Skip to content
Home » แจกแพลนเที่ยว “คามิโคจิ (Kamikochi)” ไปเดือนไหนดี? ปี 2025

แจกแพลนเที่ยว “คามิโคจิ (Kamikochi)” ไปเดือนไหนดี? ปี 2025

  • admin 
วางแผนเที่ยว "คามิโคจิ" ปี 2025 ด้วยตัวเอง? แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป อ่านเลย!

เบื่อแพลนเที่ยวญี่ปุ่นแบบเดิม ๆ ที่มีแต่ในเมืองกันหรือยัง? โตเกียว โอซาก้า เกียวโต ก็สนุกนะ แต่เราเชื่อว่าลึก ๆ แล้วหลายคนอยากลองอะไรที่มัน “พิเศษ” และแตกต่างกว่านั้นใช่ไหม? ถ้าคำตอบคือใช่… งั้นทริปนี้เรามา “อัปเกรดแพลนเที่ยวญี่ปุ่น” ของเพื่อน ๆ กัน! Trip Japan Online อยากชวนเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับ “คามิโคจิ (Kamikochi)” ชื่อที่อาจจะยังไม่คุ้นหู แต่เป็นหุบเขาที่สวยงามสุด ๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเทือกเขาเจแปนแอลป์ ลองนึกภาพตามนะ… ลืมความวุ่นวายในเมืองไปชั่วคราว แล้วพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีแต่อากาศเย็น ๆ ให้สูดได้เต็มปอด มีเสียงแม่น้ำที่ใสสะอาดไหลอยู่ข้าง ๆ และมีภาพเทือกเขาแอลป์สุดอลังการปรากฏอยู่ตรงหน้าแบบเต็ม ๆ ตา นี่แหละคือคามิโคจิ ประสบการณ์ธรรมชาติบำบัดที่แท้จริง

หลายคนอาจคิดว่าการไปเที่ยวสถานที่แบบนี้ด้วยตัวเองต้องยุ่งยากแน่ ๆ แต่เชื่อเถอะว่ามันง่ายกว่าที่คิดเยอะ! บทความนี้คือคู่มือฉบับจับมือทำ ที่จะตอบทุกคำถามคาใจของเพื่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไปเดือนไหนดี? เดินทางยังไง? หรือ ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง? เพื่อให้คุณไปเหยียบเจแปนแอลป์ได้อย่างมั่นใจ ถ้าพร้อมจะเพิ่ม “ที่สุดของธรรมชาติ” เข้าไปในทริปญี่ปุ่นครั้งต่อไปของเพื่อน ๆ แล้ว… เลื่อนลงมาอ่านต่อได้เลย!

มาทำความรู้จัก “คามิโคจิ” ให้ลึกยิ่งขึ้นกันดีกว่า ในฐานะเพื่อนที่ไปมาแล้ว เราจะเล่าให้ฟังว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นสถานที่ที่พิเศษสุด ๆ จนอยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง!

เวลาเราพูดถึงญี่ปุ่น ภาพแรกที่หลายคนนึกถึงคงเป็นแสงสีของโตเกียว ความคึกคักของโอซาก้า หรือวัดวาอารามเก่าแก่ในเกียวโตใช่ไหม? แต่เราอยากจะบอกว่าญี่ปุ่นมีอีกด้านหนึ่งที่สงบ สดชื่น และสวยงามจนแทบลืมหายใจซ่อนอยู่ และสถานที่แห่งนั้นก็คือ “คามิโคจิ (Kamikochi)”

พูดให้เข้าใจง่าย ๆ “คามิโคจิ (Kamikochi)” คือหุบเขาสุดที่สวยที่สุดที่ซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ ในอ้อมกอดของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือของญี่ปุ่น อยู่ใน “จังหวัดนากาโน่ (Nagano)” และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชูบุซังกาคุ (Chubu Sangaku National Park) ที่นี่ไม่ใช่แค่สวนสาธารณะหรือภูเขาทั่วไปนะ แต่มันคือพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติระดับชาติที่ถูกดูแลอย่างดีที่สุด จนคนญี่ปุ่นเขาให้ฉายาที่นี่ไว้ได้ขลังสุด ๆ ว่า ‘ดินแดนที่เทพเจ้าลงมาประทับ’ ด้วยตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง “มัตสึโมโต้ (Matsumoto)” ในจังหวัดนากาโน่ และ “ทาคายามะ (Takayama)” ในจังหวัดกิฟุ (Gifu) ทำให้คามิโคจิเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนไปเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับจากทั้งสองเมืองนี้ได้สะดวก

วางแผนเที่ยว คามิโคจิ ปี 2025 ด้วยตัวเอง แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป

แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกถึงความพิเศษแล้วใช่ไหม ที่นี่สมชื่อจริง ๆ เพราะทุกอย่างมันบริสุทธิ์ไปหมด ทั้งแม่น้ำ “อาซุสะ” ที่ใสจนมองเห็นก้อนหินทุกก้อนใต้น้ำ อากาศที่เย็นและสะอาดสดชื่น และภาพของทิวเขา “โฮทากะ” ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า มันยิ่งใหญ่จนทำให้เรารู้สึกตัวเล็กลงไปเลย ความพิเศษสุด ๆ ของที่นี่คือการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างเข้มงวดจริงจังขนาดที่ว่า “ห้ามนำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปในพื้นที่โดยเด็ดขาด!” การเดินทางเข้าไปต้องใช้รถบัสหรือแท็กซี่ของอุทยานเท่านั้น ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ทำให้ธรรมชาติของที่นี่ยังคงความบริสุทธิ์ไว้ได้อย่างน่าทึ่ง การไปเที่ยวคามิโคจิเลยไม่ใช่แค่การไป “ดู” วิวสวย ๆ แต่มันคือการไป “สัมผัส” ประสบการณ์จริง ๆ มันคือการได้เดินช้าลง ฟังเสียงสายน้ำไหล ได้สูดอากาศดี ๆ ให้เต็มปอด และได้รู้สึกตัวเล็กลงท่ามกลางความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ

พูดง่าย ๆ ที่นี่คือ “ปุ่มรีเซ็ต” จากความวุ่นวายในเมืองที่ดีที่สุด

บอกตามตรงเลยว่าคำตอบไม่มีผิดมีถูก เพราะคามิโคจิสวยทุกฤดูจริง ๆ แต่มันสวยคนละแบบ ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อน ๆ อยากไปเห็นภาพแบบไหน หรือเป็นนักท่องเที่ยวสไตล์ไหนมากกว่า ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าอุทยานจะเปิดให้เราเข้าไปเที่ยวได้แค่ช่วง 17 เมษายน ถึง 15 พฤศจิกายน ของทุกปีเท่านั้น มาดูกันว่าแต่ละช่วงมีเสน่ห์ต่างกันยังไง แล้วเลือกช่วงเวลาที่ “ใช่” สำหรับคุณได้เลย!

นี่คือช่วงเวลาที่คามิโคจิเพิ่งตื่นจากการหลับใหลในฤดูหนาว เสน่ห์ของมันคือภาพตัดกันที่ลงตัวสุด ๆ เพื่อน ๆ จะได้เห็นหิมะสีขาวโพลนที่ยังคงสะสมอยู่บนยอดเขาโฮทากะอย่างหนาแน่น แต่เบื้องล่างนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้ที่เริ่มผลิใบอ่อนเป็นสีเขียวสดใส แม่น้ำอาซุสะก็จะมีสีฟ้าที่ใสเป็นพิเศษเพราะเพิ่งได้น้ำที่ละลายจากหิมะมาเติมเต็ม อากาศยังคงเย็นสบาย มีความหนาวนิด ๆ ให้พอสดชื่น เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอากาศร้อนและอยากเห็นวิว สวยๆ ที่มีเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น

วางแผนเที่ยว คามิโคจิ ปี 2025 ด้วยตัวเอง แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป

ถ้าเพื่อน ๆ อยากหนีจากความร้อนระอุในเมือง ที่นี่คือสวรรค์ของเพื่อน ๆ เลย! ฤดูร้อนของคามิโคจิเป็นช่วงที่ธรรมชาติมีชีวิตชีวาถึงขีดสุด ป่าทั้งป่าจะเป็นสีเขียวชอุ่มสบายตา ดอกไม้ป่าต่าง ๆ จะพากันเบ่งบานอวดสีสัน ท้องฟ้ามักจะเปิดและเป็นสีครามสดใส ทำให้เห็นวิวเทือกเขาได้แบบชัดเจนเต็ม ๆ ตา อากาศเย็นสบายตลอดวัน เหมาะอย่างยิ่งกับการเดินป่าเทรลยาว ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด เป็นช่วงเวลาของการเติมพลังและความสดชื่นอย่างแท้จริง

วางแผนเที่ยว คามิโคจิ ปี 2025 ด้วยตัวเอง แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป

นี่คือช่วงเวลาซูเปอร์สตาร์ที่ทุกคนรอคอยและเป็นภาพจำของคามิโคจิเลยก็ว่าได้! ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป ทั้งหุบเขาจะค่อย ๆ เปลี่ยนสี กลายเป็นพรมสีทองอร่ามที่ถักทอจากใบของต้นคารามัตสึ (Karamatsu) และสีแดงส้มจากใบเมเปิ้ล โดยช่วงที่พีคที่สุดมักจะอยู่ราว ๆ สัปดาห์ที่สองและสามของเดือนตุลาคม ใครเป็นสายถ่ายรูป บอกเลยว่านี่คือช่วงเวลาของคุณ คุณจะได้ภาพสวยเหมือนโปสการ์ดกลับไปแน่นอน แต่ก็ต้องทำใจนิดหน่อยว่านี่จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวคึกคักและหนาแน่นที่สุดของปีเช่นกัน

เมื่อความคึกคักของช่วงใบไม้เปลี่ยนสีผ่านไป คามิโคจิจะกลับเข้าสู่โหมดเงียบสงบอีกครั้ง ใบไม้อาจร่วงโรยไปเกือบหมดแล้ว เผยให้เห็นโครงสร้างของกิ่งก้านและลำต้นที่สวยงามไปอีกแบบ แต่สิ่งที่ทดแทนเข้ามาคือ “เสน่ห์ของความสงบ” และความเป็นส่วนตัว อากาศจะเริ่มหนาวเย็นลงอย่างชัดเจน และถ้าโชคดี เพื่อน ๆ อาจจะได้เป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่ได้เห็นหิมะแรกของปีโปรยปรายลงมา เป็นการส่งท้ายฤดูกาลท่องเที่ยวที่งดงามและน่าประทับใจ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย และอยากฟังเสียงลมหายใจของธรรมชาติอย่างแท้จริง

ช่วงเวลาไฮไลท์ เหมาะกับใคร เหมาะกับใคร
ปลายเม.ย. – พ.ค.หิมะบนยอดเขา, น้ำสีฟ้าใส, ใบไม้อ่อนสดชื่น อากาศเย็น เดินสบาย5°C – 15°C
มิ.ย. – ส.ค.ธรรมชาติเขียวขจี, ท้องฟ้าสีครามสดใสมีชีวิตชีวา เหมาะกับสายเดินป่า15°C – 25°C
ก.ย. – กลาง ต.ค.ใบไม้เปลี่ยนสี (พีคสุด!)โรแมนติก เหมาะกับสายถ่ายรูป10°C – 20°C
ปลาย ต.ค. – 15 พ.ย.บรรยากาศเงียบสงบ, อาจมีหิมะแรกส่วนตัว สำหรับคนรักความสงบ5°C – 15°C

ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการเดินทาง เราขอตอกย้ำกฎเหล็กข้อที่สำคัญที่สุดอีกครั้ง “ห้ามขับรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปในพื้นที่คามิโคจิเด็ดขาด!” ย้ำอีกครั้งนะว่า “ห้าม!” นี่ไม่ใช่แค่คำแนะนำ แต่มันคือ “กฎ” เพื่อรักษาระบบนิเวศอันเปราะบางของที่นี่ไว้ให้สวยงามเหมือนเดิมไปนาน ๆ การที่เราต้องลำบากขึ้นอีกนิดเพื่อไปเจอกับความงามที่บริสุทธิ์แบบนี้ มันคุ้มค่านะ

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและยอดนิยมที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เพราะเพื่อน ๆ ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่พาตัวเองไปให้ถึงเมืองที่เป็นเหมือนประตูสู่คามิโคจิ (Kamikochi) แล้วก็ซื้อตั๋วรถบัสต่อไปได้เลย

  • รถบัสสายตรง (สะดวกที่สุด)
    • มีรถบัส “Sawayaka Shinshu Express Bus” วิ่งตรงจากสถานีขนส่ง Shinjuku Bus Terminal (ใกล้สถานี JR Shinjuku) ไปยัง Kamikochi Bus Terminal เลย
    • มีทั้งรอบเช้า (ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง) และรอบกลางคืน (นอนบนรถ ตื่นมาถึงตอนเช้า)
    • สะดวกมาก ไม่ต้องเปลี่ยนรถ ต่อเดียวถึง
  • รถไฟ
    • นั่งรถไฟ JR Limited Express Azusa จากสถานี Shinjuku ไปลงที่สถานีมัตสึโมโต้ (Matsumoto Station) (ใช้เวลาประมาณ 2.5 – 3 ชั่วโมง)
    • จากสถานีมัตสึโมโต้ ให้ต่อรถไฟสายคามิโคจิ (Kamikochi Line) ไปลงที่สถานีชินชิมะชิมะ (Shin-Shimashima) แล้วต่อรถบัสเข้าไปยังคามิโคจิ
    • มีรอบรถไฟให้เลือกเยอะกว่า ทำให้วางแผนได้ดีกว่าจาก โอซาก้า (Osaka) / เกียวโต (Kyoto)
  • รถบัสสายตรง
    • มีรถบัสสายตรงของบริษัท Alpico วิ่งจากโอซาก้า (สถานี Umeda หรือ Shin-Osaka) และเกียวโต ไปยังคามิโคจิโดยตรง
    • เช่นเดียวกับโตเกียว มีทั้งรอบกลางวันและรอบกลางคืน (นอนบนรถ)
    • เป็นวิธีที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุดจากโอซาก้า ไม่ต้องต่อรถให้วุ่นวาย
  • รถบัสสายตรง (มีเฉพาะช่วงฤดูร้อน)
    • มีรถบัสของบริษัท Meitetsu Bus วิ่งตรงจากนาโกย่าไปยังคามิโคจิ แต่โดยปกติจะให้บริการเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคม – ตุลาคมเท่านั้น
  • รถบัส (ต่อไปทาคายามะ)
    • นั่งรถบัสจากนาโกย่าไปลงที่ทาคายามะ (Takayama) ก่อน (ใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง)
    • จากสถานีขนส่ง Takayama Nohi Bus Center ให้ต่อรถบัสไปที่ฮิรายุออนเซ็น (Hirayu Onsen) (ประมาณ 1 ชั่วโมง)
    • จากฮิรายุออนเซ็น จะมีรถบัสวิ่งต่อไปยังคามิโคจิอีกประมาณ 25 นาที
  • รถบัสสายตรง “National Park Liner”: มีวิ่งวันละ 2 รอบตอนเช้า แต่ต้องจองล่วงหน้า
  • รถไฟ + รถบัส : เป็นวิธีมาตรฐาน คือนั่งรถไฟสายคามิโคจิจากสถานีมัตสึโมโต้ไปลงที่สถานีชินชิมะชิมะ แล้วต่อรถบัสเข้าไป
  • รถบัส : นั่งรถบัสของบริษัท Nohi Bus จากสถานี Takayama Nohi Bus Center ไปลงที่ฮิรายุออนเซ็น (Hirayu Onsen) จากนั้นต่อรถบัสอีกทอดหนึ่งเพื่อเข้าสู่คามิโคจิ เป็นเส้นทางที่สะดวกและมีรถวิ่งค่อนข้างบ่อย

นอกจากนี้ ในช่วงพีคซีซั่นยังมีรถบัสรอบกลางคืนวิ่งตรงจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว (ชินจูกุ) หรือโอซาก้าไปยังคามิโคจิเลยด้วยนะ เรียกว่าหลับบนรถ ตื่นมาก็เจอวิวสวย ๆ เลย

สำหรับเพื่อน ๆ ที่รักอิสระ อยากจัดตารางเที่ยวเอง หรือมีแพลนจะไปเที่ยวเมืองอื่น ๆ ในแถบเจแปนแอลป์ด้วย เช่น หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ หรือไปชิมเนื้อฮิดะที่ทาคายามะ การ “เช่ารถขับ” คือตัวเลือกที่จะทำให้ทริปของเพื่อน ๆ สนุกและมีอิสระมากขึ้นอีกสิบเท่า! แล้วจะทำยังไงในเมื่อเขาห้ามขับรถเข้าไป? ง่ายมาก! เพื่อน ๆ แค่ขับรถที่เช่ามา ไปยัง “ลานจอดรถเฉพาะ” ที่เขากำหนดไว้ซึ่งอยู่นอกพื้นที่อุทยาน

  • ถ้ามาทางมัตสึโมโต้ ให้ตั้ง GPS ไปที่ลานจอดรถซาวันโดะ (Sawando Parking Area)
  • ถ้ามาทางทาคายามะ ให้ตั้ง GPS ไปที่ลานจอดรถฮิรายุ (Hirayu Parking Area)

จากลานจอดรถเหล่านี้ เพื่อน ๆ ก็แค่ซื้อตั๋วรถ Shuttle Bus หรือจะเรียกแท็กซี่ก็ได้ เพื่อนั่งต่อเข้าไปยังคามิโคจิ (Kamikochi) อีกประมาณ 20-30 นาทีเท่านั้นเอง ง่ายใช่ไหม ข้อดีของการเช่ารถคือคุณไม่ต้องกังวลเรื่องตารางรถไฟหรือรถบัสมากนัก อยากจะแวะถ่ายรูปที่ไหน หรือเปลี่ยนแพลนกะทันหันก็ทำได้เลย มันคืออิสระที่แท้จริงของการเดินทางอยากให้ทริปญี่ปุ่นของเพื่อน ๆ พิเศษและสะดวกสบายกว่าที่เคยใช่ไหม?

ตัดสินใจ เช่ารถขับที่ญี่ปุ่น เองดีไหม บทความนี้มีคำตอบ คลายกังวลด้วยคู่มือฉบับคนไม่เคยขับ ปี 2025

Trip Japan Online พร้อมให้คำแนะนำและช่วยวางแผนการเดินทางให้ทริปของเพื่อน ๆ สมบูรณ์แบบที่สุด

วางแผนเที่ยว คามิโคจิ ปี 2025 ด้วยตัวเอง แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป

เส้นทางนี้เหมาะที่สุดสำหรับ “คนไปครั้งแรก” หรือมีเวลาจำกัด (ประมาณ 2-3 ชั่วโมง) เป็นเส้นทางที่สวยที่สุดและเดินง่ายมาก

  • แผนการเดิน :
    1. จุดเริ่มต้น (ต้องทำ!) : นั่งบัสไปลงที่ป้าย “บึงไทโช” (Taisho Pond) ตามแผนที่เลย
    2. ช่วงที่ 1 (20 นาที) : จากบึงไทโช เดินชิลล์ ๆ ตามทางเลียบแม่น้ำไปยัง “บึงทาชิโระ” (Tashiro Pond) จุดนี้วิวสวยมาก
    3. ช่วงที่ 2 (20 นาที) : เดินต่อจากบึงทาชิโระมายัง “สะพานทาชิโระ” (Tashiro Bridge) และ “สะพานโฮทากะ” (Hotaka Bridge)
    4. ช่วงที่ 3 (30 นาที) : จากสะพาน เดินผ่านสวนนาคาโนเสะ (Nakanose Park) ก็จะมาถึงโซนกลางที่เป็นที่ตั้งของ “สถานีขนส่งคามิโคจิ” (Kamikochi Bus Terminal)
    5. จุดหมายปลายทาง (5 นาที) : เดินอีกนิดเดียวจากสถานีขนส่งก็จะถึง “สะพานคัปปะ” (Kappa Bridge) ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางที่มีร้านอาหาร ร้านค้า และเป็นจุดถ่ายรูปมหาชนค

สำหรับคนที่ฟิตขึ้นมาอีกนิดและมีเวลามากขึ้น (รวมแล้วประมาณ 4-5 ชั่วโมง) ผมแนะนำให้เดินต่อไปยัง “บึงเมียวจิน” เพื่อสัมผัสความสงบที่แท้จริง

  • แผนการเดิน (เริ่มจากสะพานคัปปะ) :
    • ขาไป – เส้นทางฝั่งซ้าย (Left Bank Path – 50 นาที) : จากแผนที่ แนะนำให้เดินเลียบฝั่งซ้ายของแม่น้ำ (เมื่อหันหน้าไปทางภูเขา) เส้นทางนี้จะร่มรื่นกว่า เป็นทางเดินในป่า
    • ณ จุดหมาย : ถึง “บึงเมียวจิน” (Myojin Pond) และ “สะพานเมียวจิน” (Myojin Bridge) แวะชมความงามอันศักดิ์สิทธิ์ของบึง (มีค่าเข้าชมบริเวณบึง)
    • ขากลับ – เส้นทางฝั่งขวา (Right Bank Path – 60 นาที) : เดินกลับอีกฝั่งของแม่น้ำ เส้นทางนี้จะเลียบแม่น้ำอาซุสะมากกว่า ทำให้เห็นวิวแม่น้ำและภูเขาได้ชัดเจนตลอดทาง

เส้นทางนี้สำหรับนักเดินป่าตัวจริงที่ต้องการความท้าทายและอยากเห็นธรรมชาติที่ลึกและดิบยิ่งขึ้น

  • แผนการเดิน (ต่อจากบึงเมียวจิน) :
    1. บึงเมียวจิน → โทคุซาวะ (Tokusawa – 60 นาที / 3.0 กม.) : เดินต่อไปยังทุ่งหญ้ากว้าง “โทคุซาวะ” ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ บรรยากาศจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง คนน้อยลง และรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
    2. โทคุซาวะ → โยโคโอะ (Yokoo – 70 นาที / 3.5 กม.) : เดินทางต่อไปยัง “โยโคโอะ” (Yokoo) ที่นี่ถือเป็น “ประตูสู่การปีนเขา本格的な” อย่างแท้จริง เป็นจุดสุดท้ายที่นักท่องเที่ยวทั่วไปจะเดินถึง และเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางปีนเขาสู่ยอดเขาต่าง ๆ เช่น “ยาริงาทาเกะ (Mt. Yari)”

คำแนะนำสำคัญ

  • เส้นทางตั้งแต่ Taisho Pond จนถึง Myojin Pond เป็นทางเดินที่ค่อนข้างเรียบและดี สามารถใส่รองเท้าผ้าใบเดินได้
  • เส้นทางที่ลึกเข้าไปจาก Myojin Pond สู่ Tokusawa และ Yokoo เป็นเส้นทางเดินป่าจริงจัง “ควรใช้รองเท้าเดินป่าโดยเฉพาะ” และต้องมีเวลาและสภาพร่างกายที่พร้อม

ลองเลือกเส้นทางที่เหมาะกับสไตล์และเวลาของเพื่อน ๆ ได้เลย รับรองว่าไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหน คามิโคจิก็จะมอบความทรงจำที่ยอดเยี่ยมให้เพื่อน ๆ แน่นอน!

เพื่อให้การเดินทางของเพื่อน ๆ ราบรื่นและเป็นการท่องเที่ยวที่ช่วยกันดูแลรักษาสถานที่อันแสนพิเศษแห่งนี้ นี่คือสิ่งที่เพื่อน ๆ ต้องรู้และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

วางแผนเที่ยว คามิโคจิ ปี 2025 ด้วยตัวเอง แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป

กฎเหล่านี้เป็นเหมือนมารยาทสากลที่เราควรปฏิบัติเพื่อช่วยกันรักษาสวรรค์บนดินแห่งนี้ไว้

  • นำขยะทั้งหมดกลับบ้าน : ที่คามิโคจิ “ไม่มีถังขยะ” ดังนั้น ขยะทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ ถุงขนม เศษอาหาร หรือแม้แต่ก้นบุหรี่ ต้องถูกเก็บใส่ถุงและนำกลับไปทิ้งในเมืองเท่านั้น
  • ห้ามให้อาหารสัตว์ป่าโดยเด็ดขาด : แม้คุณจะเจอน้องลิงหรือน้องเป็ดที่น่ารักขนาดไหน การให้อาหารจะทำลายสัญชาตญาณตามธรรมชาติและอาจเป็นอันตรายต่อพวกมันได้
  • ห้ามเก็บพืชพรรณหรือจับสัตว์ป่า : ทุกสิ่งมีชีวิตในคามิโคจิได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย การเก็บดอกไม้ใบไม้ หรือจับสัตว์ใดๆ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
  • เดินบนเส้นทางที่กำหนดเท่านั้น : โปรดเดินบนทางเดินไม้หรือเส้นทางที่จัดไว้ให้ เพื่อไม่ให้ไปเหยียบย่ำทำลายระบบนิเวศที่เปราะบาง เช่น พื้นที่ชุ่มน้ำหรือทุ่งมอสส์
  • ตั้งแคมป์และก่อไฟในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น : สำหรับสายแคมป์ปิ้ง ต้องกางเต็นท์และก่อกองไฟในบริเวณที่อุทยานกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและป้องกันไฟป่า
  • ช่วยกันประหยัดและรักษาแหล่งน้ำ : น้ำจืดเป็นทรัพยากรที่มีค่า โดยเฉพาะในพื้นที่สูง โปรดใช้น้ำอย่างประหยัดและไม่ทิ้งสิ่งสกปรกลงในแม่น้ำลำธาร
  • ห้ามขว้างก้อนหินลงน้ำ : การโยนหินลงในแม่น้ำหรือบึงอาจรบกวนและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตใต้น้ำได้

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม (กรณีฉุกเฉิน) :
แผนกส่งเสริมการท่องเที่ยวภูเขาเมืองมัตสึโมโต้ (Matsumoto City Mountain Tourism Division)
โทรศัพท์ : 0263-94-2307

ที่นี่คือ “ลิตเติ้ลเกียวโต” ดี ๆ นี่เอง เพื่อน ๆ จะได้เดินเล่นในย่านเมืองเก่าสมัยเอโดะที่อนุรักษ์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ บ้านไม้โบราณ ร้านค้า ร้านสาเก และคาเฟ่บรรยากาศดี ๆ เรียงรายสองข้างทาง แวะชิม “ซูชิเนื้อฮิดะ” และ “มิตาราชิดังโงะ” รสเด็ดที่เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของคามิโคจิ มาสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่อบอุ่นของญี่ปุ่น

  • เวลาทำการ : ร้านค้าส่วนใหญ่ในย่านนี้จะเปิดให้บริการในช่วงเวลาประมาณ 9:00 น. – 17:00 น. แต่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละร้าน ส่วนร้านอาหารบางแห่งอาจเปิดให้บริการในช่วงเย็น
  • เว็บไซต์ :  https://www.hida.jp/english/
วางแผนเที่ยว คามิโคจิ ปี 2025 ด้วยตัวเอง แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป

หมู่บ้านชาวนาโบราณที่มีบ้านหลังคาทรงสูงชันแบบ “กัชโชสึคุริ” อันเป็นเอกลักษณ์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ไม่ว่าจะไปเยือนฤดูไหนก็สวยงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย

  • เวลาทำการ : ตัวหมู่บ้านสามารถเดินชมได้ตลอดเวลา แต่บ้านที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ (เช่น บ้านวาดะ) โดยทั่วไปจะเปิดประมาณ 9:00 น. – 17:00 น.
  • เว็บไซต์ :  https://www.shirakawa-go.gr.jp/en/
วางแผนเที่ยว คามิโคจิ ปี 2025 ด้วยตัวเอง แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป

กระเช้าลอยฟ้าสองชั้นแห่งเดียวในญี่ปุ่น ที่จะพาคุณไต่ระดับความสูงกว่า 2,156 เมตร ขึ้นไปชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศาของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่และน่าทึ่งมาก

  • เวลาทำการ : โดยทั่วไปเปิดให้บริการประมาณ 8:30 น. – 16:00 น. (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและสภาพอากาศ ควรตรวจสอบเว็บไซต์ก่อนเดินทางเสมอ)
  • เว็บไซต์ : https://shinhotaka-ropeway.jp/en/

เมืองออนเซ็นที่เป็นเหมือน “ประตูสู่คามิโคจิ” ที่นี่เป็นจุดต่อรถบัสสำคัญและเต็มไปด้วยเรียวกังที่มีบ่อออนเซ็นชั้นเลิศให้แช่ผ่อนคลาย

  • เวลาทำการ : เป็นเมืองออนเซ็นที่เปิดตลอดเวลา ส่วนเวลาให้บริการของแต่ละเรียวกังหรือบ่อออนเซ็นสาธารณะจะแตกต่างกันไป เช่น Hirayu no Mori เปิดประมาณ 10:00 น. – 21:00 น.
  • เว็บไซต์ : https://www.okuhida.or.jp/en
วางแผนเที่ยว คามิโคจิ ปี 2025 ด้วยตัวเอง แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป

ปราสาทไม้หลังดั้งเดิมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ได้รับฉายาว่า “ปราสาทอีกาดำ” เนื่องจากมีสีดำสนิทดูน่าเกรงขาม เป็นสมบัติชาติที่งดงามและไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

  • เวลาทำการ : โดยทั่วไปเปิดให้บริการ 8:30 น. – 17:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 16:30 น.) ปิดช่วงปลายปี (29-31 ธันวาคม)
  • เว็บไซต์ : https://www.matsumoto-castle.jp/eng/

 ถนนสายเล็กๆ เลียบแม่น้ำที่เต็มไปด้วยร้านค้าของจุกจิก ร้านขนม และคาเฟ่เล็กๆ ที่มี “กบ” เป็นสัญลักษณ์ เนื่องจากคำว่า “คาเอรุ” (Kaeru) ในภาษาญี่ปุ่นพ้องเสียงกับคำว่า “กลับมา” (โดยสวัสดิภาพ)

  • เวลาทำการ : ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดประมาณ 10:00 น. – 17:00 น. แต่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละร้าน
  • เว็บไซต์ : https://visitmatsumoto.com/en/spot/nawate-street/
วางแผนเที่ยว คามิโคจิ ปี 2025 ด้วยตัวเอง แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป

 คนรักศิลปะต้องกรี๊ด! เพราะที่นี่เป็นบ้านเกิดของศิลปินชื่อดังก้องโลกอย่าง “ยาโยอิ คุซามะ” ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์มีประติมากรรมฟักทองลายจุดขนาดยักษ์ตั้งเด่นเป็นสง่า และด้านในก็มีผลงานของเธอจัดแสดงอยู่

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการ 9:00 น. – 17:00 น. (เข้ารอบสุดท้าย 16:30 น.) ปิดทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์จะปิดในวันถัดไป) และช่วงวันหยุดปีใหม่
  • เว็บไซต์ : https://matsumoto-artmuse.jp/en/
  • ถาม : รถบัสเที่ยวสุดท้ายออกจากคามิโคจิกี่โมง?
    • ตอบ : เวลาของรถบัสเที่ยวสุดท้ายจะแตกต่างกันไปตามเส้นทางและช่วงเวลาของปี แต่โดยทั่วไปแล้ว รถบัสเที่ยวสุดท้ายที่มุ่งหน้าออกจาก Kamikochi Bus Terminal ไปยังลานจอดรถซาวันโดะหรือฮิรายุออนเซ็นจะอยู่ที่ประมาณ 17:30 น. (5:30 PM) อย่างไรก็ตามเพื่อน ๆ ต้องตรวจสอบตารางเวลาล่าสุดในวันที่เพื่อน ๆ เดินทางเสมอ เพื่อป้องกันการพลาดรถเด็ดขาด!
  • ถาม : มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้างสำหรับนักท่องเที่ยวไปเช้าเย็นกลับ?
    • ตอบ : สะดวกสบายหายห่วง โดยเฉพาะบริเวณสถานีขนส่งคามิโคจิ (Kamikochi Bus Terminal) และสะพานคัปปะ (Kappa Bridge) จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ได้แก่: ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว (Information Centers) ห้องน้ำสาธารณะ (บางที่มีค่าบริการเล็กน้อย) ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายซอฟต์ครีม ร้านขายของที่ระลึกและขนม ที่ทำการไปรษณีย์
  • ถาม : มีที่ซื้อของสำหรับตั้งแคมป์ไหม?
    • ตอบ : มี! สำหรับสายแคมป์ปิ้ง ที่ลานตั้งแคมป์โคนะชิไดระ (Konashidaira Campsite) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสะพานคัปปะ มีร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าหลากหลายพอสมควร ทั้งผักสด เนื้อแช่แข็ง ข้าวสาร และเครื่องปรุงต่างๆ สำหรับการทำอาหาร นอกจากนี้ร้านค้าทั่วไปบริเวณ Bus Terminal ก็มีขายขนมและอาหารสำเร็จรูปเล็กน้อย
  • ถาม : สภาพอากาศเป็นอย่างไร ควรแต่งตัวแบบไหน?
    • ตอบ : อากาศที่คามิโคจิจะเย็นกว่าในเมืองเสมอและเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ฤดูใบไม้ผลิ/ปลายฤดูใบไม้ร่วง (พ.ค. / ต.ค. – พ.ย.) อากาศหนาวเย็น ควรใส่เสื้อผ้าหลายๆ ชั้น (layering) มีเสื้อฟลีซ และเสื้อกันลม/กันฝนด้านนอก ฤดูร้อน (มิ.ย. – ส.ค.) กลางวันอากาศเย็นสบาย แต่อาจจะร้อนขึ้นได้ถ้าแดดจัด ควรเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตบางๆ ไว้เผื่อ และอาจมีฝนตกได้ ควรพกร่มหรือเสื้อกันฝนไปด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุด รองเท้าที่ใส่สบายและเหมาะกับการเดิน เพราะเพื่อน ๆ จะต้องเดินเยอะ
  • ถาม : มีสัญญาณมือถือหรือ Wi-Fi ไหม?
    • ตอบ : สัญญาณมือถืออาจมีเป็นบางจุดและไม่ค่อยเสถียรนัก โดยเฉพาะเมื่อเดินลึกเข้าไปในเส้นทางธรรมชาติ ส่วน Wi-Fi ฟรีอาจมีให้บริการตามศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหรือโรงแรมบางแห่ง แต่ไม่ครอบคลุมทั้งพื้นที่ แนะนำให้ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์หรือข้อมูลที่จำเป็นไว้ในมือถือก่อนเดินทาง
  • ถาม : ใช้บัตรเครดิตได้ไหม?
    • ตอบ : ร้านอาหารและโรงแรมใหญ่ ๆ ส่วนใหญ่รับบัตรเครดิต แต่ร้านค้าเล็ก ๆ ร้านขายของที่ระลึก หรือค่ารถบัสบางส่วนอาจต้องใช้เงินสด แนะนำให้พกเงินสดติดตัวไปด้วยจะสะดวกที่สุด
  • ถาม : คามิโคจิเปิดเมื่อไหร่?
    • ตอบ: โดยทั่วไปคามิโคจิจะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน ถึง 15 พฤศจิกายน ของทุกปี และจะปิดทำการอย่างสมบูรณ์ในช่วงฤดูหนาวหลังจากวันที่ 15 พฤศจิกายนเป็นต้นไป
  • ถาม : ฉันสามารถเข้าอุทยานในฤดูหนาวได้ไหม?
    • ตอบ : ไม่ได้ (สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป) ในช่วงฤดูหนาว (กลางเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนเมษายน) อุทยานจะปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ร้านค้า โรงแรม และรถบัสทั้งหมดจะหยุดวิ่ง การเข้าไปในพื้นที่ช่วงนี้ “มีความเสี่ยงสูงและอันตรายมาก” จากหิมะถล่ม สงวนไว้สำหรับนักปีนเขาที่มีประสบการณ์และเตรียมอุปกรณ์มาอย่างดีเท่านั้น ซึ่งต้องยื่นเอกสารลงทะเบียนก่อนเข้าพื้นที่และต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง
  • ถาม : มีที่ซื้ออาหาร/วัตถุดิบสำหรับตั้งแคมป์ไหม?
    • ตอบ : มี แต่มีจำกัด ที่ลานตั้งแคมป์โคนะชิไดระ (Konashidaira Campsite) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสะพานคัปปะ มีร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าเบื้องต้นสำหรับการแคมป์ปิ้ง เช่น แก๊สกระป๋อง, อาหารแห้ง, เครื่องดื่ม และวัตถุดิบบางอย่าง แต่เพื่อความหลากหลายและครบถ้วน แนะนำให้เตรียมมาจากในเมืองจะดีที่สุด

จากจุดเริ่มต้นที่เราได้ทำความรู้จักกับ “ดินแดนของเทพเจ้า” แห่งนี้ ไปจนถึงการเลือกช่วงเวลาที่ใช่ วิธีการเดินทางที่สะดวก และเส้นทางเดินเที่ยวที่น่าประทับใจ เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนคงเห็นภาพความงดงามและเข้าใจแล้วว่าทำไมคามิโคจิถึงเป็นจุดหมายในฝันของนักเดินทางทั่วโลก

คามิโคจิไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นประสบการณ์ที่จะอยู่ในความทรงจำของเพื่อน ๆ ไปอีกนาน… เสียงของสายน้ำอาซุสะที่ไหลอยู่ข้าง ๆ อากาศที่บริสุทธิ์เย็นสบาย และภาพของเทือกเขาโฮทากะที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ทั้งหมดนี้คือรางวัลที่คุ้มค่ากับการเดินทางอย่างแน่นอน

ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในมือของเพื่อน ๆ แล้ว ที่เหลือก็แค่ก้าวแรกของการลงมือวางแผนเท่านั้น การเตรียมตัวอาจจะดูมีรายละเอียดอยู่บ้าง แต่ความทรงจำอันล้ำค่าที่เพื่อน ๆ จะได้รับกลับมานั้นประเมินค่าไม่ได้เลย

และเพื่อให้การเดินทางของเพื่อน ๆ สมบูรณ์แบบและไร้กังวลที่สุด…

เบื่อไหมกับการเที่ยวตามรอยที่ใคร ๆ ก็ไป? กังวลใจกับแพลนที่ยุ่งเหยิง? หรืออยากสัมผัสญี่ปุ่นให้ลึกซึ้งกว่าที่เคย?

ที่ TRIP JAPAN ONLINE เราไม่ใช่แค่จัดแพลนเที่ยวญี่ปุ่น แต่เราคือ “เพื่อนสนิทที่เชี่ยวชาญเรื่องญี่ปุ่น” ที่พร้อมจะออกแบบและดูแลทริปในฝันของคุณให้เป็นจริง ตั้งแต่ก้าวแรกที่วางแผน จนถึงวันที่คุณเดินทางกลับมาพร้อมความทรงจำที่ประทับใจไม่รู้ลืม

วางแผนเที่ยว คามิโคจิ ปี 2025 ด้วยตัวเอง แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป

1. บริการเช่ารถขับเที่ยว ลืมตารางทัวร์ที่เร่งรีบไปได้เลย! ลองจินตนาการถึงการขับรถไปบนถนนสายชนบทที่สวยงาม อยากแวะคาเฟ่ริมทางน่ารัก ๆ หรือจอดถ่ายรูปกับวิวภูเขาที่สวยจนตะลึง… เพื่อน ๆ ทำได้ทั้งหมด! เราให้บริการเช่ารถส่วนตัว และรถตู้พร้อมคนขับที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย มีประกันครบวงจร ให้คุณเป็นเจ้าของทุกเส้นทางในทริปของเพื่อน ๆ

2. เที่ยวเหมือนมือโปร ด้วยแพลนเที่ยวฉบับส่วนตัว ไม่ต้องปวดหัวกับข้อมูลมหาศาล หรือเสียเวลาจัดแพลนเป็นเดือนๆ อีกต่อไป! ทีมงาน Trip Planner ของเราพร้อมที่จะรังสรรค์ แผนการท่องเที่ยว (Trip Plan) ที่เป็นของตัวเองโดยเฉพาะ เจาะลึกทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายกิน สายช้อป สายธรรมชาติ หรือสายวัฒนธรรม เราจัดให้ครบ จบในแพลนเดียว!

3. อุ่นใจทุกเส้นทาง เหมือนมีเพื่อนสนิทนำทาง ปัญหาเรื่องภาษา? เรื่องฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด? ไม่ต้องกังวล! เรามีบริการประสานงานและช่วยเหลือ ที่เปรียบเสมือนเพื่อนที่เดินทางอยู่ข้าง ๆ เพื่อน ๆ คอยให้คำปรึกษาและดูแลเพื่อน ๆตลอดทริป ทำให้อุปสรรคทุกอย่างกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย

4. ลายแทงร้านลับและสถานที่สุดพิเศษ อยากกินราเมนร้านที่คนท้องถิ่นต่อคิว? หรือไปเยือนจุดชมวิวที่ไม่มีในไกด์บุ๊ก? เราพร้อมมอบ คำแนะนำสุด Exclusive ที่จะพาเพื่อน ๆ ไปสัมผัสเสน่ห์ของญี่ปุ่นในมุมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่เคยเห็น นี่คือประสบการณ์ที่จะทำให้ทริปของคุณโดดเด่นและน่าจดจำอย่างแท้จริง

ไม่ว่าทริปของคุณจะเป็นแบบไหน… เราพร้อมทำให้มันเกิดขึ้น

  • ทริปคู่รัก : สร้างโมเมนต์แสนโรแมนติกในโลเคชั่นส่วนตัว
  • ทริปครอบครัว : เดินทางสะดวกสบาย ปลอดภัย มีความสุขกันได้ทุกวัย
  • ทริปแก๊งเพื่อน : สนุกสุดเหวี่ยงในทุกกิจกรรมที่อยากทำ

พร้อมจะสร้างสรรค์ทริปญี่ปุ่นในฝันที่สะท้อนความเป็นตัวคุณแล้วหรือยัง?

วางแผนเที่ยว คามิโคจิ ปี 2025 ด้วยตัวเอง แจกแพลนเที่ยว ครบทุกไฮไลท์ แนะนําช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิธีเดินทาง และข้อควรรู้ก่อนไป

ทักมาคุยกับเราได้เลย! ให้ TRIP JAPAN ONLINE เป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ของเพื่อน ๆ