ใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาลแห่งความสุขปลายปี! ใครกำลังวางแผน “เที่ยวญี่ปุ่นช่วงคริสต์มาส ปี 2026” ห้ามพลาดบทความนี้ เพราะเรารวมทุกจุดเช็กอินสุดโรแมนติกไว้ให้ครบ ทั้งงานประดับไฟ, ตลาดคริสต์มาส และเมืองหิมะสุดสวย ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศอบอุ่นกลางอากาศหนาวในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ เราจะพาคุณเจาะลึกตั้งแต่การวางแผนเดินทาง, การเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมสู้หนาว, ไปจนถึงเมนูอาหารสุดพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลที่ต้องลอง! ไม่ว่าคุณจะเดินทางคนเดียว, กับคู่รัก, หรือยกครอบครัวมาเที่ยว ห้ามพลาดบทความฉบับอัปเดตสำหรับคริสต์มาสปี 2026 นี้!
ทำไมต้อง “เที่ยวญี่ปุ่นช่วงคริสต์มาส” ?
หลายคนอาจมองข้ามการเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนธันวาคม เพราะไม่ใช่ช่วงวันหยุดยาวของคนญี่ปุ่นเอง (วันหยุดใหญ่คือปีใหม่) แต่นี่คือเหตุผลที่ช่วงคริสต์มาสถึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวญี่ปุ่น :
- อากาศหนาวกำลังดี หิมะเริ่มตกในบางพื้นที่ : อุณหภูมิทั่วประเทศกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัว โดยเฉพาะฮอกไกโดที่หิมะเริ่มตกหนาแน่นแล้ว ขณะที่โตเกียวและโอซาก้าก็เย็นสบายจนถึงหนาวจัด ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในเทศกาลคริสต์มาส
- ร้านค้าและเมืองทั้งเมืองถูกประดับด้วยไฟหลากสี : ญี่ปุ่นเป็นเจ้าแห่งการจัดประดับไฟทุกหัวมุมถนน, ห้างสรรพสินค้า, และสวนสาธารณะ จะถูกแปลงโฉมเป็นเมืองแห่งแสงไฟสุดอลังการตระการตา ซึ่งงานส่วนใหญ่มักเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และจัดต่อเนื่องไปจนถึงหลังปีใหม่
- มีกิจกรรมพิเศษเฉพาะฤดูกาล : เช่น ตลาดคริสต์มาส สไตล์เยอรมันแท้ ที่มีกลิ่นอายยุโรป, ลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้ง ในเมืองใหญ่, และการจำหน่ายสินค้าของฝากลิมิเต็ดอิดิชันเฉพาะช่วงคริสต์มาสเท่านั้น
- บรรยากาศโรแมนติกและเงียบสงบกว่าช่วงปีใหม่ : เนื่องจากวันคริสต์มาสอีฟ (24 ธ.ค.) และคริสต์มาส (25 ธ.ค.) ไม่ใช่วันหยุดราชการ (หยุดแค่ช่วงปีใหม่) บรรยากาศการท่องเที่ยวจึงไม่วุ่นวายเท่าช่วงหยุดยาว เหมาะกับการเดินทางแบบคู่รัก ครอบครัว หรือเที่ยวคนเดียวที่ต้องการซึมซับความสุขอย่างเต็มที่
รวม 20 เทศกาลคริสต์มาสและไฟประดับสุดอลังการทั่วญี่ปุ่น ปี 2026
ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องเทศกาลดอกไม้ไฟ ฤดูหนาวที่สวยงามติดอันดับโลก และในปี 2026 มีงานไฟประดับกระจายทั่วประเทศ ตั้งแต่ฮอกไกโดจนถึงโอกินาว่า เราได้รวบรวมไว้ครบ 20 งานห้ามพลาด พร้อมรายละเอียดเพิ่มเติม!
งานไฟที่ใหญ่ที่สุดและใช้ระยะเวลาจัดงานยาวนานที่สุดในญี่ปุ่น ไฮไลต์คือ “อุโมงค์ไฟ” (Tunnel of Light) ที่ยาวกว่า 200 เมตร และการแสดงแสงสีใน “ธีมหลัก” ขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงไปทุกปี (ใช้ไฟ LED นับล้านดวง) งานมีความอลังการและรายละเอียดสูงมาก เหมาะกับการเดินทางแบบ One Day Trip จาก Nagoya
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : 18 ต.ค. 2025 – 31 พ.ค. 2026
- ค่าเข้า : 2,300 เยน
- สถานที่ : Nabana no Sato, Kuwana (Mie)
- เว็บไซต์ : https://www.nagashima-onsen.co.jp
- การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR หรือ Kintetsu มาลงที่ Kuwana Station แล้วต่อรถบัส Mie Kotsu Bus (มุ่งหน้าไป Nabana no Sato) ประมาณ 10 นาที
อุโมงค์ไฟสีน้ำเงิน (Blue Cave) สุดโรแมนติกที่ประดับประดาด้วยไฟ LED สีน้ำเงินกว่า 600,000 ดวง บนถนนต้นเคะยากิ (Keyaki Trees) ตลอดระยะทาง 800 เมตร แสงไฟสะท้อนบนพื้นถนนทำให้เกิดภาพลวงตาเหมือนกำลังเดินอยู่ในถ้ำใต้ทะเลสีคราม
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : ต้น – ปลาย ธ.ค. 2025
- ค่าเข้า : ฟรี
- สถานที่ : Shibuya Park Street ถึง Yoyogi Park
- เว็บไซต์ : https://shibuya-aonodokutsu.jp
- การเดินทาง : ลงที่ Shibuya Station (สถานีชิบูย่า) แล้วเดินไปตามถนน Shibuya Koen-dori (Shibuya Park Street) หรือลงที่ Harajuku Station แล้วเดินผ่าน Yoyogi Park
เป็นงานที่ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าสูงมาก! ชมหมู่บ้านมรดกโลก “บ้านกัสโชซึคุริ” (หลังคาทรงพนมมือ) ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนและส่องสว่างด้วยไฟสีส้มเหลืองยามค่ำคืน บรรยากาศงดงามราวเทพนิยาย (การเข้าชมต้องจองล่วงหน้าทั้งการเดินทางและจุดชมวิว)
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : 12, 18, 25 ม.ค. และ 1 ก.พ. 2026 (เฉพาะวันอาทิตย์)
- ค่าเข้า : ฟรี (มีค่าที่จอดรถ)
- สถานที่ : หมู่บ้านมรดกโลก Shirakawago
- เว็บไซต์ : https://shirakawa-go.gr.jp
- การเดินทาง : ขึ้นรถบัส Nohi Bus จาก Takayama Station ไปลงที่ Shirakawago (ต้องจองที่นั่งล่วงหน้า) ข้อสำคัญ! การเข้าชมงาน Light Up ต้องจองทัวร์/รถบัส/ที่จอดรถล่วงหน้าเท่านั้น
เทศกาลไฟประดับที่จัดท่ามกลางหิมะจริง ๆ ไฮไลต์ที่ Odori Park คือการจัดแสดงธีมต่าง ๆ ของแสงไฟที่เปลี่ยนไปในแต่ละบล็อก และมักจะมีการจัด German Christmas Market ควบคู่กันไป เพิ่มความโรแมนติกแบบยุโรปผสมหิมะของญี่ปุ่น
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : 21 พ.ย. 2025 – มี.ค. 2026 (แตกต่างตามโซน)
- ค่าเข้า : ฟรี
- สถานที่ : สวนโอโดริ (Odori Park) และบริเวณสถานี JR
- เว็บไซต์ : https://www.sapporo.travel
- การเดินทาง : ลงที่ Odori Station (สถานีโอโดริ) สำหรับเข้าชมส่วนหลักที่ Odori Park หรือลงที่ Sapporo Station เพื่อเดินชมโซน Ekimae-dori
ไม่ได้เน้นแค่ความสวยงาม แต่เน้นความหมาย งานนี้จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ปี 1995 โดดเด่นด้วยซุ้มไฟสไตล์สถาปัตยกรรมยุโรปอันยิ่งใหญ่ และอุโมงค์ไฟ (Galleria) ที่ยาวและอลังการ เป็นงานที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเปี่ยมด้วยพลังใจ
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : มักจัดช่วงปลายเดือนม.ค. ถึง ต้นเดือนก.พ. (24 ต.ค. 2025 – 2 ก.พ. 2026 คือช่วงเวลาที่ขยายจากข้อมูลเก่า)
- ค่าเข้า : ฟรี (อาจมีการเก็บค่าเข้าชมบางโซนเพื่อสนับสนุนการจัดงาน)
- สถานที่ : Higashi Yuenchi Park, Meriken Park, และ Former Foreign Settlement
- เว็บไซต์ : https://kobe-luminarie.jp
- การเดินทาง : ลงที่ JR Motomachi Station หรือ JR Sannomiya Station แล้วเดินต่อประมาณ 10–15 นาที โดยเดินตามเส้นทางที่กำหนดไปยังโซน Higashi Yuenchi Park
งานไฟที่ใช้ดวงไฟนับล้านดวงประดับประดาทั่วสวนขนาดใหญ่ ธีมหลักคือหมู่บ้านในเยอรมนี มีการแสดงแสงสีตามจังหวะเพลง (Light and Music Show) และอุโมงค์ไฟที่ให้บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซี
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : ปลาย ต.ค. 2025 – ต้น เม.ย. 2026
- ค่าเข้า : เด็ก 500 เยน / ผู้ใหญ่ 1,000 เยน (อาจมีการเรียกเก็บค่าจอดรถแทนค่าเข้า)
- สถานที่ : Tokyo German Village
- เว็บไซต์ : https://t-doitsumura.co.jp
- การเดินทาง : ลงที่ Soga Station (JR Keiyo Line) หรือ Anegasaki Station (JR Uchibo Line) แล้วต่อรถบัสหรือแท็กซี่ (การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวกที่สุด)
ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 งาน Illumination ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ใช้ไฟกว่า 5 ล้านดวงในการจำลองภาพของดอกไม้นานาชนิด โดยเฉพาะต้นวิสทีเรีย (Wisteria) เรืองแสงขนาดใหญ่ และการจัดแสดงแสงสีที่เปลี่ยนไปตามช่วงฤดูกาล
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : กลาง ต.ค. 2025 – กลาง ก.พ. 2026
- ค่าเข้า : 1,000 เยน (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
- สถานที่ : Ashikaga Flower Park
- เว็บไซต์ : https://www.ashikaga.co.jp
- การเดินทาง : ลงที่ Ashikaga Flower Park Station (สถานีอาชิคางะ ฟลาวเวอร์ พาร์ค) (JR Ryomo Line) สถานีอยู่หน้าสวนเลย
เป็นงาน Illumination ที่เน้นความโรแมนติกของเมือง ถนนสายหลักที่ยาวถึง 4 กิโลเมตรใจกลางโอซาก้า ถูกประดับด้วยไฟ LED ที่เปลี่ยนสีตามแต่ละโซน ทำให้เกิดบรรยากาศที่สงบและสวยงามตลอดเส้นทาง เหมาะกับการเดินเล่นหรือนั่งรถผ่านเพื่อชมวิว
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : 9 เม.ย. – 31 ธ.ค. 2025 (เป็นส่วนหนึ่งของ Osaka Festival of Lights)
- ค่าเข้า : ฟรี
- สถานที่ : ถนน Midosuji (จากสี่แยก Hanshin-mae ถึงสี่แยก Namba-nishiguchi)
- เว็บไซต์ : https://www.hikari-kyoen.com
- การเดินทาง : ลงที่สถานีใดก็ได้ตลอดถนน Midosuji เช่น Yodoyabashi, Honmachi, Shinsaibashi, หรือ Namba Station
งานไฟประดับที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนากาโน่ ท่ามกลางบรรยากาศภูเขาสลับซับซ้อนที่เริ่มมีหิมะตก ให้ความรู้สึกอบอุ่นในท่ามกลางธรรมชาติที่หนาวเย็น มีการจัดแสดงแสงสีที่ผสานกับทิวทัศน์หิมะและป่าไม้
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : ต้น พ.ย. 2025 – กลาง ม.ค. 2026
- ค่าเข้า : 450 เยน
- สถานที่ : Alps Azumino National Government Park
- เว็บไซต์ : https://www.azumino-koen.jp
- การเดินทาง : ลงที่ Toyoshina Station (JR Oito Line) แล้วต่อแท็กซี่ประมาณ 10 นาที (มีรถบัสฟรีให้บริการในวันหยุดและวันเสาร์-อาทิตย์)
แม้จะไม่ใช่ Illumination ธีมคริสต์มาส แต่เป็นเทศกาลไฟฤดูหนาวที่พลาดไม่ได้ในเกียวโต ไฮไลต์คือการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ถูกประดับไฟยามค่ำคืน แสงไฟสปอตไลท์สีฟ้าขนาดใหญ่จะส่องขึ้นไปบนท้องฟ้าจากระเบียงไม้ของวัด สื่อถึงความเมตตาของเจ้าแม่กวนอิม
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : 22 พ.ย. – 7 ธ.ค. 2025 (อาจมีการขยายวัน)
- ค่าเข้า : ฟรี (สำหรับเข้าชมยามค่ำคืน)
- สถานที่ : วัด Kiyomizu-dera (วัดน้ำใส)
- เว็บไซต์ : https://www.kiyomizudera.or.jp
- การเดินทาง : ลงที่ Roppongi Station (สถานีรปปงงิ) (Tokyo Metro Hibiya/Toei Oedo Line) แล้วเดินเข้า Roppongi Hills
งานไฟที่เน้นการจัดแสดงที่เชื่อมโยงกับพืชพรรณและดอกไม้ โดยเฉพาะโซนสวนกุหลาบเรืองแสง และอุโมงค์ไฟที่สวยงามตามฤดูกาล เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปกับแสงไฟท่ามกลางดอกไม้
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : 10 ต.ค. 2025 – 26 ม.ค. 2026
- ค่าเข้า : 900 เยน
- สถานที่ : Ibaraki Flower Park
- เว็บไซต์ : https://visit.ibarakiguide.jp
- การเดินทาง : ลงที่ Ishikuoka Station (JR Joban Line) แล้วต่อรถบัส Kantetsu Bus (มุ่งหน้าไปสวน) ประมาณ 30 นาที
งานไฟที่เน้นการจัดแสดงที่เชื่อมโยงกับพืชพรรณและดอกไม้ โดยเฉพาะโซนสวนกุหลาบเรืองแสง และอุโมงค์ไฟที่สวยงามตามฤดูกาล เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปกับแสงไฟท่ามกลางดอกไม้
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : 15 พ.ย. 2025 – 10 พ.ค. 2026
- ค่าเข้า : 1,900 เยน (ผู้ใหญ่)
- สถานที่ : Sagamiko Resort Pleasure Forest
- เว็บไซต์ : https://www.sagamiko-resort.jp
- การเดินทาง : งานไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโต ใช้ดวงไฟกว่า 6 ล้านดวง จัดในพื้นที่สวนสนุกบนภูเขา นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปชมวิว “ทะเลแห่งแสงไฟ” จากมุมสูงได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
งานไฟประดับที่เชื่อมโยงกับปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) มรดกโลก โดยเน้นการประดับไฟตามแนวถนนต้นไม้เพื่อส่งเสริมทิวทัศน์ยามค่ำคืนของปราสาท (แม้จะไม่ได้จัดในช่วงคริสต์มาส แต่เป็นงานไฟที่สำคัญของเมือง)
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : มักจัดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ-ใบไม้ร่วง (13 เม.ย. – 13 ต.ค. 2025)
- ค่าเข้า : ฟรี
- สถานที่ : ถนน Otemae Street
- เว็บไซต์ : https://www.city.himeji.lg.jp
- การเดินทาง : ลงที่ JR Himeji Station หรือ Sanyo-Himeji Station (Sanyo Railway) แล้วใช้ทางออกทิศเหนือ (North Exit) จากนั้นเดินตรงไป ตามถนน Otemae-dori ได้เลย (ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร หรือ 15-20 นาที) รถบัสสามารถนั่ง Himeji Castle Loop Bus จากป้ายรถบัสหมายเลข 6 หน้าสถานี JR Himeji ไปลงป้าย Himeji-jo Otemon-mae แล้วเดินต่อไปก็ได้
งานไฟประดับประจำปีในรีสอร์ทใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ไฮไลต์คือการแสดง “น้ำพุแสงสี” ที่มีการเต้นรำของน้ำพุประกอบดนตรีและแสงเลเซอร์อย่างอลังการ และ “อุโมงค์ไฟ” ที่มีความยาวและงดงาม
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : กลาง ต.ค. 2025 – ต้น มี.ค. 2026
- ค่าเข้า : ฟรี
- สถานที่ : Gotemba Kogen Tokinosumika (รีสอร์ท)
- เว็บไซต์ : https://www.tokinosumika.com
- การเดินทาง : ลงที่ Gotemba Station (JR Gotemba Line) แล้วต่อรถบัสรับส่งฟรีของรีสอร์ท (Shuttle Bus)
เทศกาลที่อบอุ่นและโรแมนติกอย่างแท้จริง โคมไฟหิมะและเทียนไขหลายพันชิ้นจะถูกจุดให้สว่างไสวตามริมคลองโอตารุและถนนสายเก่าท่ามกลางหิมะ บรรยากาศเงียบสงบเหมือนหลุดเข้าไปในโลกเทพนิยาย
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : 8 – 15 ก.พ. 2026
- ค่าเข้า : ฟรี
- สถานที่ : คลองโอตารุ (Otaru Canal) และย่าน Temiyasen (ทางรถไฟเก่า)
- เว็บไซต์ : https://www.sapporo.travel
- การเดินทาง : ลงที่ Otaru Station หรือ Minami-Otaru Station (JR Hakodate Main Line) แล้วเดินไปยังโซนคลองโอตารุ (Otaru Canal)
งาน Illumination ขนาดใหญ่ที่เน้นโชว์สุดอลังการ มีการใช้เทคโนโลยีแสงสีเสียงสูงในการแสดงน้ำพุแสงสี, เลเซอร์, และฉากจำลองเมืองเอโดะ (Edo) และทุ่งหญ้าธรรมชาติ ทำให้ได้ภาพบรรยากาศที่หลากหลาย
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : ต้น พ.ย. 2025 – กลาง ม.ค. 2026
- ค่าเข้า : 1,500 เยน (ราคาอาจแตกต่างกัน)
- สถานที่ : สนามแข่งม้าโออิ (Oi Racecourse)
- เว็บไซต์ : https://www.tokyomegaillumi.jp
- การเดินทาง : ลงที่ Oi Keibajo-mae Station (Tokyo Monorail) แล้วเดินต่อ 2 นาที หรือลงที่ Tachiaigawa Station (Keikyu Line) แล้วเดินต่อ 12 นาที
ถนนที่โรแมนติกที่สุดในโตเกียว ถูกประดับด้วยไฟ LED สลับสีขาวและน้ำเงิน (Snow & Blue) ที่เรียกว่า “Snownation” โดยมีวิวของ Tokyo Tower ส่องแสงสีส้มเป็นฉากหลังอย่างลงตัว เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของคู่รัก
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : ต้น พ.ย. – ปลาย ธ.ค. 2025
- ค่าเข้า : ฟรี
- สถานที่ : ถนน Keyakizaka, Roppongi Hills
- เว็บไซต์ : https://www.roppongihills.com
- การเดินทาง : ลงที่ Roppongi Station (สถานีรปปงงิ) (Tokyo Metro Hibiya/Toei Oedo Line) แล้วเดินเข้า Roppongi Hills
งานไฟที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นในสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม โดยใช้โคมไฟที่ทำจากไม้ไผ่กว่า 300 ชิ้นมาจัดเรียงตามลำธารและสะพานในหมู่บ้านออนเซ็น ทำให้เกิดบรรยากาศที่สงบและสวยงามท่ามกลางความหนาวเย็น
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : ปลาย ธ.ค. 2025 – ปลาย มี.ค. 2026
- ค่าเข้า : ฟรี
- สถานที่ : หมู่บ้าน Kurokawa Onsen
- เว็บไซต์ : https://www.kurokawaonsen.or.jp
- การเดินทาง : นั่งรถบัส Kyushu Odan Bus จาก Kumamoto Kotsu Center ไปลงที่ Kurokawa Onsen (ต้องจองที่นั่ง) หรือนั่งรถบัสประจำทางจากสถานี JR Aso
งานไฟประดับที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่นอย่างสิ้นเชิง ด้วยธีม Tropical Christmas ที่ประดับไฟท่ามกลางต้นปาล์ม, พืชเขตร้อน, และสระน้ำ มีโซนไฟประดับแนวทะเล (Marine-themed) ที่ได้รับรางวัลระดับประเทศ
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : ปลาย ต.ค. 2025 – ปลาย พ.ค. 2026
- ค่าเข้า : 2,300 เยน
- สถานที่ : Southeast Botanical Gardens
- เว็บไซต์ : https://www.southeast-botanical.jp
- การเดินทาง : นั่งรถบัสจาก Naha Bus Terminal ไปลงที่ป้าย Okinawashi Nomin Kenshu center-mae แล้วต่อแท็กซี่ (หรือเดิน) ไป Southeast Botanical Gardens
งานไฟที่เข้าชมฟรีและมีบรรยากาศสนุกสนาน มีต้นคริสต์มาสยักษ์ และการจัดแสดงไฟตามอุโมงค์และลานกว้างต่าง ๆ ภายในสวนสนุก เน้นการออกแบบที่เข้าถึงง่ายและเหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
- ช่วงเวลา (คาดการณ์) : กลาง พ.ย. 2025 – ปลาย ก.พ. 2026
- ค่าเข้า : ฟรี (ยกเว้นค่าเครื่องเล่น)
- สถานที่ : Tokyo Dome City
- เว็บไซต์ : https://www.tokyo-dome.co.jp
- การเดินทาง : ลงที่ Suidobashi Station (JR Chuo Line/Toei Mita Line) หรือ Korakuen Station (Tokyo Metro Marunouchi/Namboku Line) แล้วเดินต่อ 1-3 นาที
เคล็ดลับเตรียมตัว “เที่ยวญี่ปุ่นช่วงคริสต์มาส”
การเที่ยวญี่ปุ่นช่วงหน้าหนาวต้องเตรียมตัวมากกว่าปกติ เพื่อให้คุณพร้อมลุยเทศกาลได้อย่างสนุกสนาน ไม่ต้องกังวลเรื่องอากาศ
อุณหภูมิและเสื้อผ้าแนะนำ
การแต่งกายสำคัญของการเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว! ควรใช้หลักการแต่งตัวแบบ “Layering” เพื่อสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามสภาพอากาศ
| เมือง | อุณหภูมิเฉลี่ย (กลางวัน–กลางคืน) | คำแนะนำเสื้อผ้า |
| โตเกียว, โอซาก้า | 3–12°C | Heat-Tech/ลองจอน (ชั้นใน), เสื้อ Sweater/Fleece (ชั้นกลาง), เสื้อโค้ทหนา/Down Jacket (ชั้นนอก) |
| ฮอกไกโด, ซัปโปโร | -5–5°C | Heat-Tech Extra Warm (ชั้นใน), เสื้อหนามาก (ชั้นกลาง), เสื้อ Down Jacket กันน้ำ/กันหิมะ (ชั้นนอก), หมวก, ผ้าพันคอ, ถุงมือแบบกันน้ำ, รองเท้าบูทกันลื่น |
- ฮีตเทค (Heat-Tech) : หรือลองจอนคุณภาพดี ช่วยกักเก็บความร้อนในร่างกาย
- ถุงมือ, หมวก, ผ้าพันคอ : เป็นส่วนที่สูญเสียความร้อนได้เร็วที่สุด ห้ามลืม!
- รองเท้ากันลื่น : โดยเฉพาะถ้าไปฮอกไกโดหรือพื้นที่ที่มีหิมะ
- แผ่นแปะกันหนาว (Kairo) : ช่วยเพิ่มความอบอุ่นเฉพาะจุดได้ดีมาก
การจองตั๋วและที่พักล่วงหน้า
ช่วงคริสต์มาสเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาญี่ปุ่นหนาแน่นที่สุดช่วงหนึ่ง ทำให้ตั๋วเครื่องบินและที่พักเต็มเร็วมาก
- จองก่อนอย่างน้อย 2–3 เดือน : เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด โดยเฉพาะตั๋วเครื่องบิน
- ที่พักย่านยอดนิยมเต็มเร็ว : โตเกียว ชินจูกุ (Shinjuku), ชิบูย่า (Shibuya), อุเอโนะ (Ueno) โอซาก้า นัมบะ (Namba), อุเมดะ (Umeda) และซัปโปโร บริเวณสถานี JR Sapporo
- หากเดินทางช่วง 24–25 ธ.ค. ควรจองร้านอาหารล่วงหน้า เพราะคนญี่ปุ่นนิยมฉลองวันคริสต์มาสอีฟกันอย่างอบอุ่น
เดินทางสะดวกด้วย JR Pass หรือ IC Card
- JR Pass : หากวางแผนเดินทางข้ามเมือง เช่น โตเกียว-โอซาก้า-ซัปโปโร ควรซื้อ JR Pass ล่วงหน้า เพื่อประหยัดค่าเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็น
- IC Card (Suica, Pasmo, Icoca) : บัตรเติมเงินอเนกประสงค์สำหรับรถไฟใต้ดิน, รถบัส, และใช้ซื้อของตามร้านสะดวกซื้อในเมือง ทำให้การเดินทางในเมืองใหญ่สะดวกสบาย ไม่ต้องซื้อตั๋วทุกครั้ง
อาหารที่ควรลองเมื่อไป “เที่ยวญี่ปุ่นช่วงคริสต์มาส”
คริสต์มาสที่ญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่ไก่งวง แต่มีเมนูเฉพาะที่กลายเป็นประเพณีที่น่าสนใจ :
- ราเม็งร้อน ๆ ในอากาศหนาว : ไม่มีอะไรจะฟินเท่ากับการซดซุปราเม็งร้อน ๆ ในคืนที่อากาศหนาวจัด เมนูแนะนำคือ มิโซะราเม็ง (Miso Ramen) ในฮอกไกโด หรือทงคตสึราเม็ง (Tonkotsu Ramen) เข้มข้น
- เค้กสตรอว์เบอร์รี่คริสต์มาส (Strawberry Shortcake) : นี่คือ “สัญลักษณ์” ของคริสต์มาสญี่ปุ่น! เค้กเนื้อนุ่มสีขาวบริสุทธิ์ ตกแต่งด้วยวิปครีมและสตรอว์เบอร์รี่สดสีแดงสดใส หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านเค้กชั้นนำ
- ไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่น (KFC Christmas Tradition) : ประเพณีสุดแปลกแต่จริง! การสั่งไก่ทอดจาก KFC เป็นอาหารหลักในคืนคริสต์มาสอีฟของครอบครัวชาวญี่ปุ่น การจองล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งจำเป็น!
- ช็อกโกแลตร้อน และ ชาเขียวมัทฉะลาเต้ : หาเครื่องดื่มร้อน ๆ อุ่นมือจากตู้กดน้ำ หรือร้านคาเฟ่ชั้นนำ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและซึมซับบรรยากาศ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “เที่ยวญี่ปุ่นช่วงคริสต์มาส” (FAQ)
- ถาม : เที่ยวญี่ปุ่นช่วงคริสต์มาสต้องขอวีซ่าหรือไม่?
- ตอบ : คนไทยยังคงต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวญี่ปุ่นตามปกติสำหรับทริประยะสั้น (ไม่เกิน 15 วัน) แม้ว่าขั้นตอนจะง่ายขึ้นมากแล้วก็ตาม ควรยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน เพราะช่วงปลายปีเป็นช่วง High Season ใช้เ วลาพิจารณาประมาณ 5–7 วันทำการ
- ถาม : โตเกียวและฮอกไกโดช่วงคริสต์มาสมีหิมะตกหรือไม่?
- ตอบ : หากไปฮอกไกโด (Hokkaido) หรือพื้นที่ตอนเหนือของญี่ปุ่น จะมีหิมะตกแน่นอนและมีหิมะกองสูงทำให้ได้บรรยากาศ White Christmas แต่ถ้าไปเมืองใหญ่อย่างโตเกียว (Tokyo), โอซาก้า (Osaka) หรือเกียวโต (Kyoto) ส่วนใหญ่จะเจอแค่ลมหนาวและอากาศเย็นจัด หิมะตกน้อยมากหรือไม่มีเลย
- ถาม : วันคริสต์มาสในญี่ปุ่นถือเป็นวันหยุดประจำชาติหรือไม่?
- ตอบ : ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ วันที่ 23 ธันวาคม เคยเป็นวันหยุด แต่ถูกยกเลิกไปหลังจากการเปลี่ยนแปลงรัชสมัย ปัจจุบันวันหยุดใหญ่คือช่วงปีใหม่ (31 ธ.ค. – 3 ม.ค.) ดังนั้น ร้านค้า, ห้างสรรพสินค้า, และแหล่งท่องเที่ยวยังคงเปิดตามปกติ ทำให้เราเที่ยวได้อย่างสนุกสนาน ไม่ต้องกังวลว่าสถานที่ท่องเที่ยวจะปิด
- ถาม : งบประมาณเฉลี่ยสำหรับทริป 7 วันช่วงคริสต์มาส?
- ตอบ : เนื่องจากการเดินทางในช่วงคริสต์มาสเป็นช่วง High Season ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าช่วงปกติเล็กน้อย สำหรับทริป 6–7 วัน ใช้งบประมาณเฉลี่ย 45,000–70,000 บาท ต่อคน (ไม่รวมค่าช้อปปิ้ง) :
- ตั๋วเครื่องบิน : 15,000 – 25,000 บาท (แล้วแต่ช่วงเวลาจอง)
- ที่พัก : 15,000 – 20,000 บาท (6 คืน)
- ค่ากิน/เดินทาง : 15,000 – 25,000 บาท
TRIP JAPAN ONLINE วางแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นในสไตล์ของคุณ
อยากเที่ยวญี่ปุ่นให้สนุกแบบมือโปร แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง? Trip Planner จาก Trip Japan Online คือผู้ช่วยที่ทำให้การวางแผนเที่ยวของคุณง่ายขึ้นในคลิกเดียว ไม่ว่าคุณจะอยากเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง, วางแพลนขับรถเที่ยวรอบเกาะ หรืออยากได้เส้นทางกิน เที่ยว ช้อป ครบจบในทริปเดียว เรารวมแผนการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่คัดสรรมาแล้วให้คุณเลือกตามสไตล์ ตั้งแต่ทริปคู่รัก, ทริปครอบครัว, ไปจนถึงทริปแก๊งเพื่อน ครบทั้งเรื่องกิน เรื่องเที่ยว ที่พัก ที่ช้อป พร้อมรายละเอียดการเดินทางในแต่ละวัน
พร้อมลุยทริปปลายปีนี้แล้วหรือยัง? อย่าปล่อยให้โอกาสสัมผัสคริสต์มาสสุดโรแมนติกที่ญี่ปุ่นหลุดลอยไป! ติดต่อทีมวางแผนการเดินทางญี่ปุ่นได้เลยที่ @Tripjapan เพื่อให้คริสต์มาสปี 2025 ของคุณอบอุ่นและน่าจดจำที่สุด