หนาวนี้ไปเที่ยวไหน ? แจกแพลนเที่ยว ยามากาตะ หน้าหนาว 4 วัน 3 คืน

ถ้าถามว่า “หน้าหนาวนี้จะไปเที่ยวไหนดี?” หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงฮอกไกโดหรือโตเกียว แต่ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ทั้งสวยงามและไม่เหมือนใคร “ยามากาตะ” คือจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่นี่จะกลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นหิมะที่ขาวโพลนจนสุดลูกหูลูกตา ปีศาจหิมะสุดอลังการ หรือหมู่บ้านออนเซ็นโบราณที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นในวันที่อากาศหนาวเหน็บ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจทุกซอกทุกมุมของ “ยามากาตะ หน้าหนาว” ตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด! การเดินทางที่ไม่ต้องขับรถเองก็เที่ยวได้ ไปจนถึงแพลนเที่ยวที่ช่วยให้คุณไม่ต้องปวดหัวกับการวางแผนอีกต่อไป เพื่อให้คุณได้สัมผัสความงามของญี่ปุ่นในอีกมุมหนึ่งที่รอให้คุณไปค้นพบ พร้อมแล้วไปดูกันเลย!

รวมที่เที่ยว “ยามากาตะ หน้าหนาว”

แจกแพลนเที่ยว “ยามากาตะ หน้าหนาว 4 วัน 3 คืน“

หน้าหนาวนี้ขอพาทุกคนไปเดินย่ำบนหิมะให้ใจฟู กับมินิไกด์ “4 Days Trip To Snowland” ณ จังหวัด Yamagata และเมืองใกล้เคียงแบบจัดเต็ม เพราะทริปนี้เราได้บรรจงคัดสรรไฮไลท์เด็ดจากหลากหลายเมือง ที่ครบรสกลมกล่อม ร้อยเรียงออกมาเป็นรูทเที่ยวให้ได้ตามแล้วปังแน่นอน! ตลอดทั้งทริปพักแถว Yamagata Station ที่เดียว และเดินทางในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปักหมุดเที่ยว 8 พิกัดตามนี้ บอกเลยว่าเหล่าประชากรเมืองร้อนอย่างเราจะต้องอินและฟินสุด ๆ ชัวร์!

DAY 1

เริ่มต้นวันแรกของทริปด้วยการเดินทางสู่เมือง Tsuruoka เพื่อเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และปิดท้ายด้วยการพักผ่อนและช้อปปิ้งในย่านสถานี

• ช่วงเช้า (เวลา 08:00 น.) : เริ่มต้นเดินทางจากที่พักของคุณใกล้ Yamagata Station ไปยังสถานี Tsuruoka โดยรถไฟ JR Uetsu Line ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
• ช่วงสาย (เวลา 10:00 น.) : เมื่อมาถึงสถานี Tsuruoka แล้ว ให้ต่อรถบัสประจำทางมุ่งหน้าไปยัง Kamo Aquarium ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  • พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของการจัดแสดงแมงกะพรุน คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจกับแมงกะพรุนหลากหลายสายพันธุ์ที่แหวกว่ายอย่างสง่างามในตู้โชว์ขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนี้ยังมีแมงกะพรุนยักษ์ที่หาชมได้ยากให้คุณได้ชมอย่างใกล้ชิดด้วย
  • คำแนะนำ : ใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เงียบสงบและถ่ายรูปสวย ๆ ได้อย่างเต็มที่
• ช่วงบ่าย (เวลา 14:00 น.) : หลังจากชมแมงกะพรุนเสร็จแล้ว ให้เดินทางกลับมายังบริเวณ Shonai Bus Terminal and Shopping Center ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Tsuruoka
  • ที่นี่เป็นศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกที่หลากหลาย คุณสามารถหาอาหารกลางวันทานได้ที่นี่ และเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งของฝากก่อนเดินทางกลับที่พักในเมืองยามากาตะ
  • คำแนะนำ : ลองหาซื้อผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น หรือขนมหวานที่มีชื่อเสียงของเมือง Tsuruoka เป็นของฝากกลับไป
• ช่วงเย็น (เวลา 18:00 น.) : เดินทางกลับจากสถานี Tsuruoka ไปยังที่พักของคุณที่ Yamagata Station เพื่อพักผ่อนและเตรียมตัวสำหรับวันที่สองของทริป

DAY 2

วันที่สองของทริป เราจะพาคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศสุดโรแมนติกที่กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) หมู่บ้านออนเซ็นโบราณที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะมาเยือนให้ได้สักครั้ง

• ช่วงเช้า (เวลา 09:00 น.) : เริ่มต้นเดินทางจากที่พักของคุณที่ Yamagata Station ไปยัง สถานี Oishida โดยรถไฟ JR Ou Main Line ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
• ช่วงสาย (เวลา 10:30 น.) : จากสถานี Oishida ให้ต่อรถบัส Ginga Kotsu มุ่งหน้าสู่ Ginzan Onsen ใช้เวลาประมาณ 40 นาที รถบัสจะจอดรอรับตามเวลาที่รถไฟมาถึง ทำให้การเดินทางสะดวกสบายมาก
• ช่วงเที่ยง (เวลา 11:30 น.) : เมื่อเดินทางมาถึงกินซังออนเซ็น คุณจะเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในยุคไทโช (Taisho Period) ด้วยบรรยากาศของเรียวกังและอาคารเก่าแก่ที่ยังคงรักษารูปแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  • สิ่งที่ต้องทำ :
    • เดินเล่นชมบรรยากาศ : หมู่บ้านแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก สามารถเดินชมได้ทั่วในเวลาไม่นาน ลองเดินไปตามถนนสายหลัก ชมเรียวกังโบราณที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม
    • แช่เท้าในบ่อออนเซ็นสาธารณะ : บริเวณทางเข้าหมู่บ้านมีบ่อแช่เท้าสาธารณะ (Ashiyu) ให้บริการฟรี คุณสามารถแช่เท้าเพื่อคลายความเหนื่อยล้าไปพร้อมกับชมบรรยากาศโดยรอบ
    • ชิมของอร่อย : มีร้านค้าและร้านอาหารเล็กๆ ให้คุณได้ลองชิมขนมและอาหารท้องถิ่น เช่น ขนมปังกรอบ (Koppe Pan) หรือเต้าหูทอด (Tofu) ที่เป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่
    • คำแนะนำ : ใช้เวลาอยู่ที่นี่นาน ๆ จนถึงช่วงค่ำเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศที่สวยที่สุด แนะนำให้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะวิวที่นี่สวยงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียว
• ช่วงเย็น (เวลา 19:00 น.) : เดินทางกลับจากกินซังออนเซ็นด้วยรถบัสไปที่สถานี Oishida และต่อรถไฟกลับมายังที่พักของคุณที่ Yamagata Station เพื่อพักผ่อนสำหรับวันต่อไป

DAY 3

วันที่สามนี้จะเป็นไฮไลต์ของทริปที่อัดแน่นไปด้วยความสวยงามและประทับใจ ทั้งปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดอลังการและวัดเก่าแก่บนยอดเขา

• ช่วงเช้า (09:00 น.) : เริ่มต้นวันด้วยการเดินทางจากที่พักใน Yamagata Station ไปยัง Zao Onsen โดยรถบัสใช้เวลาประมาณ 40 นาที พอไปถึงแล้ว ให้มุ่งหน้าไปที่ Zao Ropeway Zao Sanroku Station เพื่อขึ้นกระเช้าลอยฟ้า
• 10:00 น. – ช่วงบ่าย : เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความยิ่งใหญ่ของ “ปีศาจหิมะ” (Juhyo)! ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์คือช่วงเวลาที่ปีศาจหิมะเติบโตเต็มที่ ทำให้คุณได้เห็นวิวที่สวยที่สุดจากมุมสูงของกระเช้าลอยฟ้า และยังสามารถเดินเล่นบนยอดเขาเพื่อสัมผัสความหนาวเหน็บและความสวยงามได้อย่างใกล้ชิด
• ช่วงบ่าย (14:00 น.) : หลังจากลงมาจากภูเขา Zao ให้เดินทางต่อไปยังวัด Rissyakuji หรือที่รู้จักกันในชื่อ Yamadera โดยนั่งรถไฟ JR จากสถานี Yamagata ไปยังสถานี Yamadera ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
• 15:00 น. – ช่วงเย็น : วัด Yamadera เป็นวัดเก่าแก่บนยอดเขาที่มีบันไดหินกว่า 1,000 ขั้นทอดยาวขึ้นไป การปีนขึ้นไปอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่เมื่อไปถึงยอดคุณจะได้เห็นวิวเมืองที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะแบบพาโนรามาที่สวยงามคุ้มค่ากับความพยายามแน่นอน หลังจากนั้น เดินทางกลับไปที่พักใน Yamagata Station เพื่อพักผ่อน

DAY 4

ในวันสุดท้ายของทริป เราจะเดินทางไปยังเมือง Shiroishi เพื่อสัมผัสกับประวัติศาสตร์และความน่ารักของเหล่าจิ้งจอก ก่อนเดินทางกลับ

• ช่วงเช้า (09:00 น.) : เริ่มต้นเดินทางจาก Yamagata Station ไปยังสถานี Shiroishi-Zao โดยรถไฟชินคันเซ็น ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
• 10:00 น. – ช่วงเที่ยง : จากสถานี Shiroishi-Zao ให้เดินทางต่อไปยังปราสาท Shiroishi ปราสาทไม้เก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ตามแบบดั้งเดิม ที่นี่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและเป็นจุดที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเรื่องราวในอดีต
• ช่วงเที่ยง (12:30 น.) : แวะพักทานอาหารกลางวันที่ร้าน Hikarian ซึ่งเป็นร้านอาหารท้องถิ่นยอดนิยมที่เสิร์ฟเมนูอร่อยและอบอุ่น เหมาะสำหรับเติมพลังก่อนไปทำกิจกรรมต่อไป
• ช่วงบ่าย (14:00 น.) : มุ่งหน้าสู่ Zao Fox Village ซึ่งเป็นที่อยู่ของจิ้งจอกนับร้อยตัวที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ คุณสามารถให้อาหารและถ่ายรูปร่วมกับพวกมันได้อย่างใกล้ชิด
• ช่วงเย็น (17:00 น.) : เดินทางกลับจากสถานี Shiroishi-Zao ไปยัง Yamagata Station และเตรียมตัวเดินทางกลับโตเกียว เป็นการปิดท้ายทริปที่เต็มไปด้วยความประทับใจ

ให้ทริปยามากาตะหน้าหนาวของคุณเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด ด้วยแพลนเที่ยวจากเรา คลิกที่นี่ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

ค่าใช้จ่ายเที่ยว “ยามากาตะ หน้าหนาว” 4 วัน 3 คืน

การวางแผนงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเที่ยวได้อย่างสบายใจและไม่ติดขัด เราได้รวบรวมข้อมูลค่าใช้จ่ายโดยประมาณสำหรับการเดินทางไปยามากาตะหน้าหนาว 4 วัน 3 คืน มาให้คุณแล้ว เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัว

**คำแนะนำ : ตัวเลขเหล่านี้เป็นค่าประมาณการณ์เท่านั้น ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการเดินทาง, ที่พักที่เลือก และรูปแบบการท่องเที่ยวของคุณ

หมวดหมู่ค่าใช้จ่าย	รายละเอียด	งบประมาณโดยประมาณ (เยน)
ค่าเดินทาง	JR East Pass (Tohoku Area) (5 วัน)	20,000 เยน
	ค่ารถบัส (จากสถานีไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ)	2,000 – 3,000 เยน
	ค่าแท็กซี่ (ในบางโอกาส เช่น จากสถานีไป Zao Fox Village)	3,000 – 4,000 เยน
ค่าที่พัก	ค่าที่พัก 3 คืน (พักที่ Yamagata Station)	15,000 – 25,000 เยน
ค่าเข้าชม/กิจกรรม	Kamo Aquarium	1,500 เยน
	Zao Ropeway (ไป-กลับ)	3,000 เยน
	Zao Fox Village	1,000 เยน
	Shiroishi Castle	1,000 เยน
	วัด Yamadera	800 เยน
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม	4 วัน (3,000 – 5,000 เยน/วัน)	12,000 – 20,000 เยน
ค่าตั๋วเครื่องบิน	ตั๋วไป-กลับ กรุงเทพฯ – โตเกียว	54,000 – 90,000 เยน
รวมงบประมาณ	เงินเยนประมาณ	112,300 – 148,800 เยน
	เงินบาทประมาณ	28,000 – 37,000 บาท

**หมายเหตุ : ตัวเลขข้างต้นเป็นค่าประมาณการ อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามช่วงเวลาและรูปแบบการท่องเที่ยวของคุณ

ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยว “ยามากาตะ หน้าหนาว”

การเดินทางไปยามากาตะหน้าหนาวเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม แต่การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้ทริปของคุณราบรื่นและสนุกสนานยิ่งขึ้น เราได้รวบรวมข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวยามากาตะหน้าหนาว ที่เป็นประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นครั้งแรก

การเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์

• เสื้อผ้า : เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวอย่างหนาเป็นพิเศษ โดยเน้นเสื้อผ้าที่สามารถใส่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ (Layering) ได้ เพื่อให้ปรับเปลี่ยนอุณหภูมิร่างกายได้ง่าย
• รองเท้า : รองเท้าที่กันน้ำ กันลื่น และอบอุ่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะคุณจะต้องเดินบนหิมะเป็นส่วนใหญ่
• อุปกรณ์กันหนาวอื่น ๆ : อย่าลืมถุงมือ, หมวก, ผ้าพันคอ และถุงร้อนแบบพกพา ซึ่งมีประโยชน์มากในวันที่อากาศหนาวจัด

การเดินทาง

• เช็คสภาพอากาศและหิมะ : สภาพอากาศในยามากาตะหน้าหนาวเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ควรเช็คพยากรณ์อากาศและปริมาณหิมะตกก่อนออกเดินทางในแต่ละวัน
• รถไฟและรถบัส : แม้ว่าระบบขนส่งสาธารณะจะค่อนข้างตรงเวลา แต่ในช่วงที่มีหิมะตกหนักอาจมีการล่าช้าได้บ้าง ควรเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางไว้เสมอ
• การจองที่พักและตั๋ว : ที่พักและตั๋วรถไฟบางประเภท โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล จะเต็มเร็วมาก ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือน

สรุป

ยามากาตะ ช่วงหน้าหนาว ไม่ใช่แค่เพียงสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นประสบการณ์ที่คุณจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ทั้งความยิ่งใหญ่ของปีศาจหิมะที่ภูเขาซาโอะ ความโรแมนติกของหมู่บ้านออนเซ็น ที่ให้ความอบอุ่นท่ามกลางหิมะ และความเงียบสงบของการล่องเรือชมแม่น้ำโมกามิ ทุกสถานที่ที่เราได้แนะนำไปล้วนแต่เป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์นักเดินทางที่มองหาความพิเศษไม่เหมือนใคร และที่สำคัญคือ คุณสามารถเที่ยวได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “ยามากาตะ หน้าหนาว” (FAQ)

• ถาม : ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยว Yamagata หน้าหนาวคือเมื่อไหร่?
  • ตอบ : ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือปลายเดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงที่มีหิมะตกหนักที่สุดและเป็นช่วงที่ปีศาจหิมะเติบโตเต็มที่ ทำให้คุณได้เห็นวิวที่สวยที่สุด
• ถาม : การเดินทางด้วยรถสาธารณะใน Yamagata หน้าหนาวสะดวกไหม?
  • ตอบ : สะดวกรถไฟและรถบัสในยามากาตะมีตารางเวลาที่ค่อนข้างแน่นอน แม้ในช่วงหิมะตกหนักก็ยังคงให้บริการตามปกติ แต่ควรเผื่อเวลาไว้เล็กน้อยเพื่อความไม่ประมาท
• ถาม : จำเป็นต้องจองที่พักล่วงหน้าไหม?
  • ตอบ : จำเป็น โดยเฉพาะที่พักใน Ginzan Onsen หรือ Zao Onsen ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือน เพราะมีจำนวนจำกัดและเต็มเร็วมาก
• ถาม : ควรเตรียมเสื้อผ้าอย่างไรสำหรับการเที่ยว Yamagata หน้าหนาว?
  • ตอบ : ควรเตรียมเสื้อผ้าแบบเป็นชั้นๆ (Layering) และเน้นเสื้อผ้าที่กันลม กันน้ำ และอบอุ่นเป็นพิเศษ อย่าลืมถุงมือ, หมวก, ผ้าพันคอ, และรองเท้าบูทกันน้ำกันลื่น
• ถาม : นั่งรถไฟ JR Pass ไปเที่ยว Yamagata ได้ไหม?
  • ตอบ : คุณสามารถใช้ JR East Pass (Tohoku Area) เพื่อเดินทางจากโตเกียวไปยังยามากาตะได้ ซึ่งช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
• ถาม : ไปเที่ยว Yamagata คนเดียวได้ไหม?
  • ตอบ : ไปได้แน่นอน การเดินทางในยามากาตะค่อนข้างปลอดภัยและสะดวกสบาย คุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เงียบสงบได้อย่างเต็มที่
• ถาม : มีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้างนอกจากชมปีศาจหิมะ?
  • ตอบ : มีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เล่นสกี, แช่ออนเซ็น, ล่องเรือชมแม่น้ำโมกามิ, หรือเดินเที่ยวในหมู่บ้านโบราณอย่าง Ginzan Onsen
• ถาม : อาหารท้องถิ่นที่ Yamagata หน้าหนาวมีอะไรน่าลองบ้าง?
  • ตอบ : ลองชิม เนื้อ Yonezawa ซึ่งเป็นเนื้อวัวขึ้นชื่อของที่นี่ หรือมันฝรั่งในหม้อไฟ (Imoni) ซึ่งเป็นอาหารประจำท้องถิ่นในฤดูหนาว
• ถาม : ค่าใช้จ่ายโดยรวมประมาณเท่าไหร่สำหรับทริป 4 วัน?
  • ตอบ : งบประมาณโดยประมาณจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 50,000 บาทต่อคน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) ขึ้นอยู่กับสไตล์การเที่ยวและที่พักที่คุณเลือก
• ถาม : TRIP JAPAN ONLINE มีบริการอะไรที่ช่วยในการวางแผนเที่ยวบ้าง?
  • ตอบ : เรามีบริการวางแผนการท่องเที่ยว ที่ครอบคลุมทุกเรื่องตั้งแต่ที่พัก, การเดินทาง, ร้านอาหาร, และกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงบริการจองรถเช่าและบริการประสานงานช่วยเหลือตลอดการเดินทาง

เที่ยวญี่ปุ่นง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเองไปกับ TRIP JAPAN ONLINE

เราเข้าใจดีว่าการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองอาจดูเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมตัวเยอะ แต่ที่ TRIP JAPAN ONLINE เราพร้อมเป็นผู้ช่วยให้ทริปในฝันของคุณง่ายกว่าที่คิด ด้วยบริการที่ครบวงจรและตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเดินทาง

“หยุดคิดเรื่องการวางแผน แล้วมาสนุกกับการเดินทางไปกับเรา!”

บริการจองรถเช่าในประเทศญี่ปุ่น

สำหรับนักเดินทางที่อยากขับรถเที่ยวเอง หรือต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางแบบส่วนตัวไปกับรถตู้พร้อมคนขับที่ชำนาญเส้นทาง เรามีบริการจองรถเช่าที่หลากหลายและน่าเชื่อถือ

• จองโดยตรงกับผู้ประกอบการที่ได้รับรอง : มั่นใจในมาตรฐานและความปลอดภัย
• มีจุดบริการรองรับทุกเมือง : ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถรับรถได้สะดวก
• มีตัวเลือกหลากหลาย : รถยนต์ส่วนตัว, รถตู้, หรือรถพร้อมคนขับ เลือกได้ตามความต้องการ
• รองรับการทำประกันภัยครบวงจร : หายห่วงเรื่องความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

บริการวางแผนท่องเที่ยว

บอกลาความยุ่งยากในการวางแผนเที่ยวไปได้เลย ด้วยบริการจัดแพลนเที่ยวที่ครอบคลุมทุกเรื่องที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารลับๆ, สถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษ, ที่พักที่น่าสนใจ หรือแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิต พร้อมแผนที่และรายละเอียดการเดินทางที่ครบถ้วน เราจะช่วยให้คุณเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างมีความสุขและสนุกตลอดทั้งทริป

• ช่วยประสานงานช่วยเหลือ : ระหว่างการเดินทาง เราพร้อมเป็นเหมือนเพื่อนที่เดินทางเคียงข้างคุณ ด้วยบริการประสานงานช่วยเหลือทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องฉุกเฉิน ให้คุณท่องเที่ยวได้อย่างอุ่นใจและหายห่วง
• แนะนำการท่องเที่ยว : ค้นพบมุมมองใหม่ ๆ ของญี่ปุ่นที่ไม่เคยรู้มาก่อน ด้วยคำแนะนำข้อมูลและสถานที่ท่องเที่ยวแบบเจาะลึก ทั้งร้านลับๆ ที่คนท้องถิ่นแนะนำ หรือสถานที่สุดพิเศษที่เหมาะสำหรับคุณโดยเฉพาะ