ในปัจจุบันการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และในปี 2025 นี้ เทรนด์การเดินทางก็ยิ่งเติบโต และเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งในสิ่งที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเดินทางปัจจุบัน และกลายเป็นไอเทม Must-Have สำหรับนักท่องเที่ยวแทบทุกคน ก็คือ “บัตร Travel Card” นั่นเอง
บัตร Travel Card คืออะไร ?

สำหรับใครที่ยังสงสัยว่า “บัตร Travel Card” ที่ว่านี้คืออะไรกันแน่? อธิบายง่าย ๆ เลยก็คือ บัตร Travel Card เป็นเหมือน “กระเป๋าเงินดิจิทัลพกพา” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้จ่ายในต่างประเทศโดยเฉพาะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นบัตร Prepaid หรือบัตรเติมเงิน ที่เราสามารถเติมเงินบาทเข้าไปในบัตร จากนั้นก็สามารถนำบัตรไปใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศได้ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการรูดซื้อสินค้าและบริการ หรือกดเงินสดจากตู้ ATM ในต่างประเทศ บางบัตรก็มาในรูปแบบ Debit Card หรือ Credit Card ที่มีฟังก์ชัน Travel Card เพิ่มเข้ามา ทำให้มีความหลากหลายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ทำไมบัตร Travel Card ถึงได้รับความนิยม ?
ทำไมบัตร Travel Card ถึงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในยุคปัจจุบัน ? เหตุผลง่าย ๆ ก็เพราะว่าบัตร Travel Card นั้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักเดินทางได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น
- ความสะดวกสบาย ที่ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากให้วุ่นวายใจ หรือเสี่ยงต่อการสูญหาย
- เรทแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับการแลกเงินสดทั่วไป ทำให้เราใช้จ่ายได้อย่างสบายกระเป๋ามากขึ้น
- ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น เพราะหากบัตรหายก็สามารถอายัดและจัดการได้ง่ายกว่าเงินสด และที่สำคัญคือ
- สิทธิประโยชน์สุดคุ้มค่า ที่มาพร้อมกับบัตร ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม ประกันการเดินทาง หรือแม้แต่การเข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษในสนามบิน (Airport Lounge)
ในปี 2025 นี้ การมีบัตร Travel Card ติดตัวสักใบจึงไม่ใช่แค่เรื่อง “มีก็ดี” แต่กลายเป็น “สิ่งที่ควรมี” สำหรับนักเดินทางยุคใหม่ไปแล้ว เพราะนอกจากประโยชน์พื้นฐานที่กล่าวมาข้างต้น บัตร Travel Card ยังช่วยให้เราวางแผนค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ง่ายขึ้น ควบคุมงบประมาณได้ดีกว่า และจัดการเรื่องการเงินในต่างประเทศได้อย่างคล่องตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องเรทผันผวน หรือค่าธรรมเนียมแฝงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการแลกเงินสด หรือการใช้บัตรเครดิต/เดบิตทั่วไปในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในตลาดบัตร Travel Card ปี 2025 ก็มีตัวเลือกมากมายหลากหลาย แต่ละบัตรก็มีจุดเด่น จุดด้อย และสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การเลือกบัตร Travel Card ให้ “ใช่” และ “คุ้มค่า” ตรงกับสไตล์การเดินทางของแต่ละคนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ว่าบัตรที่ “ดีที่สุด” สำหรับคนอื่น จะเป็นบัตรที่ “ดีที่สุด” สำหรับเราเสมอไปนะ
บทความนี้จึงถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อเป็นคู่มือฉบับสมบูรณ์ ที่จะพาไปเปรียบเทียบ และวิเคราะห์ 7 บัตร Travel Card ปี 2025 ที่โดดเด่นและน่าสนใจที่สุดในตลาด เราจะมาดูกันแบบ “เทียบชัด” ทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ เรทแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียม สิทธิประโยชน์ จุดเด่น จุดด้อย และความเหมาะสมกับนักเดินทางแต่ละสไตล์ เพื่อให้ทุกท่านสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประกอบการตัดสินใจ เลือกบัตร Travel Card ที่ “คุ้มค่าที่สุด” และ “ตรงใจที่สุด” สำหรับการเดินทางในปี 2025 และทริปต่อ ๆ ไปของคุณ
เปรียบเทียบ 7 บัตร Travel Card ปี 2025
ทำไมต้องเป็น 7 บัตรนี้? ที่เราคัดเลือก 7 บัตร Travel Card นี้มานำเสนอในวันนี้ ก็เพราะว่าเป็นบัตรที่ได้รับความนิยมสูง ในกลุ่มนักเดินทางจริง ครอบคลุมหลากหลายธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำ ของประเทศไทย และที่สำคัญคือ แต่ละบัตรมีฟีเจอร์และสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจและแตกต่างกัน ทำให้การนำมาเปรียบเทียบกัน จะช่วยให้เห็นภาพรวมของตลาดบัตร Travel Card ปี 2025 ได้อย่างชัดเจน และครอบคลุมมากที่สุด
1. YouTrip – ธนาคารกสิกรไทย
YouTrip นะครับ ถ้าพูดถึง บัตร Travel Card ในประเทศไทย เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงชื่อนี้เป็นชื่อแรกๆ แน่นอน เพราะ YouTrip เค้ามาแรงจริงๆ ครับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ YouTrip ที่ทำให้ครองใจนักเดินทางมากมาย ก็คือความเป็น “บัตรเดบิต Multi-Currency” ที่ใช้งานง่าย สะดวก และให้เรทแลกเปลี่ยนที่ดี เหมือนมี “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ติดตัวไปทุกที่ทั่วโลก

- ชื่อบัตร : YouTrip
- ผู้ออกบัตร/สถาบันการเงิน : ธนาคารกสิกรไทย (แต่เดิม YouTrip เป็นบริษัท Fintech Partner กับธนาคารกสิกรไทย ปัจจุบันอยู่ภายใต้กลุ่มธนาคารกสิกรไทยแล้ว)
- สกุลเงินที่รองรับ : ครอบคลุมสกุลเงินต่างประเทศยอดนิยมถึง 10 สกุลเงินหลัก ได้แก่ USD , EUR ,GBP, JPY, AUD, HKD, SGD, CAD, CHF, NZD, และที่สำคัญคือรองรับสกุลเงินบาท (THB) ทำให้เราสามารถบริหารจัดการเงินได้หลากหลายสกุลในบัตรเดียว
- ค่าธรรมเนียม : เรื่องค่าธรรมเนียมของ YouTrip ก็ถือว่า “ใจป้ำ” เลยทีเดียวครับ เพราะ ส่วนใหญ่ “ฟรี”
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : ฟรี! สมัครบัตรและเปิดใช้งาน ไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ค่าธรรมเนียมรายปี : ฟรี! ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีให้กวนใจ
- ค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion : ฟรี! เมื่อใช้จ่ายด้วยสกุลเงินต่างประเทศที่อยู่ใน Wallet ไม่มีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินเพิ่มเติม
- ค่าธรรมเนียมกดเงินสด ATM ต่างประเทศ : มีค่าธรรมเนียม แต่ก็ถือว่า “ไม่แพง” เมื่อเทียบกับบัตร Travel Card บางประเภท โดยจะคิดค่าธรรมเนียมประมาณ 2.5% ของยอดเงินที่กด และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากตู้ ATM ของธนาคารท้องถิ่นในต่างประเทศ (แนะนำให้กดเงินสดเท่าที่จำเป็นจริง ๆ จะคุ้มค่ากว่า)
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ : โดยทั่วไป YouTrip จะ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงอื่น ๆ ที่น่ากังวลใจ
- สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น : นอกจากเรื่องเรทดี ฟรีค่าธรรมเนียมแล้ว YouTrip ยังมี สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น ที่น่าสนใจอีกเพียบ
- ฟังก์ชัน Multi-Currency Wallet : บริหารจัดการเงินได้ 10 สกุลเงินหลักในบัตรเดียว “แลกเงินเก็บไว้ตอนเรทดี” ได้ หมดกังวลเรื่องเรทผันผวน
- ฟังก์ชันล็อคเรทเงิน : เมื่อแลกเงินเข้า Wallet แล้ว “เรทจะถูกล็อคไว้” ไม่ว่าค่าเงินจะขึ้นหรือลง ก็ใช้จ่ายในเรทเดิมที่เราแลกไว้ได้
- ใช้งานง่ายผ่านแอปพลิเคชัน : จัดการทุกอย่างผ่านแอป YouTrip ได้หมด ทั้ง เติมเงิน แลกเงิน โอนเงิน เช็คยอด ดูประวัติการใช้จ่าย แอปใช้งานง่าย UI/UX เป็นมิตร
- โปรโมชั่นและพาร์ทเนอร์ : YouTrip มักจะมี โปรโมชั่นร่วมกับร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม หรือบริการต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ให้เราได้ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติมอยู่เสมอ (ต้องคอยติดตามข่าวสารโปรโมชั่นจาก YouTrip เรื่อย ๆ)
- ความปลอดภัย : บัตร YouTrip เป็นบัตร Mastercard SecureCode ปลอดภัยในการใช้จ่ายออนไลน์ และสามารถ อายัดบัตรได้ทันทีผ่านแอป หากบัตรหายหรือถูกขโมย
ข้อสังเกต/ข้อควรระวัง :
- ค่าธรรมเนียมกดเงินสด ATM ต่างประเทศ : ถึงแม้จะไม่แพงมาก แต่ก็ยังมีค่าธรรมเนียม แนะนำให้หลีกเลี่ยงการกดเงินสดบ่อยๆ
- สกุลเงินที่รองรับอาจยังไม่ครอบคลุมทุกสกุลเงินทั่วโลก : ถึงแม้จะรองรับ 10 สกุลเงินหลัก แต่ก็อาจจะไม่ครอบคลุมบางสกุลเงินย่อย หรือสกุลเงินท้องถิ่นในบางประเทศ (หากเดินทางไปยังประเทศที่ใช้สกุลเงินนอกเหนือจาก 10 สกุลเงินนี้ อาจจะต้องแลกเงินบาทเป็นสกุลเงิน USD หรือ EUR เก็บไว้ใน Wallet แล้วค่อยไปแลกเป็นสกุลเงินท้องถิ่นอีกที หรือใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต/เดบิตอื่นๆ เพิ่มเติม)
- ต้องเติมเงินบาทเข้าไปในบัตรก่อนใช้งาน : YouTrip เป็นบัตร Prepaid ต้องเติมเงินบาทเข้าไปในบัตรก่อน ถึงจะนำไปใช้จ่ายได้ อาจจะไม่สะดวกเท่าบัตรเครดิตสำหรับบางคน
โดยรวมแล้ว บัตร YouTrip เหมาะสำหรับนักเดินทางมือใหม่ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้ Travel Card นักเดินทางที่เน้นความคุ้มค่าและประหยัด เรทดี ฟรีค่าธรรมเนียม ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการแลกเงินได้เยอะ นักเดินทางที่เดินทางไปยังประเทศที่ใช้ 10 สกุลเงินหลักที่รองรับ ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในประเทศยอดนิยม คนที่ชอบความสะดวกสบายในการจัดการเงินผ่านแอป ทุกอย่างจบในแอปเดียว ใช้งานง่าย คล่องตัว
YouTrip เป็น บัตร Travel Card ยอดนิยม ที่มาพร้อมกับ จุดเด่นเรื่องเรทแลกเปลี่ยนที่ดี ฟรีค่าธรรมเนียม และใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการ ความคุ้มค่า สะดวกสบาย และคล่องตัว ในการใช้จ่ายเงินในต่างประเทศ ถ้าคุณกำลังมองหาบัตร Travel Card ใบแรก หรืออยากได้บัตรที่เน้นเรื่องเรทดี YouTrip ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดเลย!
2. Planet SCB – ธนาคารไทยพาณิชย์
Planet SCB เป็นบัตร Prepaid Travel Card จากธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักเดินทางที่ต้องการ ความสะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่า ในการใช้จ่ายเงินในต่างประเทศ จุดเด่นที่สำคัญของ Planet SCB นอกจากจะเป็นบัตร Prepaid ที่ใช้งานง่ายแล้ว ยังมาพร้อมกับ สิทธิประโยชน์ในการสะสม SCB Point ซึ่งเป็นคะแนนสะสมยอดนิยมของธนาคารไทยพาณิชย์ ทำให้บัตรนี้น่าสนใจสำหรับลูกค้า SCB เป็นพิเศษ

- ชื่อบัตร : Planet SCB
- ผู้ออกบัตร/สถาบันการเงิน : ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
- สกุลเงินที่รองรับ : Planet SCB รองรับสกุลเงินต่างประเทศหลากหลายถึง 15 สกุลเงิน ซึ่งมากกว่า YouTrip เล็กน้อย ทำให้ครอบคลุมการเดินทางไปยังหลากหลายประเทศมากยิ่งขึ้น ได้แก่ USD, EUR, GBP, JPY, AUD, HKD, SGD, CAD, CHF, NZD, CNY, KRW, SEK, DKK และแน่นอนว่า รองรับสกุลเงินบาท (THB) เช่นเดียวกับ YouTrip
- ค่าธรรมเนียม : โครงสร้างค่าธรรมเนียม ของ Planet SCB ก็มีความน่าสนใจ และมีบางส่วนที่แตกต่างจาก YouTrip
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : มีค่าใช้จ่าย
- ค่าธรรมเนียมรายปี : ฟรี! ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีเช่นกัน
- ค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion : ฟรี! เมื่อใช้จ่ายด้วยสกุลเงินต่างประเทศที่อยู่ใน Wallet ไม่เสียค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินเพิ่มเติม (เหมือน YouTrip)
- ค่าธรรมเนียมกดเงินสด ATM ต่างประเทศ : มีค่าธรรมเนียม และอาจจะ สูงกว่า YouTrip เล็กน้อย โดยจะคิดค่าธรรมเนียมประมาณ 3.5% ของยอดเงินที่กด และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากตู้ ATM ของธนาคารท้องถิ่น (แนะนำให้วางแผนการใช้จ่าย และหลีกเลี่ยงการกดเงินสดบ่อยๆ เช่นกัน)
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ : โดยรวม Planet SCB ก็ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงอื่น ๆ ที่น่ากังวลใจ
- สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น : จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างของ Planet SCB นอกเหนือจากเรื่องสกุลเงินที่รองรับหลากหลาย ก็คือสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น ที่น่าสนใจเหล่านี้
- สะสม SCB Point : ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร Planet SCB ในต่างประเทศ รับคะแนน SCB Point ซึ่งเป็นคะแนนสะสมยอดนิยมของ SCB สามารถนำไปแลกของรางวัล ส่วนลด หรือเครดิตเงินคืนได้หลากหลาย (อัตราการสะสมคะแนนอาจแตกต่างกันไปตามโปรโมชั่นในช่วงนั้น ๆ )
- ประกันภัยการเดินทาง : Planet SCB มักจะมีประกันภัยการเดินทาง แถมมาให้ด้วย (รายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขอาจแตกต่างกันไป) ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง
- โปรโมชั่นและส่วนลดจาก SCB : ลูกค้า Planet SCB มักจะได้รับสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นต่าง ๆ จาก SCB เช่น ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม หรือบริการอื่นๆ ที่ร่วมรายการ
- ใช้งานง่ายผ่านแอป SCB EASY : จัดการบัตร Planet SCB ได้ง่ายๆ ผ่านแอป SCB EASY ที่คุ้นเคย ทั้ง เติมเงิน แลกเงิน เช็คยอด โปรโมชั่น สำหรับลูกค้า SCB เดิม จะยิ่งสะดวกและคุ้นเคย
- ความปลอดภัย : Planet SCB เป็นบัตร Prepaid ที่มีความปลอดภัย สามารถ อายัดบัตรได้ง่าย ๆ ผ่านแอป SCB EASY หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ข้อสังเกต/ข้อควรระวัง :
- เรทแลกเปลี่ยนอาจไม่ดีเท่า YouTrip (เรท SuperRich) : แต่ก็ยังถือว่าดีกว่าแลกเงินสดทั่วไป
- ค่าธรรมเนียมกดเงินสด ATM ต่างประเทศ : สูงกว่า YouTrip เล็กน้อย ควรหลีกเลี่ยงการกดเงินสดบ่อยๆ
- เน้นสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้า SCB : สิทธิประโยชน์ส่วนใหญ่จะผูกกับความเป็นลูกค้า SCB หากไม่ใช่ลูกค้า SCB อาจจะไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่เท่าที่ควร
โดยรวมแล้ว Planet SCB เหมาะสำหรับลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากสิทธิประโยชน์ SCB Point และความสะดวกในการใช้งานผ่านแอป SCB EASY นักเดินทางที่เดินทางไปยังประเทศหลากหลายสกุลเงิน รองรับถึง 15 สกุลเงิน ทำให้ครอบคลุมการเดินทางได้กว้างขวางยิ่งขึ้น คนที่ต้องการสะสมคะแนน SCB Point หากเป็นนักสะสมแต้ม SCB Point บัตรนี้ถือว่าตอบโจทย์ คนที่ชอบความสะดวกและคุ้นเคยกับแอป SCB EASY ใช้งานง่าย ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปใหม่
Planet SCB เป็น บัตร Prepaid Travel Card ที่น่าสนใจอีกใบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ ลูกค้า SCB ที่ต้องการ ความสะดวกในการใช้งาน ควบคู่ไปกับการสะสมคะแนน SCB Point ถึงแม้เรทแลกเปลี่ยนอาจจะไม่ดีที่สุด แต่ก็ยังถือว่าคุ้มค่า และครอบคลุมการใช้งานในต่างประเทศได้หลากหลายสกุลเงิน
3. Krungthai Travel Visa Platinum Card – ธนาคารกรุงไทย
Krungthai Travel Visa Platinum Card เป็นบัตร เครดิต จากธนาคารกรุงไทย ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักเดินทางที่ต้องการ ความสะดวกในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง จุดเด่นของบัตรนี้คือการเป็น บัตรเครดิต Visa Platinum ซึ่งมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์และบริการระดับสากลมากมาย ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้เหนือกว่าบัตร Travel Card ทั่วไป

- ชื่อบัตร : Krungthai Travel Visa Platinum Card
- ผู้ออกบัตร/สถาบันการเงิน : ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Bank – KTB)
- สกุลเงินที่รองรับ : ถึงแม้ Krungthai Travel Visa Platinum Card จะไม่ได้มีฟังก์ชัน Multi-Currency Wallet เหมือนบัตร Prepaid แต่ก็รองรับการใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศได้ 19 สกุลเงิน ในฐานะบัตรเครดิต Visa โดยจะแปลงสกุลเงินจากยอดใช้จ่ายต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท เพื่อเรียกเก็บในภายหลัง
- ค่าธรรมเนียม : เนื่องจากเป็นบัตรเครดิต ค่าธรรมเนียมของ Krungthai Travel Visa Platinum Card จะแตกต่างจากบัตร Prepaid พอสมควรค
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : ไม่มี สำหรับการสมัครบัตรใหม่
- ค่าธรรมเนียมรายปี : มีค่าธรรมเนียมรายปี โดยจะเรียกเก็บรายปี (อัตราค่าธรรมเนียมแตกต่างกันไปตามประเภทบัตรหลัก/เสริม และอาจมีโปรโมชั่นยกเว้นค่าธรรมเนียมในบางปี หรือเมื่อมียอดใช้จ่ายตามเงื่อนไข) แนะนำให้ตรวจสอบอัตราค่าธรรมเนียมและโปรโมชั่นล่าสุดกับธนาคารกรุงไทย
- ค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion : โดยทั่วไป บัตรเครดิต Visa/Mastercard จะคิดค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion ประมาณ 2-2.5% เมื่อมีการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ แนะนำให้ตรวจสอบอัตราค่าธรรมเนียมที่แน่นอนกับธนาคารกรุงไทยอีกครั้ง
- ค่าธรรมเนียมกดเงินสด ATM ต่างประเทศ : มีค่าธรรมเนียม และค่อนข้างสูง โดยปกติบัตรเครดิตจะไม่แนะนำให้กดเงินสดจากตู้ ATM ต่างประเทศ เพราะจะมีค่าธรรมเนียมกดเงินสด, ค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion และอาจมีดอกเบี้ยเกิดขึ้นทันทีที่กดเงินสด ไม่แนะนำให้กดเงินสดจากบัตรเครดิต Krungthai Travel Visa Platinum Card ในต่างประเทศ ยกเว้นกรณีฉุกเฉินจริง ๆ
- สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น : จุดเด่นที่สำคัญของ Krungthai Travel Visa Platinum Card คือ สิทธิประโยชน์และบริการระดับ Visa Platinum ที่มอบความคุ้มค่าและประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ
- ประกันภัยการเดินทาง : ฟรี! ประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ เมื่อชำระค่าโดยสารยานพาหนะสาธารณะด้วยบัตร (รายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) ช่วยเพิ่มความอุ่นใจตลอดทริป
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์และการเดินทาง : บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วโลกจาก Visa ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นบริการให้คำแนะนำทางการแพทย์ บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือบริการช่วยเหลือด้านการเดินทางอื่น ๆ
- Visa Airport Speed Pass : บริการช่องทางพิเศษ ณ สนามบิน ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการผ่านขั้นตอนต่างๆ ในสนามบิน (อาจมีจำนวนครั้งที่จำกัดต่อปี และเงื่อนไขการใช้บริการ)
- ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม และแหล่งช้อปปิ้ง : สิทธิพิเศษและส่วนลดจากร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ ที่ร่วมรายการ Visa Platinum ทั้งในและต่างประเทศ (ตรวจสอบรายละเอียดโปรโมชั่นและร้านค้าที่ร่วมรายการได้จากเว็บไซต์ Visa หรือแอปพลิเคชัน KTC Mobile)
- โปรแกรมผ่อนชำระ : สามารถแบ่งจ่ายยอดใช้จ่าย ในต่างประเทศเป็นรายเดือนได้ (เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) ช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้คล่องตัวยิ่งขึ้น
- สะสมคะแนน KTC FOREVER : ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ รับคะแนน KTC FOREVER สามารถนำไปแลกของรางวัล ส่วนลด หรือแลกเป็นเครดิตเงินคืนได้หลากหลาย
ข้อสังเกต/ข้อควรระวัง :
- มีค่าธรรมเนียมรายปี : อาจต้องพิจารณาความคุ้มค่าของสิทธิประโยชน์กับค่าธรรมเนียมรายปี
- ค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion : มีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน (ประมาณ 2-2.5%)
- ไม่แนะนำให้กดเงินสด ATM ต่างประเทศ : ค่าธรรมเนียมสูง และไม่คุ้มค่า
- เรทแลกเปลี่ยนอาจไม่ดีที่สุด : อิงตามเรท Visa ซึ่งเป็นเรทมาตรฐาน แต่ไม่ใช่เรทที่ดีที่สุดในตลาด (เช่น เรท SuperRich)
- ต้องมีวินัยในการใช้จ่ายบัตรเครดิต : เพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
โดยรวมแล้ว Krungthai Travel Visa Platinum Card เหมาะสำหรับ นักเดินทางที่นิยมใช้บัตรเครดิต ต้องการความสะดวกในการใช้จ่าย และความคล่องตัวในการบริหารจัดการเงิน นักเดินทางที่มองหาสิทธิประโยชน์และบริการระดับพรีเมียม ต้องการยกระดับประสบการณ์การเดินทางด้วยสิทธิประโยชน์ Visa Platinum นักเดินทางที่เดินทางบ่อย และต้องการความคุ้มครองเรื่องประกันภัย ประกันภัยการเดินทางฟรี ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทางแต่ละทริป คนที่ต้องการสะสมคะแนน KTC FOREVER หากเป็นนักสะสมแต้ม KTC อยู่แล้ว บัตรนี้จะช่วยให้สะสมแต้มได้ง่ายขึ้น
Krungthai Travel Visa Platinum Card เป็นบัตรเครดิต Travel Card ที่โดดเด่นด้วยสิทธิประโยชน์และบริการระดับ Visa Platinum เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการ ความสะดวกสบายในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า และประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ หากคุณเป็นคนที่เดินทางบ่อย มองหาบัตรเครดิตสำหรับเดินทางโดยเฉพาะ และต้องการสิทธิประโยชน์พรีเมียม บัตรนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
4.TTB All Free – ธนาคารทหารไทยธนชาต
TTB All Free เป็นบัตร เดบิต จากธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) ที่ชูจุดเด่นเรื่อง “ความฟรี” เป็นหลัก บัตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจนักเดินทางที่ใส่ใจเรื่องค่าธรรมเนียม และต้องการ บัตรเดบิตที่ใช้งานง่าย พกพาสะดวก โดยเน้นความคุ้มค่าในเรื่องค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่มักจะเกิดขึ้นจากการใช้จ่ายในต่างประเทศ

- ชื่อบัตร : TTB All Free
- ผู้ออกบัตร/สถาบันการเงิน : ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb)
- สกุลเงินที่รองรับ : TTB All Free รองรับการใช้จ่ายในทุกสกุลเงินทั่วโลก ที่ร้านค้าและตู้ ATM ที่รับ Mastercard ครับ ถึงแม้จะไม่ได้มีฟังก์ชัน Multi-Currency Wallet เหมือนบัตร Prepaid บางใบ แต่ก็สามารถใช้จ่ายได้หลากหลายประเทศทั่วโลกอย่างแน่นอน
- ค่าธรรมเนียม : และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ของ TTB All Free กับเรื่อง “ค่าธรรมเนียม” ที่สมชื่อ “All Free” จริง ๆ บัตรนี้ ฟรีค่าธรรมเนียมหลัก ๆ ที่นักเดินทางกังวลใจ (เป็นไปตามเงื่อนไข) ดังนี้
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : มีค่าใช้จ่าย (เป็นไปตามเงื่อนไข)
- ค่าธรรมเนียมรายปี : มีค่าธรรมเนียมรายปีให้ต้องจ่าย (เป็นไปตามเงื่อนไข)
- ค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion (2.5%) : ฟรี! ปกติบัตรเดบิต/เครดิตทั่วไป จะมีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินประมาณ 2.5% เมื่อใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ แต่ TTB All Free ยกเว้นค่าธรรมเนียมส่วนนี้ให้! ทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีก
- ค่าธรรมเนียมกดเงินสด ATM ต่างประเทศ : ฟรี! (มีเงื่อนไข) TTB All Free ฟรีค่าธรรมเนียมกดเงินสด ATM ต่างประเทศ สูงสุด 10 ครั้งต่อปี (รวมทุกสกุลเงิน) หลังจากนั้น จะมีค่าธรรมเนียมครั้งละ 100 บาท ซึ่ง 10 ครั้งต่อปี ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับนักเดินทางทั่วไปแล้วครับ (และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากตู้ ATM ของธนาคารท้องถิ่น)
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ : โดยรวม TTB All Free เน้นความฟรีค่าธรรมเนียม และไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงอื่นๆ ที่น่ากังวลใจ
- สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น : นอกจากเรื่องความฟรีค่าธรรมเนียมแล้ว TTB All Free ก็ยังมีสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น ที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกด้วย
- ฟรีประกันอุบัติเหตุ : ฟรี! ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล เมื่อคงเงินฝากในบัญชีตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง และชีวิตประจำวัน
- โปรโมชั่นและส่วนลดจาก ttb : ลูกค้า TTB All Free อาจได้รับ สิทธิพิเศษและโปรโมชั่นต่าง ๆ จาก ttb เช่น ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม หรือบริการอื่นๆ ที่ร่วมรายการ (ต้องคอยติดตามโปรโมชั่นจาก ttb)
- ใช้งานง่ายเหมือนบัตรเดบิตทั่วไป : TTB All Free เป็นบัตรเดบิต ที่ใช้งานง่ายเหมือนบัตรเดบิตที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องกังวลเรื่องวงเงิน หรือหนี้สิน ใช้เท่าที่มีเงินในบัญชี
- ควบคุมค่าใช้จ่ายง่าย : เนื่องจากเป็นบัตรเดบิต การใช้จ่ายจะถูกตัดจากบัญชีเงินฝากโดยตรง ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่าย และไม่เป็นหนี้บัตรเครดิต
ข้อสังเกต/ข้อควรระวัง :
- เรทแลกเปลี่ยนอาจไม่ดีที่สุด : อิงตามเรท Mastercard ซึ่งเป็นเรทมาตรฐาน แต่ไม่ใช่เรทที่ดีที่สุด (เช่น เรท SuperRich)
- สิทธิประโยชน์อื่น ๆ อาจไม่เด่นเท่าบัตร Travel Card ประเภทอื่น : TTB All Free เน้นเรื่อง “ฟรีค่าธรรมเนียม” เป็นหลัก สิทธิประโยชน์อื่นๆ อาจจะไม่หลากหลาย หรือหวือหวาเท่าบัตร Travel Card ประเภท Prepaid หรือ Credit
- ต้องมีเงินในบัญชีเพื่อใช้งาน : เป็นบัตรเดบิต ต้องมีเงินในบัญชี ttb เพื่อใช้งาน หากเงินในบัญชีไม่พอ จะไม่สามารถใช้จ่ายได้
โดยรวมแล้ว TTB All Free เหมาะสำหรับนักเดินทางที่เน้นประหยัดค่าธรรมเนียมเป็นหลัก บัตรนี้ตอบโจทย์คนที่ไม่ต้องการเสียค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการใช้จ่ายต่างประเทศ นักเดินทางที่ใช้บัตรเดบิตเป็นหลัก คุ้นเคยและชอบการใช้บัตรเดบิตมากกว่าบัตรเครดิต หรือบัตร Prepaid นักเดินทางที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการจัดการหลายสกุลเงิน ใช้งานง่าย สะดวก รูดจ่ายได้ทุกสกุลเงิน นักเดินทางที่ต้องการความคุ้มครองเรื่องประกันอุบัติเหตุ ฟรีประกันอุบัติเหตุ ถือเป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่น่าสนใจ
TTB All Free เป็น บัตรเดบิต Travel Card ที่โดดเด่นเรื่อง “ความฟรีค่าธรรมเนียม” เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการประหยัดค่าใช้จ่าย ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และต้องการ บัตรเดบิตที่พกพาสะดวก หากคุณเป็นนักเดินทางสายประหยัด หรือต้องการบัตรเดบิตสำหรับใช้จ่ายในต่างประเทศ TTB All Free เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่ามาก ๆ
5. Journey Card – ธนาคารกสิกรไทย
Journey Card จากธนาคารกสิกรไทย เป็นบัตร เครดิต ที่เน้นตอบโจทย์นักเดินทางและผู้ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตแบบมีสไตล์ จุดเด่นของบัตรนี้อยู่ที่การเป็น บัตรเครดิตสะสมคะแนน K Point ที่ให้คะแนนเร็วและคุ้มค่า สามารถนำคะแนนไปแลกของรางวัล ส่วนลด หรือเครดิตเงินคืนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้จ่ายทั้งในและต่างประเทศ

- ชื่อบัตร : Journey Card
- ผู้ออกบัตร/สถาบันการเงิน : ธนาคารกสิกรไทย (KBank)
- สกุลเงินที่รองรับ : Journey Card เป็นบัตรเครดิต Visa/Mastercard ที่รองรับการใช้จ่าย ทุกสกุลเงินทั่วโลก เช่นเดียวกับ Krungthai Travel Visa Platinum Card โดยจะแปลงสกุลเงินจากยอดใช้จ่ายต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท เพื่อเรียกเก็บภายหลัง ไม่ได้มีฟังก์ชัน Multi-Currency Wallet เหมือน YouTrip
- ค่าธรรมเนียม : ค่าธรรมเนียม ของ Journey Card จะเป็นแบบบัตรเครดิตทั่วไป
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : มีค่าใช้จ่าย
- ค่าธรรมเนียมรายปี : มีค่าธรรมเนียมรายปี โดยจะเรียกเก็บรายปี (อัตราค่าธรรมเนียมแตกต่างกันไปตามประเภทบัตร และอาจมีโปรโมชั่นยกเว้นค่าธรรมเนียมในปีแรก หรือปีต่อๆ ไป หากมียอดใช้จ่ายตามเงื่อนไข) แนะนำให้ตรวจสอบอัตราค่าธรรมเนียมและโปรโมชั่นล่าสุดกับธนาคารกสิกรไทย
- ค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion : โดยทั่วไป บัตรเครดิต Visa/Mastercard จะคิดค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion ประมาณ 2-2.5% เมื่อมีการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ แนะนำให้ตรวจสอบอัตราค่าธรรมเนียมที่แน่นอนกับธนาคารกสิกรไทยอีกครั้ง
- ค่าธรรมเนียมกดเงินสด ATM ต่างประเทศ : มีค่าธรรมเนียม และค่อนข้างสูง เช่นเดียวกับบัตรเครดิตทั่วไป ไม่แนะนำให้กดเงินสดจากบัตร Journey Card ในต่างประเทศ ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน
- สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น : จุดเด่นของ Journey Card คือ การสะสมคะแนน K Point ที่รวดเร็ว และสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์การเดินทางและไลฟ์สไตล์
- สะสม K Point สุดคุ้ม : รับคะแนน K Point เร็ว ทุกการใช้จ่าย ทั้งในและต่างประเทศ (อัตราการสะสมคะแนนแตกต่างกันไปตามประเภทบัตรและโปรโมชั่น) K Point เป็นคะแนนสะสมยอดนิยมของกสิกรไทย ที่สามารถนำไปแลกของรางวัล ส่วนลด หรือเครดิตเงินคืนได้หลากหลาย
- แลกของรางวัล/ส่วนลดเกี่ยวกับการเดินทาง : K Point สามารถนำไป แลกของรางวัล หรือส่วนลดที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางได้หลากหลาย เช่น ส่วนลดตั๋วเครื่องบิน โรงแรม แพ็กเกจทัวร์ หรือแลกเป็นไมล์สะสมของสายการบินพันธมิตร
- ประกันภัยการเดินทาง : ฟรี! ประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง เมื่อชำระค่าโดยสารยานพาหนะสาธารณะด้วยบัตร (รายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน : บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเดินทางในต่างประเทศ (รายละเอียดบริการเป็นไปตามเงื่อนไขของ Visa หรือ Mastercard)
- สิทธิประโยชน์ Visa/Mastercard : รับสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นต่างๆ ที่ทาง Visa หรือ Mastercard มอบให้กับผู้ถือบัตรเครดิตระดับเดียวกัน เช่น ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม ช้อปปิ้ง หรือบริการอื่นๆ
- โปรแกรมผ่อนชำระ : สามารถแบ่งจ่ายยอดใช้จ่าย เป็นรายเดือนได้ (เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)
ข้อสังเกต/ข้อควรระวัง :
- มีค่าธรรมเนียมรายปี : ต้องพิจารณาความคุ้มค่าของสิทธิประโยชน์กับการสะสมคะแนน K Point กับค่าธรรมเนียมรายปี
- ค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion : มีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน (ประมาณ 2-2.5%)
- ไม่แนะนำให้กดเงินสด ATM ต่างประเทศ : ค่าธรรมเนียมสูง และไม่คุ้มค่า
- เรทแลกเปลี่ยนอาจไม่ดีที่สุด: อิงตามเรท Visa/Mastercard ซึ่งเป็นเรทมาตรฐาน แต่ไม่ใช่เรทที่ดีที่สุด (เช่น เรท SuperRich ของ YouTrip)
- ต้องมีวินัยในการใช้จ่ายบัตรเครดิต : เพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
โดยรวมแล้ว Journey Card เหมาะสำหรับนักเดินทางที่เป็นลูกค้าธนาคารกสิกรไทย (KBank) จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบ K Point และความสะดวกในการจัดการบัญชีนักเดินทางที่เน้นการสะสมคะแนนเพื่อแลกของรางวัล หากเป็นนักสะสมแต้ม K Point บัตรนี้จะช่วยให้สะสมแต้มได้รวดเร็วและคุ้มค่านักเดินทางที่ต้องการบัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการเดินทางและไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์ทั้งการเดินทางและชีวิตประจำวัน คนที่ต้องการความคุ้มครองเรื่องประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยการเดินทางฟรี ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในทุกทริป
Journey Card เป็น บัตรเครดิต Travel Card ที่โดดเด่นเรื่อง “การสะสมคะแนน K Point สุดคุ้มค่า” เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ ต้องการบัตรเครดิตสำหรับใช้จ่ายทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสะสมคะแนนแลกของรางวัลเกี่ยวกับการเดินทางและไลฟ์สไตล์ หากคุณเป็นลูกค้า KBank และชื่นชอบการสะสมแต้ม K Point บัตร Journey Card เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์มาก ๆ
6.Citibank Global Wallet – ธนาคารซิตี้แบงก์ (ปัจจุบัน : อาจเปลี่ยนแปลงภายใต้ UOB)
itibank Global Wallet เป็นบัตร Multi-Currency Wallet ที่เคยออกโดยธนาคารซิตี้แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารระดับโลกที่มีชื่อเสียง บัตรนี้เคยได้รับความนิยมในกลุ่มนักเดินทางที่ต้องการ ความสะดวกในการจัดการหลายสกุลเงิน และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ระดับสากล จุดเด่นสำคัญในอดีตคือการ รองรับสกุลเงินหลากหลาย และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์นักเดินทาง อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 สถานการณ์ของ Citibank Global Wallet ในประเทศไทยอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากธุรกิจธนาคารรายย่อยของ Citibank ในประเทศไทยได้ถูก ควบรวมกิจการโดยธนาคาร UOB ดังนั้น ข้อมูลเกี่ยวกับ Citibank Global Wallet ในปี 2025 อาจหมายถึงบัตรที่ให้บริการภายใต้แบรนด์ UOB หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงชื่อผลิตภัณฑ์ หรือสิทธิประโยชน์ไปแล้ว

- ชื่อบัตร : Citibank Global Wallet (ณ ปี 2025: อาจเป็นชื่อเดิม หรือเปลี่ยนแปลงภายใต้ UOB เช่น UOB Global Currency Account/Card หรือชื่ออื่น)
- ผู้ออกบัตร/สถาบันการเงิน : เดิม : ธนาคารซิตี้แบงก์ / ณ ปี 2025 : อาจเป็น ธนาคารยูโอบี (UOB) หรือสถาบันการเงินภายใต้ UOB Group (ต้องตรวจสอบข้อมูลล่าสุด)
- สกุลเงินที่รองรับ : ในอดีต Citibank Global Wallet เคยโดดเด่นเรื่องการรองรับสกุลเงินต่างประเทศหลากหลาย มากกว่าบัตร Travel Card ทั่วไป โดยรองรับสกุลเงินหลักและสกุลเงินอื่น ๆ รวมกัน มากกว่า 10 สกุลเงิน ได้แก่ (ข้อมูลเดิม ก่อนการเปลี่ยนแปลง) USD, EUR, GBP, JPY, AUD, HKD , SGD, CAD, CNY, และรองรับสกุลเงินบาท (THB) ณ ปี 2025 จำนวนและประเภทสกุลเงินที่รองรับ อาจมีการเปลี่ยนแปลงภายใต้ UOB แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลสกุลเงินที่รองรับล่าสุดจาก UOB โดยตรง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด
- ค่าธรรมเนียม : โครงสร้างค่าธรรมเนียม ของ Citibank Global Wallet ในอดีต มีดังนี้ (ข้อมูลเดิม ก่อนการเปลี่ยนแปลง)
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : ไม่มี (โดยทั่วไป)
- ค่าธรรมเนียมรายปี : อาจมีหรือไม่มี ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี หรือโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ (บางประเภทบัญชีอาจมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี หากคงยอดเงินฝากตามเงื่อนไข)
- ค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion : ฟรี! เมื่อใช้จ่ายด้วยสกุลเงินต่างประเทศที่อยู่ใน Wallet ไม่เสียค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินเพิ่มเติม (เป็นจุดเด่นสำคัญ)
- ค่าธรรมเนียมกดเงินสด ATM ต่างประเทศ : มีค่าธรรมเนียม และอาจแตกต่างกันไปตามสกุลเงิน และประเทศที่กดเงินสด (แนะนำให้ตรวจสอบค่าธรรมเนียมล่าสุดจาก Citibank ก่อนใช้งาน)
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ : อาจมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัญชี หรือบริการเพิ่มเติม แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดค่าธรรมเนียมทั้งหมดจาก Citibank โดยตรง
ณ ปี 2025 : โครงสร้างค่าธรรมเนียม อาจมีการเปลี่ยนแปลงภายใต้ UOB แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดค่าธรรมเนียมล่าสุดของ UOB สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เทียบเท่า Citibank Global Wallet เพื่อให้ทราบค่าใช้จ่ายที่แน่นอน
- สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น : สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น ของ Citibank Global Wallet ในอดีต ที่เคยดึงดูดนักเดินทาง มีดังนี้ (ข้อมูลเดิม ก่อนการเปลี่ยนแปลง)
- ฟังก์ชัน Multi-Currency Wallet : บริหารจัดการเงินได้หลายสกุลเงินในบัตรเดียว แลกเงินเก็บไว้ตอนเรทดีได้
- ใช้งานง่ายผ่านแอป Citibank TH : จัดการบัตรและบัญชี Global Wallet ได้ผ่านแอป Citibank TH ที่ใช้งานสะดวก (ในอดีต)
- Citibank Global Recognition : สิทธิประโยชน์และบริการระดับสากลจาก Citibank ทั่วโลก (อาจรวมถึงส่วนลดโรงแรม ร้านอาหาร หรือบริการอื่นๆ ในต่างประเทศ)
- โปรโมชั่นและพาร์ทเนอร์ : Citibank มักจะมี โปรโมชั่นร่วมกับร้านค้า โรงแรม หรือบริการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ (ต้องคอยติดตามข่าวสารโปรโมชั่นจาก Citibank เรื่อยๆ)
- ความปลอดภัย : Citibank เป็นธนาคารระดับโลกที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลและเงินในบัญชี
ณ ปี 2025 : สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น อาจมีการเปลี่ยนแปลงภายใต้ UOB แนะนำให้ตรวจสอบสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นล่าสุดของ UOB สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เทียบเท่า Citibank Global Wallet เพื่อให้ทราบสิทธิพิเศษที่ยังคงมีอยู่
ข้อสังเกต/ข้อควรระวัง (ณ ปี 2025) :
- สถานการณ์บัตร Citibank Global Wallet ในปี 2025 ยังไม่ชัดเจน: เนื่องจากการควบรวมกิจการโดย UOB ผลิตภัณฑ์และบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลง
- ข้อมูลเดิมอาจไม่ตรงกับปัจจุบัน: ข้อมูลเกี่ยวกับสกุลเงิน เรทแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียม และสิทธิประโยชน์ของ Citibank Global Wallet ในอดีต อาจไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการภายใต้ UOB ในปี 2025
- ต้องตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจาก UOB โดยตรง : เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เทียบเท่า Citibank Global Wallet ในปี 2025
ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ที่เทียบเท่า Citibank Global Wallet ในปี 2025 จะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ภายใต้ UOB โดย ในอดีต Citibank Global Wallet เคยเหมาะสำหรับ นักเดินทางที่เดินทางไปยังประเทศหลากหลายสกุลเงิน ต้องการบัตรที่รองรับสกุลเงินหลากหลาย เพื่อความสะดวกในการใช้จ่าย นักเดินทางที่ต้องการความน่าเชื่อถือของแบรนด์ระดับสากล ให้ความสำคัญกับแบรนด์ธนาคารที่มีชื่อเสียง และมาตรฐานระดับโลก คนที่คุ้นเคยและชื่นชอบบริการของ Citibank เดิม อาจต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกับ Citibank Global Wallet ภายใต้ UOB
Citibank Global Wallet ในอดีตเคยเป็น บัตร Multi-Currency Wallet ที่โดดเด่นเรื่องสกุลเงินหลากหลาย และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ระดับสากล อย่างไรก็ตาม ณ ปี 2025 สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เทียบเท่า Citibank Global Wallet จาก UOB โดยตรง เพื่อประเมินความน่าสนใจ และความเหมาะสมกับความต้องการของคุณอีกครั้ง ข้อมูลในส่วนนี้เป็นข้อมูลอ้างอิงจากอดีต และอาจไม่ตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันในปี 2025
7. Krungsri Boarding Card – ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
Krungsri Boarding Card เป็นบัตร Prepaid Travel Card จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่เน้น ความสะดวกในการใช้งาน และสิทธิพิเศษที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์และบริการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ บัตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักเดินทางที่ต้องการ ความคล่องตัวในการใช้จ่าย ควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าของกรุงศรี คอนซูมเมอร์

- ชื่อบัตร : Krungsri Boarding Card
- ผู้ออกบัตร/สถาบันการเงิน : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Krungsri)
- สกุลเงินที่รองรับ : Krungsri Boarding Card รองรับสกุลเงินต่างประเทศยอดนิยมทั้งหมด 14 สกุลเงิน และแน่นอนว่ารองรับสกุลเงินบาท (THB) เช่นเดียวกับบัตร Prepaid Travel Card อื่น ๆ ในตลาด
- เรทแลกเปลี่ยน : เรทแลกเปลี่ยน ของ Krungsri Boarding Card จะอ้างอิง “เรทของธนาคารกรุงศรีอยุธยา” ซึ่งโดยทั่วไป เรทกรุงศรีก็ถือว่าอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ และใกล้เคียงกับเรทตลาด อาจจะไม่ใช่เรทที่ดีที่สุดในกลุ่มบัตร Prepaid แต่ก็ยัง คุ้มค่า และสะดวกสบาย กว่าการแลกเงินสดทั่วไป หรือการใช้บัตรเครดิต/เดบิตที่ไม่ใช่ Travel Card ในต่างประเทศ
- ค่าธรรมเนียม : ค่าธรรมเนียม ของ Krungsri Boarding Card มีรายละเอียดดังนี้
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า : ฟรี! สำหรับการสมัครบัตรใหม่
- ค่าธรรมเนียมรายปี : ฟรี! ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
- ค่าธรรมเนียม FX Currency Conversion : ฟรี! เมื่อใช้จ่ายด้วยสกุลเงินต่างประเทศที่อยู่ใน Wallet ไม่มีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินเพิ่มเติม
- ค่าธรรมเนียมกดเงินสด ATM ต่างประเทศ : มีค่าธรรมเนียม โดยจะคิดค่าธรรมเนียม 100 บาทต่อครั้ง ในทุกสกุลเงิน ทุกประเทศทั่วโลก (และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากตู้ ATM ของธนาคารท้องถิ่น) แนะนำให้วางแผนการใช้จ่าย และหลีกเลี่ยงการกดเงินสดที่ไม่จำเป็น
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ : โดยรวม Krungsri Boarding Card ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงอื่น ๆ ที่น่ากังวลใจ
- สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น : จุดเด่นของ Krungsri Boarding Card นอกเหนือจากความสะดวกในการใช้งาน ก็คือ สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น ที่เชื่อมโยงกับกรุงศรี คอนซูมเมอร์
- สิทธิพิเศษจาก Krungsri Consumer : ผู้ถือบัตร Krungsri Boarding Card จะได้รับ สิทธิพิเศษและโปรโมชั่นต่าง ๆ จากกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เช่น ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม แหล่งช้อปปิ้ง หรือบริการอื่นๆ ที่ร่วมรายการ (ต้องติดตามโปรโมชั่นจาก Krungsri Consumer)
- เติมเงินสะดวกหลากหลายช่องทาง : สามารถ เติมเงินเข้าบัตร Krungsri Boarding Card ได้หลากหลายช่องทาง ทั้งผ่านแอป KMA Krungsri Mobile App, ตู้ ATM กรุงศรี, หรือสาขาธนาคารกรุงศรีอยุธยา เติมเงินง่าย รวดเร็ว
- จัดการบัตรผ่านแอป KMA : บริหารจัดการบัตร Krungsri Boarding Card ได้สะดวกผ่านแอป KMA Krungsri Mobile App ทั้ง เติมเงิน แลกเงิน เช็คยอด โปรโมชั่น สำหรับลูกค้ากรุงศรีเดิม จะคุ้นเคยและใช้งานง่าย
- ความปลอดภัย : Krungsri Boarding Card เป็นบัตร Prepaid ที่มีความปลอดภัย สามารถ อายัดบัตรได้ง่ายๆ ผ่านแอป KMA Krungsri Mobile App หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ข้อสังเกต/ข้อควรระวัง :
- เรทแลกเปลี่ยนอาจไม่ดีที่สุด : อิงตามเรทกรุงศรี ซึ่งเป็นเรทมาตรฐาน แต่ไม่ใช่เรทที่ดีที่สุด (เช่น เรท SuperRich ของ YouTrip)
- ค่าธรรมเนียมกดเงินสด ATM ต่างประเทศ : 100 บาทต่อครั้ง อาจสูงกว่าบางบัตร ควรหลีกเลี่ยงการกดเงินสดบ่อย ๆ
- สิทธิประโยชน์เน้นลูกค้า Krungsri Consumer : สิทธิพิเศษส่วนใหญ่จะผูกกับโปรโมชั่นของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ หากไม่ใช่ลูกค้ากรุงศรี อาจจะไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่เท่าที่ควร
โดยรวมแล้ว Krungsri Boarding Card เหมาะสำหรับ ลูกค้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Krungsri) จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากสิทธิพิเศษ Krungsri Consumer และความสะดวกในการใช้งานผ่านแอป KMA นักเดินทางที่เน้นความสะดวกในการเติมเงินและจัดการบัตร เติมเงินง่าย หลากหลายช่องทาง จัดการทุกอย่างผ่านแอป KMA นักเดินทางที่มองหาบัตร Prepaid Travel Card ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน สมัครและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักเดินทางมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการความสะดวก คนที่ต้องการสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นจากกรุงศรี คอนซูมเมอร์ หากชื่นชอบโปรโมชั่นของกรุงศรี บัตรนี้จะตอบโจทย์
Krungsri Boarding Card เป็น บัตร Prepaid Travel Card ที่โดดเด่นเรื่อง “ความสะดวกในการใช้งาน และสิทธิพิเศษจากกรุงศรี คอนซูมเมอร์” เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ ต้องการบัตรที่ใช้งานง่าย เติมเงินสะดวก และได้รับสิทธิพิเศษจากกรุงศรี หากคุณเป็นลูกค้ากรุงศรี และกำลังมองหาบัตร Travel Card ที่เน้นความสะดวก Krungsri Boarding Card เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์ได้ดี
และนี่ก็คือการเจาะลึกรายละเอียดของ บัตร Travel Card ทั้ง 7 ใบ ที่เรานำมาเปรียบเทียบกันในบทความนี้นะ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยให้ทุกคนเห็นภาพรวมของแต่ละบัตร และเข้าใจจุดเด่น จุดด้อย ที่แตกต่างกันไปได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในส่วนต่อไป เราจะไปสรุปเปรียบเทียบในรูปแบบตาราง เพื่อให้เห็นภาพรวมได้ง่ายยิ่งขึ้น และตามด้วย คำแนะนำในการเลือกบัตร Travel Card ที่ใช่…ในสไตล์ของคุณ อย่าพลาดติดตามนะ
ตารางด้านล่างนี้ สรุปข้อมูลสำคัญของบัตร Travel Card ทั้ง 7 ใบ ที่นำมาเปรียบเทียบในบทความนี้ โดยเน้นหัวข้อที่นักเดินทางมักจะพิจารณาในการเลือกบัตร ข้อมูลในตารางนี้เป็นข้อมูล ณ ปี 2025 และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากธนาคารผู้ออกบัตรอีกครั้ง ก่อนตัดสินใจสมัครบัตร

หวังว่าตารางเปรียบเทียบนี้ จะช่วยให้ทุกคนเห็นภาพรวม และเปรียบเทียบ บัตร Travel Card ทั้ง 7 ใบ ได้ง่าย และชัดเจนมากยิ่งขึ้นนะ ในส่วนต่อไป เราจะไปเจาะลึกถึง วิธีเลือก Travel Card ให้เหมาะกับสไตล์ของคุณ กัน รอติดตามกันได้เลย!
บทความที่น่าสนใจ
- เที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน 6 คืน แจกแพลนสุดฟิน เที่ยวคุ้ม ครบจบ ! ปี 2025
- ทำความรู้จักกับภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น ก่อนไปเที่ยวกันดีกว่า
- เรื่องควรรู้ ก่อนเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่น ด้วยตนเอง
คำถามเพื่อค้นหาสไตล์การเดินทาง ก่อนเลือก Travel Card

- คุณเดินทางไปประเทศไหนบ่อย ? (เอเชีย, ยุโรป, อเมริกา, … หรือทั่วโลก)
สกุลเงินที่บัตร Travel Card รองรับ เป็นปัจจัยหลักในการเลือก ถ้าคุณเดินทางไปเอเชีย เป็นประจำ บัตรที่รองรับสกุลเงินหลักในเอเชีย เช่น JPY, KRW, HKD, SGD ก็จะตอบโจทย์ ถ้าเน้น ยุโรป ก็ต้องดูบัตรที่รองรับ EUR, GBP, CHF ถ้าไปอเมริกา บ่อย ก็ต้อง USD, CAD หรือถ้าเดินทางทั่วโลกเลย บัตรที่รองรับหลายสกุลเงิน หรือบัตรที่ใช้จ่ายได้ทุกสกุลเงิน (แปลงเป็นบาท) ก็จะครอบคลุมกว่า
- งบประมาณในการเดินทางของคุณเป็นแบบไหน? (ประหยัด, ปานกลาง, หรูหรา)
งบประมาณการเดินทางก็มีผลต่อการเลือกบัตร สายประหยั อาจจะมองหาบัตรที่ ฟรีค่าธรรมเนียม ต่างๆ เป็นหลัก เช่น TTB All Free, YouTrip, Planet SCB, Krungsri Boarding Card สายกลาง ๆ อาจจะเน้น ความคุ้มค่าโดยรวม ทั้งเรท สิทธิประโยชน์ และค่าธรรมเนียม เช่น YouTrip, Planet SCB, Journey Card สายหรูหรา อาจจะมองหาบัตร เครดิต ที่มาพร้อม สิทธิประโยชน์พรีเมียม เช่น Lounge Access, ประกันเดินทาง หรือบริการพิเศษต่างๆ เช่น Krungthai Travel Visa Platinum Card, Journey Card
- คุณเน้นสิทธิประโยชน์ด้านใดเป็นพิเศษ? (ประกันเดินทาง, Lounge, ส่วนลด, สะสมคะแนน)
แต่ละคนก็ให้ความสำคัญกับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน ลองถามตัวเองว่า อะไรคือ “สิทธิประโยชน์ที่ใช่” สำหรับคุณ
- ประกันเดินทาง : หากกังวลเรื่องความปลอดภัย และต้องการความคุ้มครองระหว่างเดินทาง บัตรที่มี ประกันภัยการเดินทางฟรี จะตอบโจทย์ เช่น Krungthai Travel Visa Platinum Card, TTB All Free (ประกันอุบัติเหตุ)
- Lounge Access : หากชอบความสะดวกสบาย และต้องการพักผ่อนในห้องรับรองพิเศษในสนามบิน บัตรที่ให้ Lounge Access จะน่าสนใจ เช่น Krungthai Travel Visa Platinum Card, Planet SCB (อาจมีโปรโมชั่น)
- ส่วนลดร้านอาหาร/โรงแรม/ช้อปปิ้ง : หากชอบทานอาหารอร่อย พักโรงแรมดี หรือช้อปปิ้งจุใจ บัตรที่มี ส่วนลดร้านค้าพาร์ทเนอร์ จะคุ้มค่า เช่น Planet SCB, Journey Card, Krungsri Boarding Card (เน้นโปรโมชั่นจากแบรนด์)
- สะสมคะแนน/Cashback : หากเป็นนักสะสมแต้ม หรือชอบรับเครดิตเงินคืน บัตรที่ให้ คะแนนสะสม/Cashback จะตอบโจทย์ เช่น Journey Card, Planet SCB (สะสม SCB Point)
- คุณเดินทางบ่อยแค่ไหน? (ปีละกี่ครั้ง)
ความถี่ในการเดินทางก็มีผลต่อการเลือกบัตร นักเดินทางขาประจำ ที่เดินทางบ่อย อาจจะมองหาบัตรที่มี สิทธิประโยชน์หลากหลาย และคุ้มค่าในระยะยาว เช่น บัตรเครดิตที่มีค่าธรรมเนียมรายปี แต่มาพร้อมสิทธิประโยชน์จัดเต็ม นักเดินทางนานๆ ครั้ง อาจจะเน้นบัตรที่ ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี และใช้งานง่าย ไม่ต้องมีภาระผูกพันมากนัก เช่น บัตร Prepaid หรือ Debit ที่ฟรีค่าธรรมเนียม
- ความสะดวกในการใช้งาน:“แอปสะดวก…เติมเงินง่าย…บริการดี…ใช้งานสบาย”
ความสะดวกในการใช้งาน ก็เป็นปัจจัยสำคัญ พิจารณาความสะดวกของแอปพลิเคชัน (ใช้งานง่าย ฟังก์ชันครบ) ช่องทางการเติมเงิน (หลากหลาย สะดวก) บริการลูกค้า (รวดเร็ว ช่วยเหลือดี) บัตรที่ใช้งานสะดวก จะช่วยให้คุณจัดการเรื่องการเงินในต่างประเทศได้อย่างราบรื่น และสบายใจ
สุดท้ายนี้ อยากจะย้ำอีกครั้งว่า ไม่มีบัตร Travel Card ที่ “ดีที่สุด” สำหรับทุกคน การเลือกบัตร Travel Card ที่ดีที่สุด คือ การเลือกบัตรที่ “ใช่” ที่สุด สำหรับ “สไตล์การเดินทาง” และ “ความต้องการ” ของคุณ ไม่มีใครบอกได้ดีเท่าตัวคุณเองว่า บัตรใบไหนที่ “ใช่” ที่สุดสำหรับคุณ
ดังนั้น หลังจากอ่านบทความนี้ และทำตามคำแนะนำในการเลือกบัตรแล้ว ก็ขอให้ทุกท่าน ลองพิจารณาบัตร Travel Card แต่ละใบอย่างละเอียด ตอบคำถามนำทาง พิจารณาเกณฑ์การเลือก และ เลือกบัตร Travel Card ที่ “ใช่” ที่สุด ที่จะเป็นคู่หูทางการเงินที่รู้ใจ และพาคุณไปเปิดประสบการณ์การเดินทางในต่างประเทศได้อย่างสนุก และคุ้มค่าที่สุดนะ
แต่ละบัตรก็มีจุดเด่น จุดด้อย และสไตล์ที่แตกต่างกันไป บางบัตรเน้นเรทแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด บางบัตรเน้นความฟรีค่าธรรมเนียม บางบัตรเน้น สิทธิประโยชน์พรีเมียม บางบัตรเน้นความสะดวกในการใช้งาน และบางบัตรเน้นการสะสมคะแนน ไม่มีบัตรไหนที่ดีที่สุดแบบเบ็ดเสร็จ แต่มีบัตรที่ “ใช่” ที่สุด สำหรับ “คุณ”

ในปี 2025 นี้ บัตร Travel Card ยังคงเป็น “ไอเทม Must-Have” สำหรับนักเดินทางยุคใหม่ เพราะบัตร Travel Card มอบประโยชน์และความคุ้มค่า ที่เหนือกว่าการแลกเงินสด หรือการใช้บัตรเดบิต/เครดิตทั่วไปในต่างประเทศ อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็น
- ความสะดวกสบาย : ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก ลดความเสี่ยงการสูญหาย รูดจ่ายง่าย กดเงินสดสะดวก
- เรทแลกเปลี่ยนที่ดี : บัตร Travel Card หลายใบให้เรทแลกเปลี่ยนที่ดีกว่า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการแลกเงิน
- ความปลอดภัย : บัตรหาย อายัดได้ง่าย ปลอดภัยกว่าพกเงินสด
- ควบคุมงบประมาณ : บัตร Prepaid ช่วยให้ควบคุมงบประมาณได้ดี เติมเงินเท่าที่ต้องการใช้
- สิทธิประโยชน์สุดคุ้ม : บัตรหลายใบมาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น ประกันเดินทาง Lounge Access ส่วนลดร้านค้า
ถึงเวลาแล้ว ที่คุณจะพิจารณาเลือก “บัตร Travel Card” สักใบ ให้เป็นคู่หูในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ ไม่ต้องกังวลว่าบัตรใบไหน “ดีที่สุด” แต่ให้ มองหาบัตรที่ “ใช่” ที่สุด สำหรับ “สไตล์การเดินทาง” และ “ความต้องการ” ของคุณ ลองกลับไปทบทวน คำถามนำทาง และ เกณฑ์การเลือกบัตร ที่เราได้แนะนำไว้ในบทความเปรียบเทียบข้อมูลในตาราง และ อ่านรายละเอียดของแต่ละบัตรอีกครั้ง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ไม่ว่าคุณจะเลือกบัตร Travel Card ใบไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเดินทางออกไปเปิดโลกกว้าง เก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ๆ และสร้างความทรงจำที่แสนพิเศษ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเดินทาง และใช้บัตร Travel Card อย่างคุ้มค่า ตลอดทริปนะ!
หากคุณสนใจแพลนเที่ยวแบบไหน หรืออยากปรับแผนให้ตรงกับความต้องการของคุณ บอกเราได้เลย! แพลนเที่ยวที่ดีจะช่วยให้คุณประหยัดเวลา ประหยัดงบ และได้ประสบการณ์ที่คุ้มค่าแบบสุด ๆ
พร้อมหรือยังที่จะออกไปสัมผัสญี่ปุ่นในแบบที่คุณไม่เคยเจอ ? จองตั๋วเครื่องบิน เก็บกระเป๋า แล้วไปลุยญี่ปุ่นด้วยตัวเองกันเถอะ! ไม่ว่าจะไปครั้งแรกหรือครั้งไหน ญี่ปุ่นจะทำให้คุณประทับใจแบบไม่รู้ลืมแน่นอน!
บริการรับทำแพลนเที่ยว ลูกค้าสามารถเลือกแพลนเที่ยวได้เอง เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองได้แบบง่าย ๆ

ทั้งเรื่องกิน เรื่องเที่ยว ที่พัก ที่ช้อป พร้อมรายละเอียดการเดินทาง ไม่พลาดกับทุกสถานที่ยอดฮิต!
แหล่งอ้างอิง
- องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) : www.jnto.go.jp/th
- Go Tokyo : www.gotokyo.org/th
- Travel.TrueID : https://travel.trueid.net/detail/eqRkrWGy1Ew4