ภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์แห่งประเทศญี่ปุ่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือน ด้วยความงดงามตระการตา และมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหล แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิยอดนิยมแล้ว ยังมี “พิกัดลับ Unseen” ใกล้สถานีรถไฟ Shin-Fuji ที่รอให้คุณไปสัมผัสอีกมากมาย !
บทความนี้จะพาคุณไปเปิดประสบการณ์ใหม่ กับจุดเช็คอินสุดพิเศษรอบภูเขาไฟฟูจิ ที่น้อยคนนักจะรู้จัก พร้อมข้อมูลการเดินทาง และเคล็ดลับการถ่ายภาพ ให้คุณเก็บภาพความประทับใจแบบไม่มีใครเหมือน

ทำไมต้องเป็นสถานี Shin-Fuji ?
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมต้องเป็นสถานี Shin-Fuji ? คำตอบคือ สถานี Shin-Fuji เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญ ที่สามารถเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวรอบ”ภูเขาไฟฟูจิ”ได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งยังเป็นสถานีรถไฟชินคันเซ็น ที่เดินทางจากโตเกียวมาถึงได้อย่างรวดเร็ว
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง
- ช่วงเวลาที่เหมาะสม

ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน)

ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์)
- การเดินทาง

รถไฟ : จากโตเกียว นั่งรถไฟชินคันเซ็นสาย Tokaido Shinkansen มาลงที่สถานี Shin-Fuji ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

รถบัส : มีรถบัส (Kosoku basu) วิ่งตรงจากโตเกียว (Shinjuku) มาถึงสถานี Shin-Fuji ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
- สิ่งที่ควรพกติดตัว

กล้องถ่ายรูป

เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ

ครีมกันแดด

หมวก

รองเท้าที่ใส่สบาย
8 พิกัดลับ “ภูเขาไฟฟูจิ” ใกล้สถานี Shin-Fuji
1. ทะเลสาบ Tanuki : (ประมาณ 30 นาทีจากสถานี Shin-Fuji โดยรถบัส)

- จุดเด่น : เป็นทะเลสาบที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน และมีวิวภูเขาไฟฟูจิสะท้อนบนผิวน้ำอันงดงาม โดยเฉพาะในช่วงเช้าตรู่
- กิจกรรม : ตั้งแคมป์, ตกปลา, พายเรือแคนู, ปั่นจักรยาน, เดินป่า
**เคล็ดลับ : ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถ่ายภาพ คือ ช่วงเช้าตรู่ (ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น) จะได้ภาพภูเขาไฟฟูจิสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยงามที่สุด
2. น้ำตก Shiraito : (ประมาณ 40 นาทีจากสถานี Shin-Fuji โดยรถบัส)

- จุดเด่น : เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ที่มีสายน้ำไหลลงมาจากผาหิน ราวกับม่านสีขาว ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ สร้างบรรยากาศที่สดชื่น และงดงาม
- กิจกรรม : เดินป่า, ชมธรรมชาติ, ถ่ายภาพ
**เคล็ดลับ : ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถ่ายภาพ คือ ช่วงเช้า แสงแดดจะส่องกระทบน้ำตก ทำให้เกิดประกายระยิบระยับสวยงาม
3. หมู่บ้าน Oshino Hakkai : (ประมาณ 1 ชั่วโมงจากสถานี Shin-Fuji โดยรถบัส)

- จุดเด่น : เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบ่อน้ำใสสะอาด 8 บ่อ เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟฟูจิ และมีทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง
- กิจกรรม : เดินเล่นชมหมู่บ้าน, ชิมอาหารพื้นเมือง, ซื้อของฝาก, ถ่ายภาพ
**เคล็ดลับ : ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถ่ายภาพ คือ ช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็น แสงแดดจะส่องกระทบผิวน้ำ ทำให้เกิดประกายระยิบระยับสวยงาม
4. เจดีย์ Chureito : (ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีจากสถานี Shin-Fuji โดยรถไฟ)

- จุดเด่น : เป็นเจดีย์ 5 ชั้น ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้แบบพาโนรามา โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง
- กิจกรรม : ชมวิว, ถ่ายภาพ, สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
**เคล็ดลับ : ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถ่ายภาพ คือ ช่วงเช้าตรู่ หรือ ช่วงเย็น จะได้ภาพแสงสวยๆ และหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
5. สวนสาธารณะ Fuji Five Lakes : (ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีจากสถานี Shin-Fuji โดยรถบัส)

- จุดเด่น : เป็นพื้นที่ธรรมชาติ ที่มีทะเลสาบ 5 แห่งล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ ได้แก่ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ, ทะเลสาบยามานากะโกะ, ทะเลสาบไซโกะ, ทะเลสาบโชจิโกะ และทะเลสาบโมโตสุโกะ แต่ละทะเลสาบมีเสน่ห์แตกต่างกันไป
- กิจกรรม : ล่องเรือ, ตกปลา, แช่ออนเซ็น, ปั่นจักรยาน, ตั้งแคมป์, เดินป่า, ชมวิว
**เคล็ดลับ : แต่ละทะเลสาบมีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามแตกต่างกันไป ควรศึกษาข้อมูลก่อนเดินทาง
6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Itchiku Kubota : (ประมาณ 30 นาทีจากสถานี Shin-Fuji โดยรถบัส)

- จุดเด่น : เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานศิลปะ ผ้ามัดย้อม (Tsujigahana) ของศิลปิน Itchiku Kubota ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิอันงดงาม
- กิจกรรม : ชมผลงานศิลปะ, เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และเทคนิคการมัดย้อม, ถ่ายภาพ
**เคล็ดลับ : พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวาย และดื่มด่ำกับศิลปะ และธรรมชาติ
7. วัด Taisekiji : (ประมาณ 40 นาทีจากสถานี Shin-Fuji โดยรถบัส)

- จุดเด่น : เป็นวัดพุทธศาสนานิกายนิชิเรนโชชู ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และสถาปัตยกรรมอันงดงาม ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และมีวิวภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง
- กิจกรรม : สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์, ชมสถาปัตยกรรม, เดินเล่นในสวน, ถ่ายภาพ
**เคล็ดลับ : ควรแต่งกายสุภาพ และปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัด
8. ไร่องุ่น Chateau Mercian : (ประมาณ 1 ชั่วโมงจากสถานี Shin-Fuji โดยรถบัส)

- จุดเด่น : เป็นไร่องุ่น และโรงบ่มไวน์ ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงาม
- กิจกรรม : ชิมไวน์, ทัวร์ชมไร่องุ่น และโรงบ่มไวน์, ซื้อของฝาก, ถ่ายภาพ
**เคล็ดลับ : ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม คือ ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – ตุลาคม) ซึ่งเป็นช่วงเก็บเกี่ยวองุ่น
เคล็ดลับ : การถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิ
- เลือกช่วงเวลา : ช่วงเช้าตรู่ หรือช่วงเย็น เป็นช่วงเวลาที่แสงสวย เหมาะแก่การถ่ายภาพ
- เลือกมุมมอง : ลองหามุมมองใหม่ๆ ในการถ่ายภาพ เช่น ถ่ายภาพสะท้อนบนผิวน้ำ หรือถ่ายภาพกับดอกไม้
- ใช้กฎสามส่วน : แบ่งภาพออกเป็น 3 ส่วน ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน แล้ววางจุดสนใจไว้ที่จุดตัด จะทำให้ภาพดูน่าสนใจยิ่งขึ้น
- ใส่ foreground : เพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพ โดยการใส่ foreground เช่น ต้นไม้ ดอกไม้ หรือคน
การเดินทางท่องเที่ยวรอบ “ภูเขาไฟฟูจิ” ไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิยอดนิยมเท่านั้น ลองเปิดใจ และออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ กับพิกัดลับ Unseen ใกล้สถานี Shin-Fuji รับรองว่า คุณจะได้พบกับมุมมองใหม่ๆ ของภูเขาไฟฟูจิ และเก็บเกี่ยวความประทับใจ มิรู้ลืม !
การเดินทางรอบภูเขาไฟฟูจิจากสถานี Shin-Fuji
เพื่อให้การเดินทางท่องเที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิจากสถานี Shin-Fuji ของคุณเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ลองศึกษาตัวช่วยเหล่านี้ดูนะคะ

การใช้บัตรโดยสาร(Japan Rail Pass)
Japan Rail Pass หรือ JR Pass คือ บัตรโดยสารรถไฟแบบเหมาจ่าย ที่ออกแบบมาเพื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ ช่วยให้คุณเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างคุ้มค่าและสะดวกสบาย ครอบคลุมการใช้งานรถไฟของ JR เกือบทุกประเภททั่วประเทศญี่ปุ่น รวมถึงรถไฟชินคันเซ็น (ยกเว้น Nozomi และ Mizuho) รถไฟด่วนพิเศษ รถไฟเร็ว รถไฟธรรมดา และรถบัส JR บางสาย
ขั้นตอนการใช้ JR Pass
1. ซื้อ JR Pass :
- คุณต้องซื้อ JR Pass ก่อนเดินทางมาถึงญี่ปุ่น ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต เช่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ JR Pass : japanrailpass.net
- ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ : Klook, HIS
- สำนักงานขายตั๋ว : JTB, HIS
- เลือกประเภท JR Pass ให้เหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ มีให้เลือก 3 แบบ คือ 7 วัน, 14 วัน และ 21 วัน
2. แลก Exchange Order :
- เมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่น ให้นำ Exchange Order (เอกสารที่ได้รับหลังจากซื้อ JR Pass) Passport และ แบบฟอร์ม ที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ไปแลกเป็นบัตร JR Pass ตัวจริง ที่สำนักงาน JR Pass Exchange Office ภายในสถานี JR หลักๆ ทั่วประเทศ
- คุณสามารถ ระบุวันเริ่มต้นใช้งาน ได้ ภายใน 1 เดือน นับจากวันที่แลก
3. ใช้ JR Pass เดินทาง :
- ผ่านช่องตรวจตั๋ว :
- แบบเก่า : แสดงบัตร JR Pass ให้เจ้าหน้าที่ ณ ช่องตรวจตั๋ว (Manual Gate)
- แบบใหม่ : สอดบัตร JR Pass เข้าไปในช่องเสียบบัตร ณ ประตูอัตโนมัติ (Automatic Gate) เหมือนบัตรโดยสารทั่วไป
- การจองที่นั่ง :
- JR Pass สามารถใช้ขึ้นรถไฟ แบบไม่จองที่นั่ง ได้ (Non-reserved Seat)
- หากต้องการ จองที่นั่ง (Reserved Seat) สามารถจองได้ฟรี ที่ JR Ticket Office หรือ เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ
- แสดง JR Pass เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ :
- อาจมีเจ้าหน้าที่ มาขอตรวจสอบ JR Pass บนรถไฟ ให้แสดงบัตร พร้อม Passport
**ข้อควรรู้เพิ่มเติม JR Pass ไม่สามารถใช้กับรถไฟ Nozomi และ Mizuho บน Tokaido Shinkansen ได้ JR Pass ไม่สามารถใช้กับรถไฟของบริษัทเอกชนอื่นๆ ได้ JR Pass ครอบคลุมเฉพาะ ที่นั่งธรรมดา (Ordinary Class) และเก็บรักษา JR Pass ไว้ให้ดี หากสูญหายจะไม่สามารถออกบัตรใหม่ให้ได้
บัตรโดยสารประเภทอื่น ๆ

IC Card : เช่น Suica หรือ Pasmo บัตรเติมเงิน ที่ใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟ รถบัส และร้านค้าต่างๆ ได้อย่างสะดวก

Regional Pass : บัตรโดยสาร ที่ใช้เดินทางในภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง เช่น Fuji Hakone Pass

GuruNavi : แอปพลิเคชัน ที่ช่วยค้นหาร้านอาหาร พร้อมรีวิว และข้อมูลต่างๆ
แอปพลิเคชัน

Hyperdia : แอปพลิเคชัน ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตารางรถไฟ เส้นทาง และค่าโดยสาร

Google Maps : แอปพลิเคชัน ที่ช่วยนำทาง และค้นหาสถานที่ต่าง ๆ

Japan Travel : แอปพลิเคชัน ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่พัก
อิ่มอร่อยใกล้ภูเขาไฟฟูจิ : พิกัดร้านอาหารแนะนำใกล้สถานี Shin-Fuji
เติมพลังให้เต็มที่ก่อนออกเดินทางไปสัมผัสความงามของภูเขาไฟฟูจิ กับร้านอาหารหลากหลายสไตล์ใกล้สถานี Shin-Fuji ที่เราคัดสรรมาให้ !

- Fujinomiya Yakisoba (富士宮やきそば): ลิ้มลอง “ยากิโซบะ” สไตล์ฟูจิโนมิยะ เส้นเหนียวนุ่ม ผัดกับเนื้อหมู กะหล่ำปลี และซอสสูตรพิเศษ รสชาติกลมกล่อม เป็นเมนูขึ้นชื่อของเมืองฟูจิโนมิยะ

- Yoshida Udon (吉田うどん): อิ่มอร่อยกับ “อุด้ง” เส้นหนานุ่ม เหนียว เคี้ยวเพลิน น้ำซุปเข้มข้น รสชาติ đậm đà เสิร์ฟพร้อม “มิโซะ” และผักต่างๆ เป็นอาหารท้องถิ่นของเมืองฟูจิโยชิดะ

- Fujiyama Curry (富士山カレー) : ข้าวแกงกะหรี่ ที่เสิร์ฟมาในรูปแบบภูเขาไฟฟูจิ

- Wagyu Beef (和牛): เนื้อวากิว คุณภาพเยี่ยม เนื้อนุ่ม ละลายในปาก

- Hoto Noodles (ほうとう): ซดน้ำซุปร้อนๆ กับ “โฮโตะ” เส้นอุด้งแบน เหนียวนุ่ม ต้มกับ มิโซะ ผัก และเห็ด หลากหลายชนิด ให้รสชาติ หวาน เค็ม กลมกล่อม เป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดยามานาชิ

- Sashimi (刺身): สดอร่อยกับ “ซาชิมิ” ปลาดิบ หลากหลายชนิด คัดสรร วัตถุดิบสดใหม่ ส่งตรงจากทะเล

- Tempura (天ぷら): เพลิดเพลินกับ “เทมปุระ” อาหารทอดกรอบนอกนุ่มใน ชุบแป้งบางๆ ทอดในน้ำมันร้อนๆ

- Sakura Shrimp (桜えび): กุ้งซากุระ ตัวเล็ก ๆ สีชมพู รสชาติหวาน อร่อย
เคล็ดลับ
- ลองมองหาร้านอาหาร ที่ “Tabelog” เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน รีวิวร้านอาหาร ยอดนิยม ของญี่ปุ่น
- ร้านอาหาร ส่วนใหญ่ ปิดวันจันทร์
- ช่วงเที่ยง และ ช่วงเย็น คนจะเยอะ ควร จองโต๊ะล่วงหน้า หรือ ไปก่อนเวลา
อิ่มอร่อยกับมื้ออาหารแสนพิเศษ ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ กันนะ ! สัมผัสความงามภูเขาไฟฟูจิในมุมมองใหม่! พบกับพิกัดลับ Unseen ใกล้สถานี Shin-Fuji ที่น้อยคนนักจะรู้จัก เดินทางสะดวกจากโตเกียวด้วยชินคันเซ็น เพียง 1 ชั่วโมง
บทความที่น่าสนใจ
- เรื่องควรรู้ ก่อนเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่น ด้วยตนเอง
- ทำความรู้จักกับภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น ก่อนไปเที่ยวกันดีกว่า
- เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ฉบับมือใหม่ ไม่ง้อทัวร์ ! 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ใครก็ไปได้
บริการรับทำแพลนเที่ยว วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น หรือให้ลูกค้ามาเลือกแพลนเที่ยวได้เอง
สามารถเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองได้แบบง่าย ๆ

ทั้งเรื่องกิน เรื่องเที่ยว ที่พัก ที่ช้อป พร้อมรายละเอียดการเดินทาง
ไม่พลาดกับทุกสถานที่ยอดฮิต เพราะเรารวมมาให้แล้ว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- Japan Guide : เว็บไซต์ ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ในประเทศญี่ปุ่น อย่างละเอียด
- JNTO : เว็บไซต์ ขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น
- Jorudan : เว็บไซต์ ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตารางรถไฟ และเส้นทาง
- Japan Rail Pass : เว็บไซต์ อย่างเป็นทางการ ของ Japan Rail Pass