีที่ไหนจะโดดเด่นเท่าเกียวโต อดีตเมืองหลวงเก่าแก่กว่าพันปี ที่ยังคงรักษามรดกอันล้ำค่าไว้อย่างสมบูรณ์ ที่นี่เต็มไปด้วยวัดวาอาราม ศาลเจ้า สวนเซน และบ้านเรือนไม้แบบดั้งเดิมราวกับย้อนเวลาสู่ยุคซามูไรและเกอิชา สถานที่ห้ามพลาดคือวัดคินคะคุจิ (วัดทอง), วัดคิโยมิซุเดระ, ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริที่มีเสาโทริอิสีแดงนับพันต้น และป่าไผ่อาราชิยามะ การมาเยือนเกียวโต จะทำให้คุณได้สัมผัสจิตวิญญาณแห่งญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
  • โอซาก้า (Osaka) จากความสงบของเกียวโต เราเดินทางมาสู่โอซาก้า เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา สีสัน และเป็นที่รู้จักในฐานะ “ครัวของญี่ปุ่น” ที่นี่โดดเด่นเรื่องอาหารริมทางแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็นทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ หรือคูชิคัตสึ ย่านโดทงโบริคือหัวใจของโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ป้ายไฟนีออน และบรรยากาศคึกคักตลอดทั้งคืน นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า และสวนสนุกระดับโลกอย่าง Universal Studios Japan ที่จะสร้างความบันเทิงให้คุณตลอดทริปโอซาก้า จึงเป็นอีกหนึ่งปลายทางที่พลาดไม่ได้
  • นารา (Nara) อาจจะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ Golden Route เสมอไป แต่เป็นเมืองที่เดินทางไปเช้าเย็นกลับจากโอซาก้า หรือเกียวโต ได้อย่างง่ายดายและเป็นที่นิยมอย่างมาก นาราโดดเด่นด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝูงกวางแสนเชื่องที่คุณสามารถให้อาหารและถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีวัดโทไดจิ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปไดบุตสึขนาดใหญ่ และศาลเจ้าคาสุกะไทฉะที่มีโคมไฟทองแดงและหินแขวนประดับอยู่นับพันโคม นารามอบประสบการณ์ที่แตกต่างและน่ารัก ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดสำหรับการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง คือ “ต้องเตรียมงบประมาณเท่าไหร่?” การวางแผนงบประมาณที่ดีจะช่วยให้คุณควบคุมค่าใช้จ่ายได้และสนุกกับทริปได้อย่างไร้กังวล เราจะแบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็นหมวดหมู่หลัก ๆ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น

วางแผน Golden Route ญี่ปุ่น ด้วยตัวเองให้คุ้มค่า เรื่องงบประมาณ, เส้นทางยอดนิยม, และบริการตัวช่วยจาก Tripjapanonline
  • ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ นี่คือค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สุดก้อนหนึ่ง “ราคาตั๋วเครื่องบินไปกลับญี่ปุ่น” แตกต่างกันไปตามสายการบิน ช่วงเวลาเดินทาง และจุดเริ่มต้น โดยทั่วไป :
    • ช่วง Low Season (พฤษภาคม-มิถุนายน, กันยายน-ต้นตุลาคม, มกราคม-กุมภาพันธ์) : ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 – 15,000 บาท
    • ช่วง High Season (สงกรานต์, วันหยุดยาว, ปลายมีนาคม-เมษายน, กลางตุลาคม-พฤศจิกายน, ธันวาคม) : ราคาเริ่มต้นที่ 15,000 – 30,000+ บาท
    • เคล็ดลับ : จองล่วงหน้า 3-6 เดือน มักจะได้ราคาที่ดีที่สุด และพิจารณาสายการบินแบบ Low Cost เพื่อประหยัดงบประมาณ
  • ค่าที่พัก ค่าที่พักในญี่ปุ่นค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทและทำเลที่คุณเลือก :
    • โฮสเทล/เกสต์เฮาส์ (Hostel/Guesthouse) : เหมาะสำหรับสายประหยัด ห้องพักรวมหรือห้องส่วนตัวเล็กๆ ราคาประมาณ 800 – 1,500 บาท/คืน/คน
    • โรงแรมธุรกิจ (Business Hotel) : ห้องพักขนาดกะทัดรัด สะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นที่นิยมสำหรับนักเดินทางด้วยตัวเอง ราคาประมาณ 2,000 – 4,000 บาท/คืน/ห้อง
    • เรียวกัง (Ryokan) : ที่พักสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม พร้อมอาหารไคเซกิและออนเซ็น (บางแห่ง) ราคาค่อนข้างสูง เริ่มต้นที่ 5,000 – 15,000+ บาท/คืน/ห้อง (แนะนำให้ลองพักอย่างน้อย 1 คืนในฮาโกเนะหรือเกียวโต)
    • เคล็ดลับ : หากเดินทางคนเดียวและต้องการประหยัด โฮสเทลคือตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าไปเป็นคู่ โรงแรมธุรกิจคุ้มค่าและสะดวกสบาย แนะนำให้จองที่พักใกล้สถานีรถไฟเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
  • ค่าเดินทางภายในประเทศ การเดินทางในญี่ปุ่นสะดวกสบายแต่มีค่าใช้จ่ายสูง การวางแผนพาสรถไฟจึงสำคัญมาก :
    • Japan Rail Pass (JR Pass) : พาสยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไกลข้ามภูมิภาค เหมาะสำหรับ Golden Route ที่ต้องนั่งชินคันเซ็นหลายครั้ง มีแบบ 7, 14, 21 วัน ราคาเริ่มต้นประมาณ 15,000 – 20,000 บาทสำหรับ 7 วัน
    • Regional Pass : เช่น Tokyo Wide Pass, Kansai Thru Pass, Hakone Free Pass เหมาะสำหรับเดินทางในภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง หรือหาก JR Pass ไม่คุ้ม
    • IC Card (Suica/Pasmo/Icoca) : บัตรเติมเงินสำหรับใช้โดยสารรถไฟใต้ดิน รถไฟเอกชน และรถบัสในเมืองต่างๆ สะดวกมากสำหรับการเดินทางระยะสั้นในเมือง
    • เคล็ดลับ : คำนวณเส้นทางที่คุณจะไปและค่าโดยสารแยกก่อนตัดสินใจซื้อ JR Pass บางครั้งการซื้อตั๋วแยกหรือใช้ Regional Pass อาจคุ้มค่ากว่า โดยเฉพาะถ้าทริปสั้นกว่า 7 วัน
  • ค่าอาหาร อาหารในญี่ปุ่นมีราคาหลากหลาย ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อไปจนถึงร้านอาหาร Fine Dining :
    • ประหยัด (ร้านสะดวกซื้อ/ซูเปอร์มาร์เก็ต/ร้านอาหารจานด่วน) : มื้อละ 300 – 800 เยน (ประมาณ 70 – 200 บาท)
    • ปานกลาง (ร้านอาหารทั่วไป/ร้านราเมง/อิซากายะ) : มื้อละ 1,000 – 3,000 เยน (ประมาณ 250 – 750 บาท)
    • หรูหรา (ร้านอาหารพิเศษ/โอมากาเสะ) : มื้อละ 5,000 – 10,000+ เยน (ประมาณ 1,200 – 2,500+ บาท)
    • เฉลี่ยต่อวัน : ประมาณ 3,000 – 5,000 เยน (ประมาณ 750 – 1,250 บาท) ขึ้นอยู่กับสไตล์การกินของคุณ
    • เคล็ดลับ : ลองซื้อของกินจากร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาร์เก็ตช่วงใกล้ปิดร้าน มักจะมีส่วนลด
  • ค่าเข้าชมสถานที่และกิจกรรม ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แตกต่างกันไป :
    • วัด/ศาลเจ้า : ส่วนใหญ่ฟรี หรือมีค่าเข้า 300 – 600 เยน (ประมาณ 70 – 150 บาท)
    • พิพิธภัณฑ์/ปราสาท/สวนสนุก : 1,000 – 8,000 เยน (ประมาณ 250 – 2,000 บาท) ขึ้นอยู่กับสถานที่
    • รวมประมาณต่อวัน : 500 – 2,000 เยน (ประมาณ 125 – 500 บาท)
  • ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
    • Pocket WiFi/SIM Card : ประมาณ 150 – 250 บาท/วัน
    • ช้อปปิ้ง/ของฝาก : ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
    • อื่นๆ (ฉุกเฉิน/ความบันเทิง) : ควรมีงบสำรองไว้ 10-20% ของงบประมาณรวม
ระยะเวลาระดับประหยัด (บาท)ระดับปานกลาง (บาท)
7 วัน20,000 – 30,00035,000 – 50,000
10 วัน30,000 – 45,00050,000 – 70,000
14 วัน40,000 – 60,00070,000 – 100,000

“ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงค่าประมาณการและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์การเดินทางของคุณ”

เมื่อคุณรู้แล้วว่างบประมาณของคุณอยู่เท่าไหร่ ถึงเวลามาดูว่าในเส้นทาง “Golden Route ญี่ปุ่น” ด้วยตัวเอง คุณจะไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง! เราจะพาคุณตะลุยไปยังเมืองสำคัญต่าง ๆ พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมห้ามพลาดที่จะเติมเต็มประสบการณ์ของคุณให้สมบูรณ์แบบ

โตเกียว เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับทริป Golden Route ของคุณ เมืองนี้เต็มไปด้วยพลังงานและความหลากหลายที่ผสมผสานความเก่าและใหม่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

  • ชิบูย่า (Shibuya)
    • ไฮไลท์ : สัมผัสประสบการณ์ข้าม “ชิบูย่า สแครมเบิล ครอสซิ่ง” (Shibuya Scramble Crossing) อันโด่งดัง, ถ่ายรูปกับรูปปั้นฮาจิโกะ, ช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าแฟชั่นมากมาย
    • กิจกรรม : นั่งจิบกาแฟที่ Starbucks เพื่อชมวิวผู้คนที่เดินผ่านไปมา หรือลองเข้าร้าน Izakaya (ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น) ในย่าน Nonbei Yokocho ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค
  • ฮาราจูกุ (Harajuku)
    • ไฮไลท์ : เดินเล่นบนถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่นแปลกใหม่และของกินสุดแนว, เยี่ยมชมศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu Shrine) สวนป่าอันเงียบสงบท่ามกลางใจกลางเมือง
    • กิจกรรม : ลองชิมเครปสไตล์ฮาราจูกุ, เลือกซื้อของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใคร
  • อะซากุสะ (Asakusa)
    • ไฮไลท์ : เยี่ยมชมวัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) วัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว, เดินช้อปปิ้งของที่ระลึกและขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมบนถนนนากามิเสะ (Nakamise-dori)
    • กิจกรรม : ลองใส่ชุดกิโมโนเดินเล่นรอบวัด, ขึ้นไปชมวิวเมืองโตเกียวและโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) จากจุดชมวิวใกล้เคียง

ฮาโกเนะ เป็นจุดพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบจากความวุ่นวายของโตเกียว คุณจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงามและวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยจับใจ

  • ทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi)
    • ไฮไลท์ : ล่องเรือโจรสลัดในทะเลสาบอาชิ ชมทิวทัศน์ภูเขาไฟฟูจิที่สะท้อนผิวน้ำ (ในวันที่อากาศแจ่มใส), ชมประตูโทริอิกลางน้ำของศาลเจ้าฮาโกเนะ
    • กิจกรรม : ถ่ายรูปวิวภูเขาไฟฟูจิและเรือโจรสลัด, เดินเล่นริมทะเลสาบ
  • หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani)
    • ไฮไลท์ : สัมผัสกับไอน้ำที่พวยพุ่งและกลิ่นกำมะถันจากบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ, ลองชิม “คุโร ทามาโกะ” (Kuro Tamago) หรือไข่ดำที่ต้มในน้ำพุร้อน เชื่อว่าจะช่วยยืดอายุไป 7 ปี
    • กิจกรรม : นั่งกระเช้า Hakone Ropeway ชมวิวหุบเขาและภูเขาไฟฟูจิ
  • พิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางแจ้งฮาโกเนะ (Hakone Open-Air Museum)
    • ไฮไลท์ : พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะจัดวางกลางแจ้งท่ามกลางทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและธรรมชาติ
    • กิจกรรม : เดินชมงานศิลปะที่หลากหลาย, ถ่ายภาพเก๋ๆ กับประติมากรรมต่างๆ

เกียวโต คือหัวใจของวัฒนธรรมญี่ปุ่น คุณจะได้สัมผัสกับวัดวาอารามอันสงบงาม สวนเซน และบรรยากาศของญี่ปุ่นโบราณ

  • วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji)
    • ไฮไลท์ : ชมศาลาทองคำที่งดงามโดดเด่นสะท้อนผิวน้ำในสระบัว สัญลักษณ์ของเมืองเกียวโต
    • กิจกรรม : ถ่ายรูปกับฉากหลังของวัดทองคำที่สวยงามในทุกฤดู
  • วัดคิโยมิซุเดระ (Kiyomizu-dera)
    • ไฮไลท์ : ชมระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างยื่นออกมาจากหน้าผาโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว พร้อมวิวเมืองเกียวโตที่สวยงาม, ดื่มน้ำจากน้ำตกโอโตวะที่เชื่อว่ามีพลังวิเศษ
    • กิจกรรม : เดินเล่นในย่านซันเนนซากะและนิเนนซากะที่เต็มไปด้วยร้านค้าและบ้านเรือนเก่าแก่ระหว่างทางขึ้นวัด
  • ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha)
    • ไฮไลท์ : เดินลอดอุโมงค์เสาโทริอิสีแดงสดนับหมื่นต้นที่ทอดยาวขึ้นไปบนภูเขาอินาริ เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด
    • กิจกรรม : เดินสำรวจเส้นทางโทริอิที่สวยงามและถ่ายรูปมุมต่างๆ, ชมศาลเจ้าขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ตามทาง
  • อาราชิยามะ (Arashiyama)
    • ไฮไลท์ : เดินเล่นในป่าไผ่อาราชิยามะที่เงียบสงบและร่มรื่น, ชมสะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) อันเป็นสัญลักษณ์ของอาราชิยามะ
    • กิจกรรม : ล่องเรือในแม่น้ำโฮซุกาวะ, แวะจิบชาเขียวที่ร้านค้าในบริเวณใกล้เคียง

โอซาก้า คือปลายทางที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันในนาม “ครัวของญี่ปุ่น” และแหล่งรวมความบันเทิง

  • โดทงโบริ (Dotonbori)
    • ไฮไลท์ : ชมป้ายกูลิโกะแมน (Glico Man) อันโด่งดัง, สัมผัสบรรยากาศคึกคักของร้านค้าและร้านอาหารที่เปิดไฟนีออนสว่างไสว, ลองชิมอาหารริมทางยอดนิยม
    • กิจกรรม : ชิมทาโกะยากิ, โอโคโนมิยากิ, คูชิคัตสึ, ล่องเรือชมวิวคลองโดทงโบริ
  • ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
    • ไฮไลท์ : เยี่ยมชมปราสาทโอซาก้าที่ยิ่งใหญ่และงดงาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง, เดินเล่นในบริเวณสวนรอบปราสาท
    • กิจกรรม : ขึ้นไปชมพิพิธภัณฑ์ภายในปราสาทเพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์, ถ่ายรูปกับปราสาทจากมุมต่างๆ
  • ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ เจแปน (Universal Studios Japan – USJ)
    • ไฮไลท์ : สวนสนุกระดับโลกที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นและโซนต่างๆ ที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะโซน The Wizarding World of Harry Potter
    • กิจกรรม : เล่นเครื่องเล่น, ชมขบวนพาเหรด, ซื้อของที่ระลึก, ถ่ายรูปกับตัวละครจากภาพยนตร์

แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่นารา ก็มอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและเดินทางง่ายจากโอซาก้า หรือเกียวโต

  • สวนนารา (Nara Park)
    • ไฮไลท์ : พบกับฝูงกวางนับพันตัวที่เดินเตร่อย่างอิสระทั่วบริเวณสวนสาธารณะ, ซื้อ “เซมเบ้” (Senbei) หรือขนมสำหรับกวางเพื่อป้อนพวกมัน
    • กิจกรรม : ถ่ายรูปกับกวางแสนน่ารัก, เพลิดเพลินกับการเดินเล่นในสวน
  • วัดโทไดจิ (Todai-ji Temple)
    • ไฮไลท์ : เยี่ยมชมวัดไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุตสึขนาดใหญ่และน่าประทับใจ
    • กิจกรรม : ลองลอดเสาไม้ที่มีรูขนาดเท่ากับจมูกของพระพุทธรูป เชื่อว่าจะนำโชคดีมาให้

การเที่ยว Golden Route ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ให้สนุกและคุ้มค่าที่สุด ไม่ได้หมายความว่าต้องประหยัดจนขาดความสุข แต่คือการวางแผนอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมภายใต้งบประมาณที่คุณกำหนดไว้ นี่คือเคล็ดลับที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ :

วางแผน Golden Route ญี่ปุ่น ด้วยตัวเองให้คุ้มค่า เรื่องงบประมาณ, เส้นทางยอดนิยม, และบริการตัวช่วยจาก Tripjapanonline
  • เน้น Hostel หรือ Capsule Hotel (ในโตเกียว/โอซาก้า) : หากคุณเดินทางคนเดียวหรือกับเพื่อนสนิท และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ที่พักเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะราคาถูก สะอาด และมักอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก
  • Business Hotel ที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟ : สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น โรงแรมประเภทนี้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใน Golden Route ก็จะง่ายดาย
  • จองล่วงหน้า : การจองที่พักล่วงหน้านานๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยว มักจะทำให้ได้ราคาที่ดีกว่าและมีตัวเลือกมากกว่า
  • คำนวณ JR Pass ให้ดี : ก่อนตัดสินใจซื้อ JR Pass ให้คุณใช้ Google Maps หรือแอปพลิเคชัน HyperDia/Japan Transit Planner คำนวณค่าโดยสารของรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟ JR ทั้งหมดที่คุณจะใช้เดินทางระหว่างเมืองบนเส้นทาง Golden Route หากค่าโดยสารรวมสูงกว่าราคา JR Pass คุณก็ควรซื้อ แต่ถ้าไม่ การซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ หรือใช้ Regional Pass อาจคุ้มค่ากว่ามาก
  • ใช้ IC Card ในเมือง : เมื่ออยู่ในแต่ละเมือง เช่น โตเกียว หรือโอซาก้า การใช้บัตรเติมเงิน (เช่น Suica, Pasmo, Icoca) จะสะดวกที่สุด คุณไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วทุกครั้งที่ขึ้นรถไฟใต้ดินหรือรถบัส
  • พิจารณา Regional Pass เพิ่มเติม : หากคุณวางแผนเที่ยวในบางพื้นที่แบบเจาะลึก เช่น Hakone Free Pass สำหรับการเที่ยว ฮาโกเนะ หรือ Kansai Thru Pass สำหรับการเดินทางในแถบคันไซ (เกียวโต, โอซาก้า, นารา) อาจช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มาก
  • ร้านอาหารประเภท Gyudon (ข้าวหน้าเนื้อ), Ramen (ราเมง), Udon (อุด้ง), Soba (โซบะ) : ร้านเหล่านี้มักจะมีราคาเป็นมิตรและได้ลิ้มลองรสชาติอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ
  • ร้านสะดวกซื้อ (Konbini) : FamilyMart, 7-Eleven, Lawson เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อย ราคาถูก และมีคุณภาพ เช่น ข้าวปั้น (Onigiri), แซนด์วิช, ของทอด, หรือแม้แต่มื้อเย็นพร้อมอุ่น
  • ซูเปอร์มาร์เก็ต : การซื้อของจากซูเปอร์มาร์เก็ต โดยเฉพาะช่วงหลัง 18.00-19.00 น. มักจะมีอาหารสำเร็จรูปราคาพิเศษ ลดราคาลงไปมาก เหมาะสำหรับซื้อกลับไปทานที่ที่พัก
  • ชุดอาหารกลางวัน (Lunch Set) : ร้านอาหารหลายแห่งในญี่ปุ่นมีเมนูอาหารกลางวันแบบจัดชุด (Lunch Set) ที่ราคาถูกกว่าเมนูอาหารเย็นมาก
  • จองออนไลน์ : สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งมีส่วนลดสำหรับการจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า โดยเฉพาะสวนสนุกอย่าง Universal Studios Japan หรือ Tokyo Disneyland
  • พิจารณา City Pass/Day Pass : บางเมืองมีบัตรแบบเหมาจ่ายสำหรับนักท่องเที่ยว ที่รวมค่าเข้าชมสถานที่สำคัญหลายแห่งไว้ในบัตรเดียว ซึ่งอาจคุ้มค่ากว่าการซื้อตั๋วแยก
  • Google Maps : แอปพลิเคชันที่ขาดไม่ได้สำหรับการนำทาง แสดงเส้นทางรถไฟ รถบัส และการเดินเท้าที่แม่นยำ
  • Japan Transit Planner (HyperDia) : แอปพลิเคชันเฉพาะทางสำหรับการค้นหาเส้นทางรถไฟและคำนวณค่าโดยสารได้อย่างละเอียด
  • Tabelog/Gurunavi : เว็บไซต์/แอปพลิเคชันสำหรับค้นหาร้านอาหารและรีวิวจากผู้ใช้งานจริง
  • Booking.com/Agoda/Hotels.com : สำหรับการจองที่พัก
  • Japan Official Travel App: แอปพลิเคชันทางการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น มีข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวและ Wi-Fi Hotspots
  • พกเงินสดติดตัว : แม้ญี่ปุ่นจะพัฒนาไปมาก แต่ร้านค้าเล็กๆ หรือร้านอาหารบางแห่งยังคงรับเฉพาะเงินสด
  • เช่า Pocket WiFi หรือ SIM Card : การมีอินเทอร์เน็ตใช้งานตลอดเวลาจะช่วยให้การเดินทางราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล นำทาง หรือติดต่อสื่อสาร
  • เรียนรู้วลีภาษาญี่ปุ่นง่าย ๆ : เช่น “Arigato gozaimasu” (ขอบคุณ), “Sumimasen” (ขอโทษ/ขอทาง) จะช่วยให้คุณสื่อสารกับคนท้องถิ่นได้ดีขึ้นและสร้างความประทับใจ
  • ทำความเข้าใจมารยาทการท่องเที่ยว : เช่น การต่อคิว, การไม่ส่งเสียงดังในที่สาธารณะ, การไม่ทิ้งขยะเรี่ยราด เพื่อให้การท่องเที่ยวของคุณและผู้อื่นเป็นไปอย่างราบรื่น
  • เที่ยวในฤดูที่เหมาะสม : พิจารณาฤดูท่องเที่ยวที่คุณต้องการ เช่น ฤดูใบไม้ผลิ (ซากุระ), ฤดูใบไม้ร่วง (ใบไม้เปลี่ยนสี) ที่มีทิวทัศน์สวยงาม แต่ก็เป็นช่วงที่ค่าใช้จ่ายสูงและผู้คนพลุกพล่าน การเลือกเดินทางช่วงไหล่ฤดู (Shoulder Season) อาจช่วยประหยัดงบและหลีกเลี่ยงฝูงชนได้

เส้นทาง Golden Route ญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง แต่คือการเดินทางเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมของความเป็นญี่ปุ่น ตั้งแต่แสงสีที่ไม่เคยหลับใหลของโตเกียว ไปจนถึงความเงียบสงบอันงดงามของเกียวโต และความมีชีวิตชีวาของโอซาก้า พร้อมด้วยธรรมชาติอันน่าทึ่งในฮาโกเนะ การ เที่ยว Golden Route ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง มอบอิสระในการออกแบบทริปตามสไตล์ที่คุณชื่นชอบ ควบคุมงบประมาณได้ และสร้างความทรงจำที่ไม่เหมือนใคร

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางครั้งแรก หรือเป็นผู้ที่หลงใหลในญี่ปุ่นอยู่แล้ว เส้นทางนี้ก็ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดใจเสมอ ด้วยข้อมูลและเคล็ดลับที่เราได้มอบให้ หวังว่าคุณจะสามารถวางแผนทริป Golden Route ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ได้อย่างมั่นใจและสนุกสนาน การเตรียมตัวที่ดีคือก้าวแรกของการเดินทางที่ยอดเยี่ยม แล้วคุณจะพบว่าการสำรวจญี่ปุ่นด้วยตัวคุณเองนั้นง่ายและน่าตื่นเต้นกว่าที่คิด

การเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเมื่อมี TRIP JAPAN ONLINE เป็นผู้ช่วย ไม่ว่าคุณจะต้องการอิสระในการเดินทางแบบเต็มที่ หรือต้องการความสะดวกสบายในการวางแผนแบบครบวงจร เราพร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางที่ทำให้ทริป Golden Route ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ของคุณราบรื่นและน่าจดจำที่สุด

  • บริการจองรถเช่าในประเทศญี่ปุ่น : สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถตู้พร้อมคนขับ ได้แบบไม่มีขีดจำกัดตามแพลนของตัวเอง Tripjapanonline มีบริการจองรถเช่าที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ
  • บริการวางแผนท่องเที่ยว : ให้การท่องเที่ยวต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่าย ไม่ยุ่งยาก ชวนปวดหัว ให้เสียเวลาอีกต่อไป ด้วยบริการจัดแผนการท่องเที่ยว
  • บริการประสานงานช่วยเหลือ : หายห่วงทุกเรื่องระหว่างการเดินทางด้วยบริการความช่วยเหลือในทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็กจนไปถึงเรื่องฉุกเฉิน ให้เราเหมือนเพื่อนที่เดินทางเคียงข้างคุณในทุกย่างก้าวของการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
  • บริการแนะนำการท่องเที่ยว : ตัวช่วยแนะนำข้อมูลและสถานที่ท่องเที่ยวในมุมมองที่นักท่องเที่ยวไม่เคยรู้มาก่อน อย่างร้านลับ หรือสถานที่สุดพิเศษ เฉพาะคุณเท่านั้น เพื่อให้ทริป Golden Route ญี่ปุ่น ของคุณมีแต่ความพิเศษและประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร

“ไม่ว่าคุณจะกำลังวางแผน Golden Route ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง หรือกำลังมองหาผู้ช่วยให้ทริปในฝันเป็นจริง Tripjapanonline พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่ทำให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด”

  • ถาม : Golden Route เหมาะกับใคร?
    • ตอบ : เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสไฮไลท์สำคัญของญี่ปุ่นในทริปเดียว, ผู้ที่เดินทางครั้งแรก, ผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางด้วยตัวเอง และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
  • ถาม : ควรเที่ยว Golden Route กี่วันดีที่สุด?
    • ตอบ : โดยทั่วไป 7-10 วันถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บไฮไลท์สำคัญของทั้ง 4-5 เมืองหลัก (โตเกียว, ฮาโกเนะ, เกียวโต, โอซาก้า, นารา) แต่หากมีเวลามากถึง 14 วัน คุณก็สามารถเที่ยวได้สบาย ๆ และเจาะลึกแต่ละเมืองได้มากขึ้น
  • ถาม : JR Pass คุ้มค่าเสมอไปหรือไม่สำหรับ Golden Route?
    • ตอบ : ไม่เสมอไป! คุณควรคำนวณค่าโดยสารรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟ JR ทั้งหมดที่คุณจะใช้เดินทางระหว่างเมืองบนเส้นทาง Golden Route หากค่าโดยสารรวมสูงกว่าราคาของ JR Pass จึงจะคุ้มค่า มิฉะนั้นการซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ หรือใช้ Regional Pass อาจประหยัดกว่า
  • ถาม : ต้องจองตั๋วเข้าชมสถานที่ล่วงหน้าหรือไม่?
    • ตอบ : สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบางแห่ง เช่น Universal Studios Japan, Ghibli Museum หรือ TeamLab Planets ควรจองล่วงหน้า เพราะตั๋วมีจำนวนจำกัดและอาจเต็มได้ง่าย ส่วนสถานที่อื่น ๆ โดยทั่วไปสามารถซื้อหน้างานได้ หรือตรวจสอบเงื่อนไขจากเว็บไซต์ทางการอีกครั้ง
  • ถาม : ช่วงเวลาไหนเหมาะกับการเที่ยว Golden Route ที่สุด?
    • ตอบ : ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-เม.ย.) ชมซากุระบาน อากาศเย็นสบาย แต่เป็นช่วง High Season คนเยอะ ค่าใช้จ่ายสูง ฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค.-พ.ย.) ชมใบไม้เปลี่ยนสี อากาศดี ทิวทัศน์สวยงาม เป็นอีกช่วง High Season ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) อากาศหนาวเย็น บางพื้นที่อาจมีหิมะ ข้อดีคือคนน้อยกว่า ราคาถูกกว่า และฤดูร้อน (มิ.ย.-ก.ย.) อากาศร้อนชื้น มีฝนและพายุ (ไต้ฝุ่น) อาจมีเทศกาลน่าสนใจบางอย่าง และเป็นช่วง Low Season ราคาถูกลง แต่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศ
  • ถาม : ควรแลกเงินเยนไปเท่าไหร่?
    • ตอบ : ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่คุณวางแผนไว้และสไตล์การใช้จ่าย แนะนำให้แลกเงินสดติดตัวไปพอสมควรสำหรับค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือร้านที่ไม่รับบัตรเครดิต (เช่น ร้านอาหารท้องถิ่นเล็กๆ) ประมาณ 5,000 – 10,000 เยนต่อวัน ส่วนที่เหลือสามารถใช้บัตรเครดิต/เดบิต หรือบัตร Travel Card (เช่น YouTrip) ได้

พร้อมแล้วใช่ไหม? ให้ TRIP JAPAN ONLINE เป็นส่วนหนึ่งของทริป “Golden Route ญี่ปุ่น” ในฝันของคุณ! หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นวางแผน Golden Route ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง อย่างไร หรือต้องการความช่วยเหลือในการจัดทริปที่ลงตัวที่สุด TRIP JAPAN ONLINE มีบริการที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ! ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนท่องเที่ยวแบบละเอียดที่ปรับให้เข้ากับงบประมาณและสไตล์ของคุณ, บริการจองรถเช่าในญี่ปุ่นเพื่ออิสระในการเดินทางสูงสุด, หรือแม้แต่บริการประสานงานช่วยเหลือตลอดทริป ให้คุณเดินทางได้อย่างไร้กังวล

ทักมาคุยกับเราได้เลย! ให้ TRIP JAPAN ONLINE เป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ของเพื่อน ๆ