Skip to content
Home » โตเกียว ลงสนามบินไหนดี? นาริตะ VS ฮาเนดะ แตกต่างกันยังไง?

โตเกียว ลงสนามบินไหนดี? นาริตะ VS ฮาเนดะ แตกต่างกันยังไง?

  • admin 
เปรียบเทียบสนามบิน นาริตะ VS ฮาเนดะ สำหรับมือใหม่เที่ยวโตเกียว พร้อมข้อมูลการเดินทางเข้าเมือง ที่เที่ยว ที่กิน และแผนเที่ยววันแรก คลิกเลย

โตเกียว! ใคร ๆ ก็อยากไปเที่ยวใช่ไหมเพื่อน ๆ? เมืองนี้มีทั้งไฟสวย ๆ แฟชั่นเก๋ ๆ ของกินอร่อย และอะไรน่าสนใจอีกเยอะแยะเลย แต่ก่อนที่เราจะบินไปเที่ยวญี่ปุ่น คำถามแรกที่หลายคนสงสัย โดยเฉพาะคนที่เพิ่งไปครั้งแรก หรืออยากจะประหยัดเงินหน่อย ก็คือ “จะไปโตเกียว ลงสนามบินไหนดีล่ะ?” นาริตะ VS ฮาเนดะ ที่โตเกียวมีสนามบินหลัก ๆ ให้เราเลือกอยู่ 2 แห่ง คือ “สนามบินนาริตะ (NRT)” ที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักกันดีอยู่แล้ว กับอีกที่คือ “สนามบินฮาเนดะ (HND)” ที่พักหลัง ๆ นี้คนเริ่มพูดถึงกันเยอะว่าสะดวกมาก ๆ ทั้งสองสนามบินนี้พาเราเข้าโตเกียวได้เหมือนกัน แต่ก็มีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันออกไป การเลือกสนามบินให้ถูกใจตั้งแต่แรก ก็เหมือนเริ่มต้นทริปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองได้แบบสบาย ๆ เลยเพื่อน ๆ

เปรียบเทียบสนามบินนาริตะ VS ฮาเนดะ สำหรับมือใหม่เที่ยวโตเกียว พร้อมข้อมูลการเดินทางเข้าเมือง ที่เที่ยว ที่กิน และแผนเที่ยววันแรก คลิกเลย

ไม่ต้องห่วงนะเพื่อน ๆ ! บทความนี้จะเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิด ช่วยอธิบายให้เพื่อน ๆ เข้าใจแบบง่าย ๆ เลยว่า “สนามบินนาริตะกับสนามบินฮาเนดะ” มันต่างกันยังไงบ้าง? เราจะบอกให้หมดเลยว่า สนามบินไหนอยู่ใกล้หรือไกลเมืองกว่ากัน เดินทางเข้าเมืองโตเกียวด้วยวิธีไหนได้บ้าง? ค่ารถประมาณเท่าไหร่? แล้วต้องใช้เวลานานแค่ไหน? แถมยังมีลิสต์ “ที่เที่ยว ที่กิน ที่ช็อป” ใกล้ ๆ ทั้งสองสนามบิน เผื่อใครอยากจะแวะเที่ยวก่อนเข้าเมืองด้วยนะ อ้อ! แล้วก็มีตัวอย่าง “แผนเที่ยววันแรก” แบบง่าย ๆ ให้ดูเป็นไอเดีย จะได้ไปเที่ยวโตเกียวกันแบบสนุกขึ้น มั่นใจมากขึ้นยังไงล่ะ!

ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะไปเที่ยวคนเดียว ไปกับแก๊งเพื่อน ไปสวีทกับแฟน หรือไปกันทั้งครอบครัว จะเป็นสายประหยัดงบ สายเน้นสะดวกสบาย หรือสายเก็บให้ครบทุกที่ บทความนี้มีข้อมูลแน่น ๆ ช่วยให้คุณเลือกสนามบินที่ “ใช่เลย” สำหรับสไตล์การเที่ยวของคุณได้แน่นอน! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาหาคำตอบกันเลยว่า ทริปโตเกียวของคุณครั้งนี้ จะเริ่มต้นที่ ” นาริตะ หรือ ฮาเนดะ” ดีนะ?

เอาล่ะ! มาเริ่มทำความรู้จักกับสนามบินแรกกันเลย นั่นก็คือ สนามบินนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “NRT” นั่นเอง สนามบินแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะ ซึ่งถ้าดูจากแผนที่แล้วจะอยู่ทางทิศตะวันออกของใจกลางเมืองโตเกียว

สนามบินนาริตะเปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 1978 (พ.ศ. 2521) และเป็นเหมือนสนามบินหลักที่ต้อนรับเที่ยวบินจากต่างประเทศทั่วโลกมายาวนานเลย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยหลาย ๆ คน นาริตะก็มักจะเป็นสนามบินแรกที่นึกถึงเมื่อจะเดินทางไปเที่ยวโตเกียวหรือภูมิภาคคันโต ที่นี่มีอาคารผู้โดยสาร (Terminal) หลัก ๆ อยู่ 3 อาคาร คือ Terminal 1, Terminal 2 และ Terminal 3 ซึ่ง Terminal 3 เนี่ยจะเป็นอาคารสำหรับสายการบินราคาประหยัด (Low-Cost Airlines) โดยเฉพาะเลยบรรยากาศในสนามบินกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีป้ายบอกทางเป็นภาษาอังกฤษ (และบางจุดก็มีภาษาไทยด้วยนะ!) ช่วยให้เดินทางไม่หลงแน่นอน

  • ตัวเลือกเที่ยวบินเยอะ : เพราะเป็นสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ นาริตะเลยมีสายการบินจากทั่วโลกมาลงเยอะมาก ทำให้เรามีตัวเลือกเที่ยวบินหลากหลาย ทั้งเวลาบินและสายการบินที่ชอบ
  • เจอโปรตั๋วถูกมีอยู่จริง : โดยเฉพาะจากสายการบินราคาประหยัด (Low-Cost Carriers) หลายสายที่เลือกมาลงที่ Terminal 3 ใครที่เป็นนักล่าตั๋วโปร หรือเน้นคุมงบประมาณ นาริตะอาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลย
  • ร้านค้า ร้านอาหาร และ Duty Free ก็จัดเต็ม : ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของฝาก ของที่ระลึกแบรนด์ญี่ปุ่น ขนมอร่อย ๆ หรือร้านอาหารหลากหลายสไตล์ในสนามบินก็มีให้เลือกเยอะพอสมควร โดยเฉพาะโซน Duty Free ขากลับนี่เดินเพลินเลย
  • ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองนานหน่อย : แน่นอนว่าพอไกลกว่า ก็ต้องใช้เวลาเดินทางนานขึ้นเป็นธรรมดา อาจจะประมาณ 1 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกเดินทางด้วยวิธีไหนและจะไปลงที่ย่านไหนในโตเกียว
  • ไกลตัวเมืองโตเกียวพอสมควร : อันนี้เป็นจุดที่หลายคนอาจจะคิดหนักหน่อย เพราะนาริตะตั้งอยู่ห่างจากใจกลางโตเกียวประมาณ 60-75 กิโลเมตรเลยทีเดียว
  • ค่าเดินทางเข้าเมืองอาจจะสูงกว่า : ด้วยระยะทางที่ไกลกว่า ทำให้ค่ารถไฟหรือรถบัสเพื่อเดินทางเข้าตัวเมืองโตเกียว อาจจะมีราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับอีกสนามบินนึง

พอเครื่องบินแตะพื้น รับกระเป๋าเรียบร้อย ก็ถึงเวลาเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าสู่ใจกลางเมืองโตเกียวกันแล้ว ที่นี่มีตัวเลือกการเดินทางหลายแบบเลย แต่ละแบบก็มีข้อดีและราคาแตกต่างกันไป ลองมาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง :

เปรียบเทียบสนามบิน นาริตะ VS ฮาเนดะ สำหรับมือใหม่เที่ยวโตเกียว พร้อมข้อมูลการเดินทางเข้าเมือง ที่เที่ยว ที่กิน และแผนเที่ยววันแรก คลิกเลย
  1. รถไฟ Narita Express (N’EX – อ่านว่า เน็กซ์) :
    • เหมาะกับใคร : คนที่อยากได้ความสะดวกสบาย นั่งรวดเดียวถึงสถานีใหญ่ ๆ ในโตเกียว เช่น สถานี Tokyo, Shinagawa, Shibuya, Shinjuku, Ikebukuro หรือ Yokohama
    • ราคา (โดยประมาณ) : เริ่มต้นประมาณ 3,000 – 3,500 เยน ต่อเที่ยว (ตรวจสอบโปรโมชั่นตั๋วไป-กลับก่อนเดินทางนะ) ราคา ณ พฤษภาคม 2568
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : ไปสถานี Tokyo ประมาณ 50-60 นาที, ไป Shinjuku/Shibuya ประมาณ 70-90 นาที
    • ซื้อตั๋วได้ที่ : เคาน์เตอร์ JR East Travel Service Center หรือตู้ขายตั๋วอัตโนมัติที่สนามบิน
  2. รถไฟ Keisei Skyliner (เคเซ สกายไลเนอร์) :
    • เหมาะกับใคร : คนที่ต้องการความรวดเร็วมากๆ โดยเฉพาะถ้าพักแถวย่าน Ueno หรือ Nippori
    • ราคา (โดยประมาณ) : ประมาณ 2,500 – 2,600 เยน ต่อเที่ยว ราคา ณ พฤษภาคม 2568
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : ไปสถานี Keisei-Ueno ประมาณ 41-45 นาที
    • ซื้อตั๋วได้ที่ : เคาน์เตอร์ Keisei Skyliner หรือตู้ขายตั๋วอัตโนมัติที่สนามบิน
  3. รถไฟ Access Express และ Keisei Main Line :
    • เหมาะกับใคร : คนที่ต้องการประหยัดงบ หรือพักตามแนวรถไฟสาย Keisei หรือ Toei Asakusa Line
    • ราคา (โดยประมาณ) : Access Express: 1,300 – 1,500 เยน; Keisei Main Line: 1,000 – 1,200 เยน ราคา ณ พฤษภาคม 2568
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : Access Express ไป Ueno ประมาณ 60-70 นาที และ Keisei Main Line ไป Ueno ประมาณ 70-90 นาที
    • ซื้อตั๋วได้ที่ : ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติของ Keisei ที่สนามบิน
  4. รถบัส Limousine Bus (ลีมูซีนบัส) :
    • เหมาะกับใคร : คนที่มีสัมภาระเยอะ หรือพักโรงแรมใหญ่ ๆ ที่รถบัสมีจุดจอดส่งถึงหน้าโรงแรม
    • ราคา (โดยประมาณ) : ประมาณ 3,000 – 3,200 เยน (ขึ้นอยู่กับปลายทาง) ราคา ณ พฤษภาคม 2568
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : 70-120 นาที หรือมากกว่า (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร)
    • ซื้อตั๋วได้ที่ : เคาน์เตอร์ Limousine Bus ที่โถงผู้โดยสารขาเข้า
  5. รถบัสราคาประหยัด (Low-Cost Bus / Shuttle Bus) :
    • เหมาะกับใคร : คนที่ต้องการประหยัดงบค่าเดินทางมากที่สุด
    • ราคา (โดยประมาณ) : ประมาณ 1,300 – 1,500 เยน ต่อเที่ยว ราคา ณ พฤษภาคม 2568
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : 60-90 นาที หรือมากกว่า (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร)
    • ซื้อตั๋วได้ที่ : เคาน์เตอร์ของแต่ละบริษัทรถบัสที่สนามบิน

**ข้อแนะนำเพิ่มเติม : ตรวจสอบรอบรถและตารางเวลาจากเว็บไซต์ทางการ, พิจารณาใช้บัตร IC Card (Suica/Pasmo) สำหรับรถไฟบางประเภท, และลองดูความเป็นไปได้ในการจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า

เดินเล่นเมืองเก่า ชมวัดนาริตะซัน ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) และถนนโอโมเตะซันโด นาริตะ (Narita Omotesando) หากคุณมีเวลาอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง (รวมเวลาเดินทางไป-กลับ) การแวะไปเยือนวัดนาริตะซัน ชินโชจิ และเดินเล่นบนถนนโอโมเตะซันโด ถือเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในการสัมผัสวัฒนธรรมและบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมก่อนที่จะเข้าสู่ความทันสมัยของโตเกียว

เปรียบเทียบสนามบิน นาริตะ VS ฮาเนดะ สำหรับมือใหม่เที่ยวโตเกียว พร้อมข้อมูลการเดินทางเข้าเมือง ที่เที่ยว ที่กิน และแผนเที่ยววันแรก คลิกเลย

วัดนาริตะซันเป็นวัดพุทธนิกายชินงอน (Shingon Buddhist sect) ที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่มาก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 940 (สมัยเฮอัน) เพื่อประดิษฐานรูปเคารพขององค์ฟุโดเมียวโอ (Fudo Myoo – เทพเจ้าแห่งไฟผู้พิทักษ์) ซึ่งเชื่อกันว่าแกะสลักโดยท่านโคโบไดชิ (Kukai) ผู้ก่อตั้งนิกายชินงอน วัดนี้เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนจำนวนมากทั่วญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เดินทางมาขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัย ประสบความสำเร็จ และปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ว่ากันว่าเป็นวัดที่มีผู้มาขอพรในช่วงปีใหม่ (Hatsumode) มากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยทีเดียว

  • เวลาทำการ : โดยทั่วไปบริเวณวัดเปิดให้เข้าชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ตัวอาคารต่างๆ และไดฮนโด อาจมีเวลาเปิด-ปิดประมาณ 08:00 – 16:00 น. (ควรตรวจสอบอีกครั้งก่อนไป) พิธีโกมะมีหลายรอบต่อวัน
  • ค่าเข้าชม : เข้าชมบริเวณวัดฟรี (อาจมีค่าเข้าชมสำหรับพิพิธภัณฑ์หรืออาคารพิเศษบางแห่งภายในวัด เช่น Reikokan Museum หรือ Calligraphy Museum)
  • เว็บไซต์ : https://www.naritasan.or.jp/

การเดินทางจากสนามบินนาริตะ (NRT) ไปยังวัดนาริตะซัน ชินโชจิ นั้นง่าย สะดวก และใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากวัดตั้งอยู่ในตัวเมืองนาริตะซึ่งอยู่ใกล้กับสนามบิน

  • รถไฟ : (เป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่าที่สุด)
    • สาย JR Narita Line (JR成田線) : จากสนามบิน ขึ้นรถไฟจากสถานี Narita Airport (Terminal 1) (成田空港駅) หรือ Airport Terminal 2 Station (空港第2ビル駅) ไปลงที่สถานี JR Narita (JR成田駅)
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : 10 – 15 นาที
    • สาย Keisei Main Line (京成本線) : จากสนามบิน ขึ้นรถไฟจากสถานี Narita Airport Terminal 1 (成田空港駅) หรือ Keisei Narita Airport Terminal 2・3 Station (空港第2ビル駅) ไปลงที่สถานี Keisei Narita (京成成田駅)
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : 8 – 15 นาที (ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ เช่น Local, Rapid)
    • ค่าโดยสาร (โดยประมาณ) : ประมาณ 240 – 270 เยน (ขึ้นอยู่กับสายรถไฟและสถานีต้นทางที่สนามบิน)
    • จากสถานีรถไฟไปยังวัดนาริตะซัน : เมื่อถึงสถานี JR Narita หรือ Keisei Narita ให้มองหาป้ายบอกทางไปยัง “Naritasan Shinshoji Temple (成田山新勝寺)” หรือ “Narita Omotesando (成田山表参道)” ทั้งสองสถานีอยู่ไม่ไกลจากทางเริ่มต้นของถนนโอโมเตะซันโด ซึ่งเป็นถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร ทอดยาวตรงไปยังวัดนาริตะซัน เดินจากสถานีรถไฟตามถนนโอโมเตะซันโดไปยังวัด ใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาที คุณจะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศสองข้างทางก่อนถึงตัววัด

ถนนโอโมเตะซันโดเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวา ทอดยาวประมาณ 800 เมตร จากบริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟ JR Narita และ Keisei Narita ตรงไปยังทางเข้าหลักของวัดนาริตะซัน ชินโชจิ สองข้างทางของถนนเส้นนี้ยังคงรักษาสภาพอาคารบ้านเรือนไม้แบบดั้งเดิมที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะไว้ได้อย่างสวยงาม ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับบรรยากาศเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต ตลอดเส้นทางคึกคักไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารหลากหลายประเภท ทั้งร้านอาหารปลาไหลย่าง (Unagi) ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของเมืองนาริตะ, ร้านขายขนมเซมเบ้ (ข้าวเกรียบญี่ปุ่น) แบบดั้งเดิมและแบบทำสดใหม่, ร้านขายของที่ระลึก, งานฝีมือท้องถิ่น, เครื่องราง, ร้านชา, ร้านสาเก และร้านผักดอง (Tsukemono) การเดินเล่นบนถนนเส้นนี้จึงเป็นประสบการณ์ที่เพลิดเพลิน ได้ทั้งชิมของอร่อยและเลือกซื้อของฝากก่อนหรือหลังการเยี่ยมชมวัด

  • เวลาทำการ : ร้านค้าส่วนใหญ่บนถนนโอโมเตะซันโดมักจะเปิดให้บริการประมาณ 09:00 น. หรือ 10:00 น. และปิดประมาณ 17:00 น. หรือ 18:00 น. อย่างไรก็ตาม
  • ค่าเข้าชม : เดินเล่นบนถนนโอโมเตะซันโดได้ฟรี (ไม่เสียค่าเข้าชม)
  • เว็บไซต์ : https://www.nrtk.jp/

ถนนโอโมเตะซันโด นาริตะ เป็นถนนสายหลักที่ทอดยาวไปยังวัดนาริตะซัน ชินโชจิ และเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร บรรยากาศดั้งเดิมที่น่าเดินเล่น การเดินทางจากสนามบินนาริตะ (NRT) มายังถนนเส้นนี้ทำได้ง่ายและสะดวกมาก

  • รถไฟ : (เป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่าที่สุดในการมาถึงจุดเริ่มต้นของถนนโอโมเตะซันโด)
    • สาย JR Narita Line (JR成田線) : จากสนามบิน ขึ้นรถไฟจากสถานี Narita Airport (Terminal 1) (成田空港駅) หรือ Airport Terminal 2 Station (空港第2ビル駅) ไปลงที่สถานี JR Narita (JR成田駅)
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : 10 – 15 นาที
    • สาย Keisei Main Line (京成本線) : จากสนามบิน ขึ้นรถไฟจากสถานี Narita Airport Terminal 1 (成田空港駅) หรือ Keisei Narita Airport Terminal 2・3 Station (空港第2ビル駅) ไปลงที่ สถานี Keisei Narita (京成成田駅)
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : 8 – 15 นาที (ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ เช่น Local, Rapid)
    • ค่าโดยสาร (โดยประมาณ) : ประมาณ 240 – 270 เยน (ขึ้นอยู่กับสายรถไฟและสถานีต้นทางที่สนามบิน)
    • จากสถานีรถไฟไปยังถนนโอโมเตะซันโด : ถนนโอโมเตะซันโดเริ่มต้นจากบริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟทั้งสองแห่งเลย สถานี Keisei Narita (京成成田駅) เมื่อออกจากสถานี (โดยเฉพาะทางออกทิศตะวันออก – East Exit) คุณจะพบกับทางเริ่มต้นของถนนโอโมเตะซันโดได้ทันที หรือเดินเพียงเล็กน้อย สถานี JR Narita (JR成田駅) เมื่อออกจากสถานี (โดยเฉพาะทางออกทิศตะวันออก – East Exit) เดินตรงมาไม่ไกลก็จะถึงถนนโอโมเตะซันโดเช่นกัน (อาจจะต้องเดินข้ามถนนหรือตามทางเดินมาเล็กน้อย) โดยทั่วไปแล้ว เมื่อออกจากสถานีจะมีป้ายบอกทางไปยัง “Narita Omotesando (成田山表参道)” หรือ “Naritasan Shinshoji Temple (成田山新勝寺)” อย่างชัดเจน
  • บัตร IC Card (เช่น Suica, Pasmo) : สามารถใช้บัตรเหล่านี้แตะเพื่อชำระค่าโดยสารรถไฟทั้งสาย JR และ Keisei ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วที่ตู้
  • ป้ายบอกทาง : มีป้ายบอกทางเป็นภาษาอังกฤษ (และบางครั้งมีภาษาอื่นๆ) จากสถานีรถไฟไปยังวัดนาริตะซันอย่างชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้ด้วยตัวเองไม่ยาก

เปลี่ยนบรรยากาศมาดูสนามบินที่อยู่ใกล้ตัวเมืองโตเกียวกันบ้างนะครับ นั่นคือ สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport – HND) ซึ่งหลายคนยกให้เป็นสนามบินที่สะดวกสบายสุด ๆ ในการเดินทางเข้า-ออกโตเกียวเลยทีเดียว

เปรียบเทียบสนามบิน นาริตะ VS ฮาเนดะ สำหรับมือใหม่เที่ยวโตเกียว พร้อมข้อมูลการเดินทางเข้าเมือง ที่เที่ยว ที่กิน และแผนเที่ยววันแรก คลิกเลย

สนามบินฮาเนดะเปิดให้บริการมานาน และเพิ่งขยายปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Terminal 3) ทำให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง มี Terminal 1 และ 2 สำหรับเที่ยวบินในประเทศเป็นหลัก และ Terminal 3 สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ บรรยากาศทันสมัย ป้ายบอกทางชัดเจน

  • ใกล้ตัวเมืองโตเกียวมาก : ห่างจากใจกลางโตเกียวแค่ประมาณ 15-20 กิโลเมตร
  • ประหยัดเวลาและค่าเดินทางเข้าเมือง : ใช้เวลาน้อยกว่า (บางทีแค่ 30 นาที) และค่ารถไฟ/รถบัสก็มักจะถูกกว่านาริตะ
  • เหมาะมากถ้าไฟล์ทถึงดึกหรือออกเช้ามืด : ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางนานๆ
  • สะดวกสุดๆ ถ้าจะต่อเครื่องไปเมืองอื่นในญี่ปุ่น : เป็นฮับใหญ่ของเที่ยวบินในประเทศ
  • สิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบินทันสมัยและน่าสนใจ : เช่น โซน Edo Koji (จำลองบรรยากาศยุคเอโดะ) และ Haneda Airport Garden (คอมเพล็กซ์ใหม่ มีโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ออนเซ็น!)
  • ราคาตั๋วเครื่องบินอาจจะสูงกว่าบ้าง : ในบางเส้นทาง/สายการบิน
  • ตัวเลือกเที่ยวบินจากสายการบินราคาประหยัด (Low-Cost) : ระหว่างประเทศอาจจะยังไม่เยอะเท่านาริตะ

ถึงสนามบินฮาเนดะปุ๊บ เดินทางเข้าเมืองง่ายและเร็วมาก! มาดูตัวเลือกหลัก ๆ กันเลย :

เปรียบเทียบสนามบิน นาริตะ VS ฮาเนดะ สำหรับมือใหม่เที่ยวโตเกียว พร้อมข้อมูลการเดินทางเข้าเมือง ที่เที่ยว ที่กิน และแผนเที่ยววันแรก คลิกเลย
  1. รถไฟ Tokyo Monorail (โตเกียว โมโนเรล) :
    • เหมาะกับใคร : คนที่จะไปต่อรถไฟ JR Yamanote Line ที่สถานี Hamamatsucho
    • ราคา (โดยประมาณ) : ประมาณ 500 เยน ไปสถานี Hamamatsucho ราคา ณ พฤษภาคม 2568
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : ประมาณ 13-20 นาที
    • ซื้อตั๋วได้ที่ : ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ หรือใช้บัตร IC Card (Suica/Pasmo)
  2. รถไฟ Keikyu Line (เคคิว ไลน์) :
    • เหมาะกับใคร : คนที่จะไปย่าน Shinagawa หรือต้องการเดินทางตรงเข้าสู่รถไฟใต้ดินสาย Toei Asakusa Line (ไป Asakusa, Ginza, Oshiage)
    • ราคา (โดยประมาณ) : ไปสถานี Shinagawa ประมาณ 330-450 เยน ราคา ณ พฤษภาคม 2568
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : ไปสถานี Shinagawa ประมาณ 12-20 นาที
    • ซื้อตั๋วได้ที่ : ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ หรือใช้บัตร IC Card (Suica/Pasmo)
  3. รถบัส Limousine Bus (ลีมูซีนบัส) :
    • เหมาะกับใคร : คนที่มีสัมภาระเยอะ หรือพักโรงแรมใหญ่ๆ ที่รถบัสมีจุดจอดส่ง
    • ราคา (โดยประมาณ) : ประมาณ 1,000 – 1,500 เยน (ขึ้นอยู่กับปลายทาง) ราคา ณ พฤษภาคม 2568
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : 30-75 นาที หรือมากกว่า (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร)
    • ซื้อตั๋วได้ที่ : เคาน์เตอร์ Limousine Bus ที่โถงผู้โดยสารขาเข้า
  4. รถแท็กซี่ (Taxi) :
    • เหมาะกับใคร : คนที่มาเป็นกลุ่มเล็ก ๆ มีสัมภาระเยอะ หรือต้องการความเป็นส่วนตัว (โดยเฉพาะถ้าถึงดึกมาก)
    • ราคา (โดยประมาณ) : เริ่มต้นประมาณ 6,000 – 10,000 เยน หรือสูงกว่านั้น (มีชาร์จเพิ่มช่วงกลางคืน)
    • เวลาเดินทาง (โดยประมาณ) : 30-60 นาที หรือมากกว่า (ขึ้นอยู่กับการจราจร)

**คำแนะนำเพิ่มเติม : เลือกวิธีเดินทางให้เหมาะกับที่พัก, มีบัตร IC Card (Suica/Pasmo) ติดตัวไว้สะดวกมาก, และเช็คปลายทางรถบัสให้ดีครับ

ใครว่าลงเครื่องแล้วต้องรีบตรงเข้าที่พักอย่างเดียว? ถ้าคุณมาถึงสนามบินฮาเนดะ (HND) แล้วพอมีเวลา หรืออยากจะสัมผัสบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นตั้งแต่ก้าวแรก ๆ ที่นี่มีมุมน่าสนใจให้คุณได้แวะพัก แวะชิม หรือแวะเที่ยวได้เลยนะครับ! ทั้งที่อยู่ในตัวสนามบินเอง หรือนั่งรถต่อไปไม่ไกลก็ถึงแล้ว

teamLab Planets TOKYO DMM เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลที่สร้างสรรค์โดยกลุ่ม teamLab ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก ที่นี่นำเสนอประสบการณ์ “การชมศิลปะด้วยร่างกายทั้งหมด” (Body Immersive) ผู้เข้าชมจะต้องถอดรองเท้า เดินเท้าเปล่า และในบางโซนจะได้ลุยน้ำตื้น ๆ เพื่อสัมผัสกับงานศิลปะแบบอินเทอร์แอคทีฟขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวของเราและผู้คนรอบข้าง เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะ เทคโนโลยี และธรรมชาติได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่เต็มไปด้วยแสงสีและความมหัศจรรย์

  • เวลาทำการ : โดยทั่วไปเปิดให้บริการทุกวัน แต่เวลาเปิด-ปิดอาจแตกต่างกันในแต่ละวันและตามฤดูกาล (เช่น วันธรรมดาอาจเปิด 10:00 – 20:00 น., วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์อาจเปิด 09:00 – 21:00 น.)
  • ค่าเข้าชม : เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องเสียค่าเข้าชม ราคาบัตรอาจมีการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างกันสำหรับผู้ใหญ่, นักเรียน, และเด็กเล็ก แนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ทางการ เพราะตั๋วมักจะขายหมดเร็ว โดยเฉพาะช่วงวันหยุดและฤดูท่องเที่ยว และการซื้อออนไลน์มักจะได้ราคาดีกว่า ผู้ใหญ่ประมาณ 3,800 เยนขึ้นไป
  • เว็บไซต์ : https://www.teamlab.art/e/planets/

teamLab Planets ตั้งอยู่ใกล้กับ สถานี Shin-Toyosu (新豊洲駅) บนสาย Yurikamome Line

  • รถไฟ :
    • เส้นทางที่ 1 (Keikyu Line + Yurikamome Line) :
      1. จากสนามบินฮาเนดะ (ทุก Terminal) นั่งรถไฟสาย Keikyu Line (京急線) มุ่งหน้าเข้าเมือง ไปลงที่ สถานี Shimbashi (新橋駅) (ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที)
      2. ที่สถานี Shimbashi เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Yurikamome Line (ゆりかもめ) ไปลงที่ สถานี Shin-Toyosu (新豊洲駅) (U15) (ใช้เวลาประมาณ 28-30 นาที
    • เส้นทางที่ 2 (Tokyo Monorail + Yurikamome Line) :
      1. จากสนามบินฮาเนดะ (ทุก Terminal) นั่งรถไฟ Tokyo Monorail (東京モノレール) ไปลงที่ สถานี Toyosu (豊洲駅) (ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที)
      2. ที่สถานี Toyosu เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Yurikamome Line (ゆりかもめ) ไปลงที่ สถานี Shin-Toyosu (新豊洲駅) (U15) (ใช้เวลาประมาณ 2 นาที)
    • ค่าโดยสารรวม (โดยประมาณ) : ประมาณ 700 – 850 เยน (ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก)
    • เวลาเดินทางรวม (โดยประมาณ) : 50 – 70 นาที (รวมเวลารอและเปลี่ยนรถไฟ)
    • จากสถานี Shin-Toyosu ไปยัง teamLab Planets : teamLab Planets อยู่ใกล้กับทางออกสถานี Shin-Toyosu มาก (เดินประมาณ 1 นาที)
เปรียบเทียบสนามบิน นาริตะ VS ฮาเนดะ สำหรับมือใหม่เที่ยวโตเกียว พร้อมข้อมูลการเดินทางเข้าเมือง ที่เที่ยว ที่กิน และแผนเที่ยววันแรก คลิกเลย

โอไดบะเป็นเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นขนาดใหญ่ในอ่าวโตเกียว เดิมทีสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันเมืองในสมัยเอโดะ แต่ปัจจุบันได้กลายมาเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์รวมความบันเทิงที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว ที่นี่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น, ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, พิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ, สวนสาธารณะริมทะเล และทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวโตเกียวและสะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge) โดยเฉพาะในช่วงเย็นและค่ำคืนที่แสงไฟจากตึกระฟ้าในเมืองและสะพานจะส่องสว่างอย่างสวยงาม

  • เวลาทำการ : พื้นที่สาธารณะและสวนสาธารณะริมทะเลโอไดบะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ห้างสรรพสินค้า โดยทั่วไปเปิดประมาณ 10:00/11:00 น. – 20:00/21:00 น. (ร้านอาหารอาจปิดดึกกว่านั้น) สถานที่ท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่ง มีเวลาทำการแตกต่างกัน ควรตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการของแต่ละสถานที่อีกครั้ง
  • ค่าเข้าชม : การเดินเล่นในพื้นที่สาธารณะ สวนสาธารณะริมทะเลโอไดบะ และการชมวิวทั่วไป ฟรี! สถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ จุดชมวิวบนอาคาร Fuji TV มีค่าเข้าชม (แตกต่างกันไปในแต่ละสถานที่)
  • เว็บไซต์ : https://www.gotokyo.org/en

สถานีหลักในโอไดบะ เช่น Daiba (台場駅), Odaiba-Kaihinkoen (お台場海浜公園駅) (บนสาย Yurikamome Line) หรือ Tokyo Teleport (東京テレポート駅) (บนสาย Rinkai Line)

  • รถไฟ :
    • เส้นทางที่ 1 (Keikyu Line + Yurikamome Line – ไปโซน Aqua City, Decks, Fuji TV) :
      1. จากสนามบินฮาเนดะ นั่งรถไฟสาย Keikyu Line (京急線) ไปลงที่ สถานี Shimbashi (新橋駅) (ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที)
      2. ที่สถานี Shimbashi เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Yurikamome Line (ゆりかもめ) ข้ามสะพาน Rainbow Bridge ไปลงสถานีต่างๆ ในโอไดบะ เช่น สถานี Odaiba-Kaihinkoen (U06) หรือ สถานี Daiba (U07) (ใช้เวลาจาก Shimbashi ประมาณ 13-15 นาที)
    • เส้นทางที่ 2 (Tokyo Monorail + Rinkai Line – ไปโซน DiverCity, Tokyo Teleport) :
      1. จากสนามบินฮาเนดะ นั่งรถไฟ Tokyo Monorail (東京モノレール) ไปลงที่ สถานี Tennozu Isle (天王洲アイル駅) (ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที)
      2. ที่สถานี Tennozu Isle เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Rinkai Line (りんかい線) ไปลงที่ สถานี Tokyo Teleport (東京テレポート駅) (R04) (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที)
    • ค่าโดยสารรวม (โดยประมาณ) : ประมาณ 650 – 850 เยน (ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก)
    • เวลาเดินทางรวม (โดยประมาณ) : 40 – 60 นาที (รวมเวลารอและเปลี่ยนรถไฟ)
    • จากสถานีรถไฟไปยังจุดต่าง ๆ ในโอไดบะ : สถานีรถไฟต่าง ๆ ในโอไดบะตั้งอยู่กระจายตามจุดท่องเที่ยวสำคัญ สามารถเดินไปยังจุดหมายใกล้เคียงได้
  • บัตร IC Card (Suica/Pasmo) : ช่วยให้การเดินทางด้วยรถไฟสะดวกสบายมาก ไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วทีละเที่ยว
  • ตรวจสอบตารางเวลาและเส้นทาง : ก่อนเดินทาง ควรใช้แอปพลิเคชันวางแผนการเดินทาง เช่น Google Maps หรือ Japan Travel by NAVITIME เพื่อตรวจสอบข้อมูลล่าสุด
  • พิจารณาสัมภาระ : หากมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ การใช้ Limousine Bus อาจจะสะดวกกว่า
  • การเดินทางระหว่าง teamLab Planets และ Odaiba : ทั้งสองแห่งอยู่ในย่านริมอ่าวโตเกียวและค่อนข้างใกล้กัน สามารถเดินทางระหว่างกันได้สะดวกโดยรถไฟสาย Yurikamome Line (เช่น จากสถานี Shin-Toyosu ไปยังสถานี Daiba ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที)

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ลองดูตารางสรุปเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของทั้งสองสนามบินกัน :

สนามบินนาริตะ (NRT)สนามบินฮาเนดะ (HND)
ที่ตั้งและระยะทางจากใจกลางโตเกียวจังหวัดชิบะ (ห่างประมาณ 60-75 กม.)กรุงโตเกียว (ห่างประมาณ 15-20 กม.)
เวลาเดินทางเฉลี่ยเข้าเมืองประมาณ 60 – 90 นาที (หรือมากกว่า)ประมาณ 20 – 45 นาที
ค่าเดินทางเฉลี่ยเข้าเมือง (เที่ยวเดียว)รถไฟ : 1,200 – 3,500 เยน
รถบัส : 1,300 – 3,200 เยน
รถไฟ : 330 – 500 เยน
รถบัส : 1,000 – 1,500 เยน
ความหลากหลายของสายการบินระหว่างประเทศมากกว่า โดยเฉพาะ LCCกำลังเพิ่มขึ้น (LCC อาจน้อยกว่า)
โอกาสเจอค่าตั๋วเครื่องบินถูกกว่าค่อนข้างสูง (มี LCC เยอะ)อาจจะสูงกว่า NRT
ความสะดวกในการต่อเครื่องภายในประเทศน้อยกว่า HNDสะดวกมาก (ฮับหลักเที่ยวบินในประเทศ)
สิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบินครบครัน (T3 สำหรับ LCC)ทันสมัยมาก (Edo Koji, Haneda Airport Garden)
ที่เที่ยว/กิจกรรมใกล้เคียงวัดนาริตะซัน, Shisui Outlets, AEON MallEdo Koji, Haneda Garden, Odaiba, teamLab
เหมาะกับใครเป็นพิเศษเน้นประหยัด, มีเวลา, ชอบตัวเลือกเยอะเน้นสะดวก/เร็ว, ไฟล์ทดึก/เช้า, ต่อเครื่องในประเทศ

อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ คงพอจะมีคำตอบในใจแล้วใช่ไหมว่าจะเลือกสนามบินไหนดี?

  • ทีม “ประหยัดงบตัวจริง” + “มีเวลา ไม่รีบร้อน” + “ชอบตัวเลือกเยอะๆ”: สนามบินนาริตะ (NRT) น่าจะตอบโจทย์ เพราะมีโอกาสเจอ ตั๋วเครื่องบินราคาถูกกว่า จากสายการบิน Low-Cost และมีตัวเลือกสายการบินหลากหลาย
  • ทีม “เน้นสะดวกสบาย” + “อยากถึงใจกลางเมืองไวๆ” + “ไฟล์ทบินถึงดึก/ออกเช้ามืด”: สนามบินฮาเนดะ (HND) คือคำตอบ เพราะใกล้เมือง เดินทางเข้าเมืองเร็วและถูกกว่า เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการเสียเวลาเดินทางนาน ๆ
  • ทีม “ต้องต่อเครื่องไปเมืองอื่นในญี่ปุ่น”: สนามบินฮาเนดะ (HND) ได้เลย สะดวกกว่ามาก
  • ทีม “เดินทางกับเด็กเล็ก หรือ ผู้สูงอายุ”: สนามบินฮาเนดะ (HND) จะช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้ดีกว่า
  • ทีม “อยากเที่ยวรอบสนามบินก่อน/หลัง”: นาริตะ (NRT) มีวัดนาริตะซันและเอาท์เล็ต ส่วน ฮาเนดะ (HND) มี Haneda Airport Garden และเดินทางไปโอไดบะง่าย

ไม่มีสนามบินไหนดีที่สุดสำหรับเพื่อน ๆ สนามบินที่ “ใช่” ที่สุดคือสนามบินที่ตอบโจทย์แผนการเดินทาง งบประมาณ และความชอบส่วนตัวของเพื่อน ๆ มากที่สุด ขอให้เพื่อน ๆ เลือกสนามบินที่ถูกใจ และเริ่มต้นทริปโตเกียวของเพื่อน ๆ อย่างมีความสุขนะ!

  • ถาม : “นาริตะ VS ฮาเนดะ” เลือกอันไหนดี?
    • ตอบ : ฮาเนดะ เหมาะถ้าเน้นสะดวกสบาย เดินทางเข้าเมืองไว ประหยัดค่าเดินทางเข้าเมือง หรือต่อเครื่องในประเทศ นาริตะ เหมาะถ้าเน้นตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด (โดยเฉพาะ LCC) มีตัวเลือกสายการบินเยอะ และไม่รีบร้อนเรื่องเดินทางเข้าเมือง
  • ถาม : สนามบินไหนเดินทางเข้าโตเกียวเร็วกว่าและถูกกว่า?
    • ตอบ : โดยทั่วไปสนามบินฮาเนดะ จะเร็วกว่า (ประมาณ 20-45 นาที) และถูกกว่า (เริ่มต้นประมาณ 330-500 เยนสำหรับรถไฟ)
  • ถาม : ถ้ามีกระเป๋าเดินทางเยอะมาก ควรลงสนามบินไหน?
    • ตอบ : ทั้งสองสนามบินมี Limousine Bus ส่งถึงโรงแรมได้ แต่ ฮาเนดะ อาจเหนื่อยน้อยกว่าเพราะใกล้เมืองกว่า ลองเช็คเส้นทางรถบัสดู
  • ถาม : เครื่องบินถึงโตเกียวดึกมาก ควรเลือกสนามบินไหน?
    • ตอบ : สนามบินฮาเนดะ มักจะดีกว่า เพราะใกล้เมือง ทำให้มีโอกาสทันรถรอบท้าย ๆ หรือค่าแท็กซี่ถูกกว่า
  • ถาม : ซื้อ SIM Card หรือเช่า Pocket WiFi ที่สนามบินได้ไหม?
    • ตอบ : ได้ ทั้งสองสนามบินมีเคาน์เตอร์บริการมากมายบริเวณโถงผู้โดยสารขาเข้า
  • ถาม : มีที่แลกเงินในสนามบินทั้งสองแห่งไหม?
    • ตอบ : มี ทั้งสองสนามบินมีเคาน์เตอร์รับแลกเงินและตู้ ATM (แต่อัตราแลกอาจไม่ดีเท่าแลกจากไทยหรือในตัวเมือง)
  • ถาม : รอบ ๆ สนามบินนาริตะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้างนอกจากวัด?
    • ตอบ : มี Shisui Premium Outlets และ AEON Mall Narita สำหรับช้อปปิ้ง
  • ถาม : Haneda Airport Garden มีอะไรเด่นๆ?
    • ตอบ : มีร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และ “Izumi Tenku no Yu Haneda Airport” ออนเซ็นธรรมชาติ 24 ชั่วโมงพร้อมวิวเครื่องบิน

หวังว่าบทความนี้จะเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิด ที่ช่วยให้เพื่อน ๆ ตอบคำถามในใจได้แล้วว่า “ไปโตเกียว ลงสนามบินไหนดี?” ที่จะ “ใช่” และ “ลงตัว” กับสไตล์การเดินทาง, งบประมาณ, และแผนการท่องเที่ยวของเพื่อน ๆ มากที่สุดนะ อย่าลืมว่าไม่มีสนามบินไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนเสมอไป “สนามบินนาริตะ (NRT)” อาจจะโดดเด่นเรื่องตัวเลือกสายการบินที่หลากหลาย โดยเฉพาะสายการบินราคาประหยัด ในขณะที่ “สนามบินฮาเนดะ (HND)” ก็มอบความสะดวกสบายขั้นสุดด้วยระยะทางที่ใกล้ใจกลางเมือง

สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกสนามบินที่ทำให้เพื่อน ๆ เริ่มต้นทริปโตเกียวได้อย่างราบรื่นและมีความสุข ลองชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย พิจารณาราคาตั๋วเครื่องบินในช่วงที่คุณจะเดินทาง ดูความสะดวกในการเดินทางไปยังที่พักของเพื่อน ๆ และที่สำคัญคือเลือกในแบบที่คุณรู้สึกสบายใจที่สุด เมื่อเลือกสนามบินได้แล้ว ก็อย่าลืมเตรียมตัวในเรื่องอื่น ๆ ด้วยนะไม่ว่าจะเป็นการจองที่พัก, การวางแผนการเดินทางคร่าว ๆ, การเตรียมเอกสารสำคัญ, การแลกเงินเยน, และอินเทอร์เน็ต (Pocket WiFi/SIM Card) รวมถึงบัตรเติมเงินสำหรับเดินทางในญี่ปุ่นอย่าง Suica หรือ Pasmo ด้วยนะ

โตเกียวยังมีอะไรน่าค้นหาอีกมากมายรอเพื่อน ๆ อยู่ ขอให้การเดินทางไปโตเกียวของเพื่อน ๆ ในครั้งนี้ เป็นทริปที่สนุกสนาน เต็มไปด้วยประสบการณ์ดี ๆ และสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจไม่รู้ลืมนะ! ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเลือกเริ่มต้นการผจญภัยที่นาริตะหรือฮาเนดะ ขอให้เที่ยวให้สนุก!

อ่านข้อมูลทั้งหมดนี้แล้วรู้สึกว่าอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นขึ้นมาทันทีเลยใช่ไหม? แต่ถ้าเพิื่อน ๆ เป็นคนหนึ่งที่ :

  • ยังรู้สึกกังวลกับการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองครั้งแรก
  • มีเวลาน้อย แต่อยากเที่ยวให้คุ้มค่าที่สุด ไม่อยากเสียเวลาลองผิดลองถูก
  • อยากได้ทริปที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
  • มองหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่รู้จักญี่ปุ่นจริง ๆ

“Trip Japan Online” พร้อมเป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการทำให้ทริปญี่ปุ่นในฝันของเพื่อน ๆ เป็นจริงได้อย่างง่ายดายและน่าประทับใจ!

เปรียบเทียบสนามบิน นาริตะ VS ฮาเนดะ สำหรับมือใหม่เที่ยวโตเกียว พร้อมข้อมูลการเดินทางเข้าเมือง ที่เที่ยว ที่กิน และแผนเที่ยววันแรก คลิกเลย

เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ กับแพลนท่องเที่ยวในสไตล์เพื่อน ๆ! ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะอยากไปลุยเดี่ยว ชวนเพื่อนไปมันส์ หรือพาครอบครัวไปสร้างความทรงจำดี ๆ เราช่วยคุณกำหนดแผนการเดินทาง เลือกที่เที่ยว ที่พัก ร้านอาหารอร่อย ๆ ที่ตรงใจคุณที่สุดได้ สำหรับใครที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก หรืออยากได้คนช่วยดูแลให้ทริปเป๊ะปังยิ่งขึ้น ก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะเรามีไกด์คนไทยที่อาศัยและคลุกคลีอยู่ในญี่ปุ่นมานานกว่า 10 ปี คอยให้บริการ :

  • ช่วยวางแพลนการเดินทางส่วนตัวที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
  • แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ร้านอาหารเด็ด แหล่งช้อปปิ้งโดนใจ
  • จัดเส้นทางการท่องเที่ยวให้คุ้มค่า คุ้มเวลา เดินทางสะดวก
  • พร้อมให้คำปรึกษาและสร้างความประทับใจตลอดทริป

รับรองว่าเพื่อน ๆ จะได้รับประสบการณ์การเที่ยวญี่ปุ่นที่สนุก สะดวกสบาย และอยากกลับไปเที่ยวซ้ำอีกแน่นอน!

ฮอกไกโดซัมเมอร์ ปี 2025 สวรรค์ทุ่งดอกไม้บาน พร้อมแนะนำที่กินอร่อย ที่เที่ยวสวย กิจกรรมสนุกสุดฟินใน ฮอกไกโดหน้าร้อน ห้ามพลาดอัปเดตล่าสุด

“ให้การเที่ยวญี่ปุ่นของเพื่อน ๆ เป็นเรื่องง่าย และพิเศษกว่าที่เคย ด้วยการจัดแพลนท่องเที่ยวกับเรา Trip Japan Online”