เคยฝันถึงการเดินท่ามกลางความอลังการของธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยกำแพงหิมะสูงเสียดฟ้าบ้างไหม? ถ้าคำตอบคือ “ใช่” นั่นหมายความว่าเพื่อน ๆ กำลังจินตนาการถึงการเดินทางสู่ “กำแพงหิมะ” หรือ Tateyama Kurobe Alpine Route ในประเทศญี่ปุ่น! นี่คือหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นประสบการณ์ที่เพื่อน ๆ ไม่ควรพลาดเมื่อมาญี่ปุ่น แต่เพื่อน ๆ หลายคนอาจคิดว่าการจะไปสัมผัสด้วยตัวเองนั้นเป็นเรื่องยาก ต้องไปกับทัวร์เท่านั้น บทความนี้จะบอกเพื่อน ๆ ว่า “เพื่อน ๆ คิดผิดแล้ว!” เราจะมาให้ความรู้ทุกขั้นตอน ให้เพื่อน ๆ สามารถ “เที่ยว Japan Alps ด้วยตัวเอง” ได้อย่างมั่นใจ ตั้งแต่การวางแผนการเดินทางว่าจะไปกำแพงหิมะเดือนไหนถึงจะปังที่สุด? ไปจนถึงคำแนะนำแบบ Step by Step เดินทางยังไง? ให้ถึงจุดหมาย พร้อมข้อมูลอัปเดตสำหรับ ปี 2025 ทั้งหมดนี้จะช่วยให้การเดินทางในฝันของเพื่อน ๆ เป็นจริงได้อย่างง่ายดาย
ก่อนที่เราจะไปรู้ถึงวิธีการเดินทางไป “กำแพงหิมะ” เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเส้นทางนี้ คืออะไร และทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของการ “เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง” ที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝันถึง
กำแพงหิมะ Japan Alps คืออะไร?

กำแพงหิมะ Japan Alps หรือเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine Route ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกว่า “Alpen” นั้น ไม่ใช่แค่ถนนธรรมดา แต่เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าทึ่งซึ่งตัดผ่านภูเขาทาเทยาม่า (Mt. Tateyama) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,400 เมตร! ตลอดเส้นทาง เพื่อน ๆ จะได้พบกับทัศนียภาพอันตระการตาของหุบเขาที่สลับซับซ้อน ทะเลสาบสีคราม และเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอย่างเขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) แต่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้เดินทางมายังที่แห่งนี้ก็คือปรากฏการณ์อันน่าเหลือเชื่อของ “กำแพงหิมะ” (Snow Wall หรือ Yuki-no-Otani) ที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
การเดินทางใน “กำแพงหิมะ Japan Alps“
สิ่งที่ทำให้การเดินทางใน Japan Alps แตกต่างจากการท่องเที่ยวภูเขาทั่วไปคือ เพื่อน ๆ ไม่สามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวขับผ่านได้ตลอดทั้งเส้นทาง แต่จะต้องเปลี่ยนยานพาหนะถึง 8 ครั้ง! การเดินทางนี้เปรียบเสมือนการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น เพราะเพื่อน ๆ จะได้สัมผัสประสบการณ์การโดยสารที่หลากหลายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ, รถรางไฟฟ้า, รถบัส, ไปจนถึงกระเช้าไฟฟ้าที่ลอยอยู่กลางอากาศ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะนำส่งเพื่อน ๆ ไปยังจุดหมาย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์อันน่าจดจำที่จะพาเพื่อน ๆ ไปสู่ความงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง
ช่วงเวลาเปิด-ปิด “กำแพงหิมะ Japan Alps“
การวางแผนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเดินทางมายัง “กำแพงหิมะ” เพราะเส้นทางนี้ไม่ได้เปิดตลอดทั้งปี โดยปกติแล้ว เส้นทางเจแปนแอลป์จะเปิดให้บริการเต็มเส้นทางตั้งแต่ประมาณกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และจะมีการปิดเส้นทางในช่วงฤดูหนาว ซึ่งกินระยะเวลาประมาณเดือนธันวาคมไปจนถึงต้นเดือนเมษายน เนื่องจากมีหิมะตกทับถมเป็นปริมาณมหาศาล ทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
สำหรับผู้ที่วางแผนจะมาเที่ยว Japan Alps ด้วยตัวเอง ปี 2025 ตารางการเปิดเต็มเส้นทาง (Dentetsu Toyama – Shinano Omachi) ก็มีการประกาศล่วงหน้าดังนี้ :
- 2025 : 15 เมษายน – 30 พฤศจิกายน 2025
- 2024 : 15 เมษายน – 30 พฤศจิกายน 2024
- 2023 : 15 เมษายน – 30 พฤศจิกายน 2023
- 2022 : 15 เมษายน – 30 พฤศจิกายน 2022
**หมายเหตุ : ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Alpen Route (alpen-route.com) และอาจมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางบางส่วนได้ในอนาคต เช่นที่เคยมีการปรับปรุงในปี 2022
“กำแพงหิมะ Japan Alps” ไปเดือนไหนดี?
หัวใจสำคัญของการมาเยือน Tateyama Kurobe Alpine Route คือการได้สัมผัสกับ “กำแพงหิมะ” อันยิ่งใหญ่ ซึ่งปรากฏการณ์นี้สามารถชมได้เพียงช่วงสั้น ๆ เท่านั้น การเลือกเดือนที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสบการณ์การเดินทางของเพื่อน ๆ ในปี 2025

กลางเมษายน – ต้นพฤษภาคม : ช่วงเวลาแห่งความสูงที่สุดของกำแพงหิมะ
นี่คือช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมสูงสุด และเป็นช่วงที่เพื่อน ๆ จะได้เห็น “กำแพงหิมะ” ในสภาพที่อลังการที่สุด!
- ข้อดี :
- กำแพงหิมะสูงที่สุด : ในช่วงนี้ กำแพงหิมะที่จุด “Yuki-no-Otani” หรือ Great Snow Walls บริเวณ Murodo จะมีความสูงถึงขีดสุด บางปีอาจสูงทะลุ 15-20 เมตรเลยทีเดียว หิมะยังคงขาวบริสุทธิ์และดูยิ่งใหญ่ตระการตามาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความยิ่งใหญ่ของหิมะอย่างเต็มที่
- วิวสุดอลังการ : ทัศนียภาพของหิมะที่ปกคลุมภูเขาเป็นสีขาวโพลนตัดกับท้องฟ้าสีครามเป็นภาพที่คุณจะไม่มีวันลืม
- ข้อเสีย :
- นักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุด : เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดยาว Golden Week (ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม) นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติจะหลั่งไหลเข้ามาอย่างมหาศาล ทำให้คุณอาจต้องเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางและการรอคิวขึ้นพาหนะแต่ละชนิด
- อากาศยังคงหนาวจัด : แม้จะเป็นฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่อุณหภูมิบนภูเขาสูงยังคงต่ำมาก มีลมแรง และอาจมีหิมะตกปรอยๆ ได้ คุณต้องเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวอย่างดีเยี่ยม
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการเห็นกำแพงหิมะในสภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด และไม่หวั่นกับการเจอผู้คนจำนวนมาก
ปลายพฤษภาคม – กลางมิถุนายน : สัมผัสความงามที่ผ่อนคลายขึ้น
หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงฝูงชน แต่ยังคงต้องการชมความงามของ “กำแพงหิมะ” ช่วงนี้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม
- ข้อดี :
- กำแพงหิมะยังคงสูงและสวยงาม : แม้ความสูงของกำแพงหิมะจะค่อย ๆ ลดลงเล็กน้อยจากการละลาย แต่ก็ยังคงน่าประทับใจและสูงพอที่จะสร้างความประทับใจได้
- นักท่องเที่ยวเบาบางลง : จำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพ้นช่วง Golden Week ทำให้คุณสามารถเดินทางได้อย่างสบายใจขึ้น ไม่ต้องเร่งรีบมากนัก
- อากาศอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย : อุณหภูมิโดยรวมจะสูงขึ้นเล็กน้อย ทำให้การเดินเที่ยวสะดวกสบายกว่าช่วงเมษายน
- ข้อเสีย :
- หิมะเริ่มละลายลงบ้าง ทำให้บางส่วนอาจดูไม่ขาวบริสุทธิ์เท่าช่วงพีคสุด
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการชมกำแพงหิมะในบรรยากาศที่ผ่อนคลายขึ้น ไม่เร่งรีบมากนัก และยังคงสัมผัสความยิ่งใหญ่ของกำแพงหิมะได้
หลังกลางมิถุนายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน : สัมผัสธรรมชาติ Japan Alps ในฤดูอื่น ๆ
ในช่วงนี้ ปรากฏการณ์ “กำแพงหิมะ” ที่สูงตระหง่านได้สิ้นสุดลงแล้ว เนื่องจากหิมะละลายไปเกือบหมด แต่เส้นทาง Japan Alps ก็ยังคงมีความงดงามในรูปแบบอื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
- ข้อดี :
- ชมธรรมชาติในฤดูอื่น : เพื่อน ๆ จะได้เห็นความงามของเทือกเขาแอลป์ในฤดูร้อนที่เขียวขจี หรือฤดูใบไม้ร่วงที่ต้นไม้เปลี่ยนสีเป็นสีส้มแดงทองอร่ามตา (โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนกันยายนถึงตุลาคม) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาพที่สวยงามไม่แพ้หิมะ
- นักท่องเที่ยวน้อยลงมาก : เส้นทางจะเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบและดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
- ข้อเสีย :
- ไม่สามารถชมปรากฏการณ์ “กำแพงหิมะ” ที่เป็นไฮไลต์หลักได้แล้ว
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่สนใจธรรมชาติของเทือกเขาแอลป์ในฤดูอื่น ๆ และต้องการความสงบในการเดินทาง
เริ่มต้นการเดินทางไป “กำแพงหิมะ Japan Alps“
เส้นทางเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine Route นั้นมีความพิเศษตรงที่เพื่อน ๆ สามารถเริ่มต้นและสิ้นสุดการเดินทางได้จาก 2 ฝั่งหลัก ๆ ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางก่อนหน้าและหลังจากเที่ยว “กำแพงหิมะ” ของคุณว่าจะเดินทางมาจากเมืองไหน หรือจะไปต่อที่ไหนหลังจากจบทริป

เพื่อน ๆ สามารถเลือกที่จะเที่ยวเต็มที่โดยขึ้นจากฝั่งหนึ่งแล้วไปลงอีกฝั่ง หรือจะเลือกไปและกลับจากฝั่งเดิม ก็ได้เช่นกัน
ฝั่ง Toyama สู่ Japan Alps
การเริ่มต้นจาก “ฝั่งโทยามะ (Toyama)” โดยมีสถานี Dentetsu Toyama เป็นจุดเริ่มต้น ถือเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ด้วยเหตุผลหลักคือความสะดวกสบายในการเดินทางมาจากเมืองใหญ่ต่าง ๆ ของญี่ปุ่น
- จาก Kanazawa : ถือเป็นเมืองที่ใกล้ที่สุด! คุณสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นเพียง 20-30 นาที ก็จะถึงสถานี Toyama ซึ่งอยู่ติดกับสถานี Dentetsu Toyama ที่เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทาง Alpine Route ได้เลย
- จาก Osaka : หากคุณเริ่มเดินทางจากโอซาก้า สามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นจาก Shin-Osaka ไปลง Kanazawa แล้วต่อชินคันเซ็นอีกเพียงไม่กี่นาทีไปยัง Toyama ใช้เวลารวมประมาณ 3-4 ชั่วโมง
- จาก Nagoya : คุณมีสองทางเลือกหลักๆ คือ นั่งชินคันเซ็นไปลง Kanazawa แล้วต่อไป Toyama หรือใช้เส้นทางรถไฟ JR Limited Express (Wide View Hida) ที่วิ่งตรงจาก Nagoya ไปยัง Toyama ได้เลย ซึ่งสะดวกสบายมาก
**ข้อสังเกต : การเริ่มต้นจาก ฝั่ง Toyama เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากเส้นทางจากฝั่งนี้เดินทางเข้าถึงง่าย และเชื่อกันว่าวิวทิวทัศน์ที่ได้พบเห็นตลอดเส้นทางจาก Toyama ไปยัง Murodo นั้นสวยงามตระการตาไม่แพ้กัน
ฝั่ง Nagano สู่ Japan Alps
สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะเริ่มต้นการเดินทางจาก “กรุงโตเกียว” หรือเมืองที่มีชื่อเสียงอย่าง “มัตสึโมโต้ (Matsumoto)” การเริ่มต้นจาก “ฝั่งนากาโน่ (Nagano)” โดยมีสถานี Shinano-Omachi เป็นจุดเริ่มต้น จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
- จาก Tokyo : คุณสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวไปยังสถานี Nagano ได้โดยใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถไฟ JR Oito Line ไปยังสถานี Shinano-Omachi ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- จาก Matsumoto : หากคุณมีแผนเที่ยวชมเมืองมัตสึโมโต้และปราสาทมัตสึโมโต้ก่อน การเดินทางไปยัง Shinano-Omachi ก็ทำได้ง่าย ๆ โดยนั่งรถไฟ JR Oito Line ตรงจากมัตสึโมโต้ไปได้เลย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
**ข้อสังเกต : ฝั่ง Nagano เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเที่ยวจากโตเกียว หรือต้องการแวะเที่ยวมัตสึโมโต้ และเยี่ยมชมปราสาทมัตสึโมโต้ที่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของญี่ปุ่นไปพร้อมกัน
ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเลือกเริ่มต้นจากฝั่งไหน สิ่งสำคัญคือการวางแผนการเดินทางล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงพีค เพื่อให้มั่นใจว่าการเดินทางสู่ “กำแพงหิมะ” ของเพื่อน ๆ จะเป็นไปอย่างราบรื่นและน่าประทับใจที่สุดสำหรับ ปี 2025 นี้
วิธีไป “กำแพงหิมะ Japan Alps” แบบ Step by Step!
เมื่อคุณได้เลือกฝั่งที่จะเริ่มต้นและทำความเข้าใจภาพรวมของเส้นทางแล้ว ต่อไปเราจะมาลงรายละเอียดแบบ Step by Step เพื่อให้คุณสามารถเดินทางไป Japan Alps ด้วยตัวเอง ได้อย่างมั่นใจ ตั้งแต่การจองตั๋วไปจนถึงการเดินทางจริงในวันสำคัญ
Step 1 : วางแผนเลือกวันเดินทาง
การเลือกวันที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสู่ประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการชม “กำแพงหิมะ“

- เช็ควันเปิดเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เส้นทางโดยรวมเปิดตั้งแต่กลางเมษายนถึงปลายพฤศจิกายน แต่ช่วงที่เพื่อน ๆ จะเจอกำแพงหิมะสูง ๆ จะอยู่ระหว่างกลางเมษายน – กลางมิถุนายน เพื่อน ๆ สามารถตรวจสอบข้อมูลล่าสุด จากเว็บไซต์ทางการ http://www.alpen-route.com/th/
- เลือกวันธรรมดา เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนจำนวนมหาศาลและสามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมกำแพงหิมะได้อย่างเต็มที่ เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในวันเสาร์-อาทิตย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวันหยุดยาว Golden Week (ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม) หากเพื่อน ๆ ต้องเดินทางในช่วงวันหยุดเหล่านี้จริง ๆ ควรจองทุกอย่างล่วงหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
Step 2 : จองตั๋วเส้นทาง Alpine Route ล่วงหน้า

ขั้นตอนนี้จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากคุณเดินทางในช่วงพีคของการชมกำแพงหิมะ การจองตั๋วข้ามเส้นทางล่วงหน้าจะช่วยให้คุณมั่นใจว่ามีที่นั่งบนพาหนะต่าง ๆ และยังประหยัดเวลาในการต่อคิวซื้อตั๋วได้มาก
- ช่องทางจอง : คุณสามารถจองตั๋วออนไลน์ได้อย่างสะดวกผ่านเว็บไซต์ทางการของ Alpen Route Official
- สิ่งที่จะได้ : หลังจากจองและชำระเงินเรียบร้อย จะได้รับบาร์โค้ดหรือ QR Code สำหรับนำไปสแกนรับบัตรจริงที่สถานีต้นทางในวันเดินทาง
Step 3 : จองรถไฟหรือพาสเพื่อเดินทางไปยังจุดเริ่มต้น

เมื่อมีตั๋วเส้นทาง Alpine Route แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเดินทางจากเมืองที่คุณพักไปยังจุดเริ่มต้นของเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง Toyama หรือ Nagano
- จากเมืองหลัก ๆ อย่าง Tokyo, Kanazawa, Osaka, หรือ Nagoya สามารถนั่งรถไฟ Shinkansen (รถไฟหัวกระสุน) ที่สะดวกสบายและรวดเร็ว มาลงที่สถานี Toyama
- จาก Tokyo : นั่งรถไฟ Shinkansen มาลงสถานี Nagano แล้วต่อรถไฟ JR Oito Line ไปยังสถานี Shinano-Omachi
- จาก Matsumoto นั่งรถไฟ JR Oito Line ตรงไปยัง Shinano-Omachi ได้เลย
- พาสรถไฟที่ช่วยประหยัดค่าเดินทาง (สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ) : พิจารณาใช้ JR Pass หรือ Hokuriku Arch Pass หากแผนการเดินทางของเพื่อน ๆ ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางและมีการเดินทางด้วยรถไฟ JR บ่อยครั้ง พาสเหล่านี้จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้อย่างมาก
- พาส Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass :
- นี่คือพาสที่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับทริปนี้! ราคา (อ้างอิงปี 2025) : ผู้ใหญ่ 23,800 เยน, เด็ก 11,900 เยน
- ความคุ้มค่า : พาสนี้ครอบคลุมการเดินทางตั้งแต่การเดินทางมาจากสถานี Nagoya ในจังหวัดไอจิ มาที่สถานี Toyama ผ่านเส้นทางเจแปนแอลป์ไปสถานี Matsumoto ในจังหวัดนากาโน่ และวนกลับมาที่สถานี Nagoya โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ใช้งานได้ถึง 5 วันติดต่อกันเลยทีเดียว
- ข้อควรทราบ : พาสนี้มีการจำกัดช่วงเวลาในการจำหน่าย และผู้ที่ใช้พาสนี้ไม่สามารถจองตั๋ว Alpine Route ออนไลน์ได้ คุณจะต้องนำพาสไปแลกเป็นตั๋วจริงที่สถานีต้นทางตามที่พาสนั้นกำหนดไว้
- พาส Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass :
Step 4 : เดินทางในวันจริงสู่ “กำแพงหิมะ” (รีวิวแบบ Step by Step)
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มต้นการผจญภัยสู่กำแพงหิมะกันเลย! เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นภาพชัดเจน เราจะอธิบายขั้นตอนการเดินทางตามเส้นทาง เหมือนเพื่อน ๆ กำลังเดินอยู่กับเราเลย

- ไปถึงสถานีเริ่มต้นก่อนเวลา :
- การเริ่มต้นให้เช้าที่สุดเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อหลีกเลี่ยงผู้คนจำนวนมาก และมีเวลาเพียงพอในการเที่ยวชม
- หากเพื่อน ๆ เริ่มจากฝั่ง Toyama รถไฟรอบแรกจากสถานี Dentetsu Toyama อาจออกตั้งแต่เวลา 5:28 น. เพื่อน ๆ ควรไปถึงสถานีตั้งแต่ประมาณตี 5 เพื่อต่อแถวรอขึ้นรถไฟ
- รับบัตรจริง :
- เมื่อไปถึงสถานีต้นทาง ให้นำ QR Code ที่คุณจองออนไลน์ไว้ไปสแกนรับบัตรจริงที่เคาน์เตอร์ได้เลย
- รับโบร์ชัวร์และเช็คตารางเวลา :
- ที่สถานีจะมีโบร์ชัวร์พร้อมตารางเวลาเดินรถของพาหนะต่างๆ บนเส้นทางแอลป์ให้หยิบ คุณควรหยิบติดมือไว้เพื่อดูเวลาและวางแผนการเปลี่ยนพาหนะให้ดี หรือจะเช็คตารางเวลาล่าสุดได้จากเว็บไซต์ alpen-route.com ระหว่างที่เที่ยว ควรคอยดูรอบรถไว้ด้วย เพื่อจะได้ไปรอเข้าแถวขึ้นได้ทันเวลา
- พาหนะที่ 1 : Toyama Chiho Railroad (จาก Dentetsu Toyama – Tateyama : 52 นาที)
- เราจะเริ่มต้นจากสถานี Dentetsu Toyama ด้วยรถไฟสาย Toyama Chiho Railroad ใช้เวลาประมาณ 50 กว่านาทีก็มาถึงสถานี Tateyama ตอนประมาณ 6:20 น.
- เติมพลัง : ตอนเช้าตรู่ ร้านอาหารตรงสถานียังไม่เปิด คุณสามารถเตรียมขนมปังหรือขนมติดตัวไว้เติมพลังระหว่างทางได้
- วิวระหว่างทาง : ระหว่างนั่งรถไฟมาสถานี Tateyama เพื่อน ๆ จะเริ่มสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกของอากาศ และวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่เริ่มปรากฏให้เห็น
- การแลกพาสที่สถานี Tateyama :
- เมื่อมาถึงสถานี Tateyama ซึ่งอยู่ที่ความสูง 475 เมตร คุณจะต้องนำพาสหรือ QR Code ไปแลกเป็นตั๋วจริงสำหรับเส้นทางเจแปนแอลป์ที่บริเวณด้านหน้าสถานี
- ทริคสำคัญ : หากคุณไม่อยากต่อแถวยาว ๆ แนะนำว่าให้นั่งรถไฟขบวนหน้าสุด พอถึงสถานี Tateyama ให้รีบลงมาจากรถไฟแล้วออกมาหน้าสถานีเลย จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก!
- คุณจะได้บาร์โค้ดพร้อมจองเวลาขึ้น Tateyama Cable Car และเจ้าหน้าที่จะให้คู่มือเป็นภาษาของคุณด้วย
- อุปกรณ์กันหนาว : หากเตรียมมาไม่พร้อม ที่ร้านขายของฝากบนนี้ก็มีอุปกรณ์กันหนาวให้เลือกเยอะเลยค่ะ ส่วนของกินและตู้กดน้ำก็มีขายทุกสถานี แต่ราคาจะแพงกว่าปกตินิดหน่อย
- พาหนะที่ 2 : Tateyama Cable Car (จาก Tateyama – Bijodaira : 7 นาที)
- หลังจากแลกตั๋วแล้ว คุณจะต้องมาเข้าแถวขึ้น Tateyama Cable Car ก่อนถึงเวลาที่ระบุในตั๋วประมาณ 10 นาที เพื่อขึ้นไปยังที่ราบ Bijodaira บนความสูง 977 เมตร ใช้เวลานั่งรถประมาณ 7 นาที
- วิวระหว่างทาง : วิวจากรถกระเช้าช่วงนี้ยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่หากต้องการชมวิวภายนอกก็ควรหาที่นั่งริมกระจก
- พาหนะที่ 3 : Tateyama Highland Bus (จาก Bijodaira – Murodo : 50 นาที)
- จาก Bijodaira ก็มาต่อที่รถบัส Tateyama Highland Bus เพื่อขึ้นไปจนถึงสถานี Murodo เราได้ขึ้นตอนประมาณ 7:30 น. ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ตรงนี้ไม่ต้องจองที่นั่ง ถ้าเต็มก็ต้องต่อแถวรอรอบต่อไป
- วิวระหว่างทาง : ระหว่างนั่งรถบัส จะเริ่มมีวิวกำแพงหิมะเตี้ย ๆ และวิวภูเขาให้ชมมากขึ้น มีวิดีโอบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางนี้และจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ
- ข้อควรระวัง : ถนนค่อนข้างคดเคี้ยว อาจทำให้เวียนหัวได้ ใครที่เมารถควรทานยาไปเผื่อก็ดี

- ถึง Murodo (หัวใจของ Japan Alps) :
- สถานี Murodo ตั้งอยู่ที่ความสูง 2,450 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของเส้นทางเจแปนแอลป์แล้ว และแน่นอนว่านี่คือที่ตั้งของ กำแพงหิมะ Tateyama “Yuki-no-Otani” Snow Wall อันเลื่องชื่อ
- ภายในสถานี : มีทางขึ้นจุดชมวิวด้านบน และทางเดินสำหรับชมกำแพงหิมะ ซึ่งปกติจะเปิดให้เดินชมช่วงเวลา 9:30 – 15:15 น.
- วิวจากระเบียงด้านบน : เมื่อขึ้นไปชมวิวด้านบน คุณจะพบกับลานหิมะกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งขอบอกว่า หนาวมาก และมีลมพัดกันหน้าชา เสื้อกันหนาว ลองจอน ฮีทเทค ถุงมือ ผ้าพันคอจัดมาเต็มได้ใช้แน่ ๆ บางช่วงก็อาจมีหิมะตกลงมา ทำให้เวลาถ่ายรูปจะได้ภาพที่มีละอองหิมะฟรุ้งฟริ้งสวยงาม
- สภาพพื้น : ทางเดินเต็มไปด้วยหิมะและค่อนข้างลื่นมาก (มีคนลื่นให้เห็นตลอด) ขนาดคนที่มีไม้ค้ำยังลื่นเลย พยายามเดินตรงที่หิมะยังไม่แข็งมาก และควรใช้รองเท้าที่มีดอกยางเยอะๆ หรือถ้าเป็นรองเท้าผ้าใบก็ควรพ่นสเปรย์กันน้ำไว้ด้วย
- ทริค : หากมากันเป็นคู่ ให้เดินเกี่ยวแขนกันไว้ค่ะ อีกคนลื่นหรือเซ ก็ยังมีอีกคนพยุงไว้ได้ (วิธีนี้ได้ผลดีเลยค่ะ)
- แสงสะท้อน : เมื่อเข้ามาในอาคาร คุณอาจรู้สึกหน้ามืดได้หากไม่ได้ใส่แว่นกันแดด เพราะแสงแดดที่สะท้อนกับหิมะจะแรงมาก แนะนำว่าไม่ว่าจะแดดจ้าหรือไม่ ก็ควรใส่ “แว่นกันแดด” ดีที่สุด
- ความสูงของกำแพงหิมะ : วันที่คุณมาท่องเที่ยว กำแพงหิมะสูงสุดอาจอยู่ที่ 19 เมตร
- สภาพอากาศ : การมาท่องเที่ยวบนเขาสูงแบบนี้ส่วนหนึ่งต้องพกดวงมาด้วยค่ะ บางวันถ้าอากาศไม่ดี อาจมีการปิดเส้นทางบางส่วนได้ ก่อนมาควรเช็คพยากรณ์อากาศล่วงหน้า แต่จะให้แม่นจริงๆ คือล่วงหน้าแค่วันเดียว เพราะอากาศมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ตลอด
- โรงแรม Hotel Tateyama : โรงแรมนี้อยู่ติดกับสถานี Murodo เลย คนนิยมมาค้างที่นี่เพราะสามารถมาเดินตรงกำแพงหิมะหลังเวลาปิดได้ด้วย ทำให้คนไม่เยอะเหมือนตอนกลางวัน แต่ราคาค่อนข้างสูง และช่วงพีคจะจองเต็มเกือบทุกวัน
กำแพงหิมะที่เจแปนแอลป์นี้จะเปิดเป็นทางเดินยาวไปตามถนนประมาณ 500 เมตร โดยมีแค่ช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลาย ๆ เดือนมิถุนายนเท่านั้น ในช่วงหน้าหนาว เส้นทางจะปิดเพราะมีหิมะตกทับถมกันมาก การเคลียร์เส้นทางใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน ด้วยรถขุดรถตักซึ่งนำทางโดย GPS (คนญี่ปุ่นช่างคิดจริงๆ!)
- พาหนะที่ 4 : Tateyama Tunnel Trolley Bus (จาก Murodo – Daikanbo : 10 นาที)
- หลังจากดื่มด่ำกับกำแพงหิมะที่ Murodo แล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางต่อไปยังสถานี Daikanbo ด้วย Tateyama Tunnell Trolley Bus ซึ่งเป็นรถบัสพลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- เราจะนั่งรถบัสลอดอุโมงค์ทะลุเขาทาเทยาม่าไปยังอีกฝั่ง ใช้เวลานั่งรถประมาณ 10 นาที
- หากคุณจะมาเที่ยวแค่กำแพงหิมะ สามารถนั่งรถบัสกลับจากสถานี Murodo ไปตามเส้นทางเดิมได้เลย
- Tateyama Ropeway : กระเช้าลอยฟ้าที่ให้วิวพาโนรามาของเทือกเขาที่สวยงามไร้ที่ติ
- Kurobe Cable Car : รถรางที่วิ่งในอุโมงค์เพื่อลงสู่เขื่อนคุโรเบะ
- Kanden Tunnel Trolley Bus : รถบัสไฟฟ้าอีกคันที่พาคุณออกจากอุโมงค์สู่ Ogizawa
- เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) : เขื่อนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น เป็นจุดชมวิวที่น่าประทับใจ
การเตรียมตัวและข้อควรรู้สำหรับนักเดินทาง “กำแพงหิมะ Japan Alps” ด้วยตัวเอง
การเตรียมตัวที่ดีจะทำให้ทริป “กำแพงหิมะ” ของเพื่อน ๆ ราบรื่นและสนุกสนานไร้กังวล โดยเฉพาะเมื่อต้องเที่ยว Japan Alps ด้วยตัวเอง

เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
แม้จะมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่บนยอดเขาอากาศก็ยังคงหนาวจัดและมีลมแรงมาก การแต่งกายที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
- หลักการ Layers (การแต่งกายเป็นชั้น ๆ) : นี่คือหัวใจสำคัญ! การสวมเสื้อผ้าหลาย ๆ ชั้นจะช่วยให้อบอุ่นได้ดีกว่าเสื้อหนาๆ ตัวเดียว และยังสามารถถอดออกหรือสวมเพิ่มได้ตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
- เสื้อชั้นใน (Base Layer) : เลือกแบบ Heattech หรือเสื้อเก็บอุณหภูมิ เพื่อรักษาความอบอุ่นของร่างกาย
- เสื้อชั้นกลาง (Mid Layer) : สวมเสื้อฟลีซ (Fleece) หรือเสื้อกันหนาวแบบบาง เพื่อเพิ่มความอบอุ่นอีกชั้น
- เสื้อชั้นนอก (Outer Layer) : สำคัญที่สุด! เลือกเสื้อแจ็คเก็ตกันหนาวที่กันน้ำและกันลมได้ดี เพราะอาจมีหิมะตกปรอย ๆ หรือลมพัดแรงตลอดเวลา
- กางเกง : ควรสวมกางเกงขายาวที่กันน้ำได้ หรือสวมลองจอนไว้ด้านในเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
- อุปกรณ์เสริมกันหนาว
- ถุงมือ : เพื่อปกป้องมือจากความหนาว
- หมวกไหมพรม : ควรเป็นหมวกที่สามารถคลุมหูได้ เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนจากศีรษะและใบหู
- ผ้าพันคอ : ช่วยให้อบอุ่นรอบคอ
- แว่นกันแดด : จำเป็นมาก! เพื่อป้องกันดวงตาจากแสงสะท้อนของหิมะที่สว่างจ้ามาก ซึ่งอาจทำให้แสบตาหรือเกิดอาการ Snow Blindness ได้
- รองเท้าที่เหมาะสม
- รองเท้ากันน้ำ (Waterproof Boots) : นี่คือสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง! เพราะคุณจะต้องเดินบนพื้นหิมะที่อาจจะละลายเป็นน้ำได้ หากรองเท้าไม่กันน้ำ เท้าของคุณจะเปียกและเย็นจัดได้ง่าย ทำให้ไม่สบายตัวและอาจเป็นอันตรายได้
- พื้นรองเท้า : ควรมีดอกยางลึกและกันลื่น เพื่อป้องกันการลื่นไถลบนพื้นหิมะหรือน้ำแข็งที่อาจมีอยู่ทั่วไป
- ถุงเท้า : สวมถุงเท้าหนา ๆ หรือถุงเท้ากันหนาวเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
การจองตั๋วและที่พักล่วงหน้า
- ตั๋ว Alpine Route Pass และตั๋วรถไฟ :
- ควรสั่งซื้อหรือจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณวางแผนจะเดินทางในช่วงพีคของกำแพงหิมะ
- การมีตั๋วในมือล่วงหน้าจะช่วยให้การเดินทางราบรื่น ไม่ต้องเสียเวลารอคิวยาวที่สถานี
- ที่พัก :
- หากคุณเลือกที่จะพักค้างคืนในเมืองใกล้เคียงกับจุดเริ่มต้นหรือสิ้นสุดเส้นทาง (เช่น Toyama, Matsumoto, Takayama) หรือหากคุณอยากลองพักบนเส้นทางที่ Hotel Tateyama (บน Murodo) ควรรีบจองให้เร็วที่สุด เพราะที่พักมีจำนวนจำกัดและมักจะเต็มเร็วมาก โดยเฉพาะในฤดูท่องเที่ยว
เวลาที่ควรใช้ในการเที่ยวชม
- สำหรับคนที่ต้องการเดินทางผ่านตลอดเส้นทาง (จากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่ง) แนะนำให้เผื่อเวลาไว้ประมาณ 8 ชั่วโมงเต็ม ไม่รวมเวลาเดินทางจากเมืองใหญ่มายังจุดเริ่มต้น
- หมายเหตุสำคัญ : คุณควรพักค้างคืนในเมืองใกล้ ๆ เส้นทางเจแปนแอลป์ก่อนวันเดินทางจริง เพราะคุณต้องออกเดินทางแต่เช้าตรู่เพื่อไปให้ทันรถไฟรอบแรก และต้องใช้เวลาอีกประมาณ 8 ชั่วโมงเพื่อเดินทางให้ครบเส้นทางและลงมาให้ทันรถรอบสุดท้าย
- ถ้าคุณมาจากฝั่งจังหวัดโทยาม่า (Toyama) : แนะนำให้ค้างคืนก่อนที่เมืองโทยาม่า (สถานี Toyama / Dentetsu Toyama)
- ถ้าคุณมาจากฝั่งจังหวัดนากาโน่ (Nagano) : แนะนำให้ค้างคืนก่อนที่เมืองนากาโน่ (สถานี Nagano) หรือ เมืองมัตสึโมโต้ (สถานี Matsumoto)
- พกอาหารหรือขนมติดตัว : แม้จะมีร้านค้าและตู้กดน้ำตามสถานีสำคัญๆ แต่ราคาจะแพงกว่าปกติเล็กน้อย และบางจุดอาจไม่มีร้านค้า ควรพกขนมหรือเครื่องดื่มติดตัวไว้บ้าง
- ถ่ายรูปตอนเช้า : แสงสวยและคนน้อย ทำให้ได้ภาพที่สวยงามและมีโอกาสถ่ายรูปได้เต็มที่กว่า
- บริการขนส่งสัมภาระ : หากคุณเดินทางผ่านตลอดเส้นทางและมีกระเป๋าใบใหญ่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการแบกสัมภาระให้เหนื่อย โรงแรมหลายแห่งในเมืองใกล้เคียง (เช่น Toyama Chitetsu Hotel) มีบริการรับฝากส่งสัมภาระจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดสิ้นสุดของ Alpine Route ได้เลย โดยจะได้รับสัมภาระภายในวันนั้น ค่าบริการอาจอยู่ที่ประมาณ 3,000 เยนต่อใบ (ควรตรวจสอบราคากับโรงแรมหรือจุดบริการรับฝากส่งสัมภาระโดยตรงอีกครั้ง)
งบประมาณสำหรับการเที่ยว “กำแพงหิมะ” Japan Alps
การเตรียมงบประมาณล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการ “เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางสู่กำแพงหิมะ Japan Alps ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเฉพาะทางอยู่บ้าง นี่คือค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ที่เพื่อน ๆ สามารถนำไปวางแผนได้ :

ค่าตั๋วเส้นทาง Alpine Route
- ราคาปกติ (เที่ยวเดียวตลอดเส้นทาง) :
- จาก Dentetsu Toyama – Shinano Omachi : ผู้ใหญ่ 13,820 เยน, เด็ก (6-11 ปี) 6,930 เยน
- จาก Dentetsu Toyama – Nagano : ผู้ใหญ่ 15,870 เยน, เด็ก (6-11 ปี) 7,950 เยน
- พาสสุดคุ้ม (Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass) :
- ราคา (อ้างอิงปี 2025) : ผู้ใหญ่ 23,800 เยน, เด็ก 11,900 เยน
- ความคุ้มค่า : พาสนี้ครอบคลุมการเดินทางที่มาจากสถานี Nagoya ผ่านเส้นทางเจแปนแอลป์ไป Matsumoto และวนกลับ Nagoya โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ใช้งานได้ 5 วันติดกัน ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากหากแผนของคุณครอบคลุมพื้นที่เหล่านี้
- หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ควรตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการอีกครั้ง ก่อนการเดินทาง
ค่าที่พัก
- โรงแรมทั่วไปในเมือง (Toyama, Matsumoto, Takayama) : ประมาณ 5,000 – 15,000 เยนต่อคืน (ขึ้นอยู่กับระดับโรงแรมและช่วงเวลาที่คุณพัก)
- ที่พักบน Murodo (Hotel Tateyama) : ราคาค่อนข้างสูงกว่าปกติมาก อาจสูงถึง 20,000 – 40,000+ เยนต่อคนต่อคืน เนื่องจากเป็นโรงแรมเดียวที่ตั้งอยู่บนยอดเขาและสะดวกสบายที่สุดสำหรับการชม กำแพงหิมะ หลังคนน้อย
- โรงแรมที่แนะนำสำหรับค้างคืนก่อนเริ่มต้นเส้นทาง : Toyama Chitetsu Hotel ตั้งอยู่บนสถานี Dentetsu Toyama เลย ทำให้สะดวกมากสำหรับการออกเดินทางแต่เช้าตรู่ (ราคาประมาณ 10,200 เยนสำหรับ 2 คน ในช่วงที่รีวิว)
- โดยประมาณ 2,000 – 5,000 เยนต่อวัน (ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารที่เพื่อน ๆ เลือกรับประทาน)
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม
ค่าเดินทางจากเมืองใหญ่มายังจุดเริ่มต้น (หากไม่ได้ใช้พาสที่ครอบคลุม)
- Shinkansen (รถไฟความเร็วสูง) : ค่อนข้างแพง อาจอยู่ระหว่าง 7,000 – 15,000 เยนต่อเที่ยว ขึ้นอยู่กับระยะทาง
- รถบัส : เป็นทางเลือกที่ถูกกว่ารถไฟมาก อาจอยู่ระหว่าง 3,000 – 6,000 เยนต่อเที่ยว
สรุปงบประมาณโดยประมาณ (ต่อคน)
หากไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ คุณควรเตรียมงบประมาณสำหรับค่าเดินทาง (รวมค่าพาส Alpine Route และค่าเดินทางจากเมืองใหญ่) และค่าใช้จ่ายบนเส้นทาง Alpine Route รวมถึงเมืองใกล้เคียง ประมาณ “15,000 – 50,000 เยนต่อคน” ขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางและระยะเวลาที่คุณจะใช้ในการท่องเที่ยว
**ข้อควรระวัง : งบประมาณข้างต้นเป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้นเท่านั้น ควรตรวจสอบราคาล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการก่อนเดินทางจริง โดยเฉพาะสำหรับ ปี 2025
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการ “กำแพงหิมะ Japan Alps“
- ถาม : “กำแพงหิมะ” Japan Alps ควรลงสนามบินไหน?
- ตอบ : สำหรับ Japan Alps ไม่มีสนามบินที่ตั้งอยู่ใจกลางเส้นทางโดยตรง แต่สนามบินหลักที่ใกล้ที่สุดและเดินทางต่อไปยังจุดเริ่มต้นของเส้นทางได้สะดวกคือ :
- สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport – NGO) ที่นาโกย่า : เป็นสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของญี่ปุ่น และมีเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังเมืองต่างๆ เช่น นาโกย่า มัตสึโมโต้ หรือโทยาม่าได้สะดวก
- สนามบินนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport – NRT) หรือ สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport – HND) ที่โตเกียว : แม้จะอยู่ไกลกว่า แต่มีเที่ยวบินจากทั่วโลกจำนวนมาก และสามารถเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นต่อไปยังจุดเริ่มต้นเส้นทาง Alpine Route ได้อย่างรวดเร็ว
- สนามบินโคมาสึ (Komatsu Airport – KMQ) : สนามบินขนาดเล็กในจังหวัดอิชิกาวะ ใกล้กับเมืองคานาซาวะ ซึ่งสามารถเดินทางต่อไปยังโทยาม่าได้ไม่ไกลนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงฝั่งโทยาม่าโดยตรง
- ตอบ : สำหรับ Japan Alps ไม่มีสนามบินที่ตั้งอยู่ใจกลางเส้นทางโดยตรง แต่สนามบินหลักที่ใกล้ที่สุดและเดินทางต่อไปยังจุดเริ่มต้นของเส้นทางได้สะดวกคือ :
- ถาม : ต้องใช้เวลาเที่ยวกำแพงหิมะนานเท่าไหร่?
- ตอบ : สำหรับการเดินทางผ่านตลอดเส้นทาง (จากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่ง) แนะนำให้เผื่อเวลาไว้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาเดินทางไป-กลับจากเมืองใหญ่ หากต้องการเดินเล่น ถ่ายรูป หรือพักผ่อนนานๆ ที่จุดต่างๆ ควรเผื่อเวลามากขึ้น หรือพิจารณาพักค้างคืนบนเส้นทาง (ที่ Hotel Tateyama) หรือในเมืองใกล้เคียง
- ถาม : ช่วงพีคคนจะเยอะมากไหม?
- ตอบ : ใช่ โดยเฉพาะช่วงกลางเมษายนถึงกลางพฤษภาคม (รวมถึง Golden Week) จะมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นมาก การจองตั๋วและที่พักล่วงหน้าจึงสำคัญมาก และควรเริ่มต้นวันเดินทางให้เช้าที่สุด
- ถาม : บนเส้นทางมีร้านอาหารหรือร้านขายของไหม?
- ตอบ : มีร้านค้าและร้านอาหารให้บริการอยู่ตามสถานีสำคัญ ๆ ตลอดเส้นทาง แต่ราคาอาจจะสูงกว่าปกติเล็กน้อย แนะนำให้พกขนมหรือเครื่องดื่มติดตัวไว้บ้าง
เที่ยวญี่ปุ่นง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเองไปกับ TRIP JAPAN ONLINE
การเดินทางไป “กำแพงหิมะ” Japan Alps ด้วยตัวเอง ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่มีการวางแผนที่ดีและเตรียมตัวให้พร้อม แต่ถ้าคุณอยากให้ทริปในฝันของคุณราบรื่น ไร้กังวล และได้สัมผัสประสบการณ์ญี่ปุ่นแบบเจาะลึกยิ่งขึ้น “TRIP JAPAN ONLINE” พร้อมเป็นผู้ช่วยให้คุณ

- บริการจองรถเช่าในประเทศญี่ปุ่น
- สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถตู้พร้อมคนขับได้แบบไม่มีขีดจำกัดตามแพลนของตัวเอง
- จองโดยตรงกับผู้ประกอบการที่ได้รับรอง, มีจุดบริการรองรับทุกเมืองในประเทศญี่ปุ่น, มีตัวเลือกให้เลือกได้ตามความต้องการ, รองรับการทำประกันภัยครบวงจร หายห่วงเรื่องความปลอดภัย, มีบริการรถเช่าพร้อมคนขับที่เชี่ยวชาญเส้นทาง
- เหมาะสำหรับ : ทริปคู่รัก, ทริปครอบครัว, ทริปแก๊งค์เพื่อน
- บริการวางแผนท่องเที่ยว
- ให้การท่องเที่ยวต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่าย ไม่ยุ่งยาก ชวนปวดหัว ให้เสียเวลาอีกต่อไป
- บริการจัดแผนการท่องเที่ยว (trip planner) ที่ครอบคลุมทั้งเรื่องกิน, เรื่องเที่ยว, ที่พัก, ที่ช้อป พร้อมแผนที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น และรายละเอียดการเดินทาง ช่วยให้คุณเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างมีความสุข สนุกตลอดทั้งทริป เลือกดูสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ทันที ไม่พลาดกับทุกสถานที่ยอดฮิตเพราะเรารวมมาให้แล้ว ไม่ว่าจะเที่ยวกี่วัน ก็เลือกแพลนเที่ยวได้ในแบบฉบับของคุณ
- บริการประสานงานช่วยเหลือ
- หายห่วงทุกเรื่องระหว่างการเดินทาง ด้วยบริการความช่วยเหลือให้ในทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็กจนไปถึงเรื่องฉุกเฉิน ให้เราเหมือนเพื่อนที่เดินทางเคียงข้างคุณ
- บริการแนะนำการท่องเที่ยว
- ตัวช่วยแนะนำข้อมูลและสถานที่ท่องเที่ยวในมุมมองที่นักท่องเที่ยวไม่เคยรู้มาก่อน อย่างร้านลับ หรือสถานที่สุดพิเศษ เฉพาะคุณเท่านั้น
การเดินทางไป “กำแพงหิมะ” Japan Alps ด้วยตัวเอง ใน ปี 2025 จะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและคุ้มค่าอย่างแน่นอน เพียงแค่คุณเตรียมตัวให้พร้อมตามคำแนะนำในบทความนี้ และหากต้องการความสะดวกสบายหรือคำแนะนำพิเศษเพิ่มเติม ก็สามารถใช้บริการจาก TRIP JAPAN ONLINE เพื่อให้ทริปของคุณสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ขอให้สนุกกับการเดินทางนะคะ!

ทักมาคุยกับเราได้เลย! ให้ TRIP JAPAN ONLINE เป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ของเพื่อน ๆ
- compaxworld : https://www.compaxworld.com
- Mushroom Travel : https://www.mushroomtravel.com
- Japan National Tourism Organization (JNTO) : https://www.japan.travel