Skip to content
Home » เปิดพยากรณ์ “21 จุดชมซากุระเกียวโต” มีที่ไหนบ้าง? อัปเดตล่าสุดปี 2025

เปิดพยากรณ์ “21 จุดชมซากุระเกียวโต” มีที่ไหนบ้าง? อัปเดตล่าสุดปี 2025

  • admin 
เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต

เมื่อลมหนาวเริ่มจางหาย และแสงแดดอบอุ่นเริ่มกลับมา นั่นคือสัญญาณว่าฤดูกาลแห่งความงามที่ทุกคนรอคอยกำลังจะมาถึง เรากำลังพูดถึงฤดูซากุระบานในญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เมืองเกียวโต อดีตเมืองหลวงเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยวัดวาอาราม ศาลเจ้า สวนสวย และสถาปัตยกรรมอันงดงาม ที่จะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูอ่อนหวานของดอกซากุระ สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะไปสัมผัสความงามของซากุระที่เกียวโตในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าคุณมาถูกที่แล้ว! เพราะในบทความนี้ เราไม่ได้มาแค่พยากรณ์ช่วงเวลาที่ซากุระจะบานเท่านั้น แต่เรายังจะพาคุณไปรู้จักกับ “20 จุดชมซากุระเกียวโต” ที่สวยงามและน่าประทับใจที่สุด ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!

เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต

นอกจากนี้ เรายังเตรียมข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม, วิธีการเดินทาง, ค่าเข้าชม, แผนการท่องเที่ยว และคำถามที่พบบ่อย (FAQ) เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาปักหมุด “20 จุดชมซากุระเกียวโต” ไปพร้อม ๆ กัน! รับรองว่าทริปชมซากุระปี 2025 ของคุณจะต้องเป็นทริปที่น่าจดจำอย่างแน่นอน!

เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต

จากการรวบรวมข้อมูลพยากรณ์จากหลายแหล่งที่น่าเชื่อถือ * (อ้างอิงแหล่งที่มา เช่น Japan Meteorological Corporation, Japan-Guide.com, Weathernews Inc.)* ทำให้เราคาดการณ์ได้ว่า ซากุระเกียวโต ปี 2025 จะเริ่มบานประมาณช่วงวันที่ 22-26 มีนาคม และจะบานเต็มที่ (Full Bloom) ในช่วงวันที่ 1-5 เมษายน*

การบานของซากุระมีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง แต่เป็นการผสมผสานของหลาย ๆ ปัจจัย :

เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต
  • อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) : ฤดูหนาวที่อบอุ่นผิดปกติ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุณหภูมิเฉลี่ยที่สูงกว่าค่าปกติอย่างต่อเนื่อง) อาจส่งสัญญาณให้ซากุระเข้าใจผิดว่าฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว และกระตุ้นให้บานเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม หากอากาศกลับมาหนาวเย็นอีกครั้ง กระบวนการบานอาจหยุดชะงักหรือล่าช้าออกไปได้
  • อุณหภูมิในช่วงเปลี่ยนผ่าน (ปลายกุมภาพันธ์ – มีนาคม) : ช่วงนี้มีความสำคัญมาก หากอุณหภูมิอุ่นขึ้นอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ จะเป็นสัญญาณที่ดีว่าซากุระจะบานตามปกติ แต่ถ้าอุณหภูมิผันผวน มีช่วงที่หนาวจัดสลับกับช่วงที่อบอุ่น จะทำให้การคาดการณ์ทำได้ยากขึ้น
  • อุณหภูมิในช่วงใกล้บาน (มีนาคม – เมษายน) : อุณหภูมิในช่วงนี้จะมีผลโดยตรงต่ออัตราการบานของซากุระ อุณหภูมิที่สูงขึ้นจะเร่งให้ซากุระบานเร็วขึ้น ในขณะที่อุณหภูมิที่ต่ำลงจะชะลอการบาน
  • ปริมาณน้ำฝน : ปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ จะช่วยให้ต้นซากุระมีพลังงานสะสมเพียงพอสำหรับการออกดอก แต่หากมีฝนตกหนักหรือพายุในช่วงใกล้บาน อาจทำให้ดอกซากุระร่วงหล่นก่อนเวลาอันควร
  • แสงแดด : แสงแดดมีความสำคัญต่อกระบวนการสังเคราะห์แสงของต้นซากุระ ซึ่งจะช่วยสร้างพลังงานสำหรับการออกดอก หากมีแสงแดดเพียงพอในช่วงก่อนและระหว่างการบาน จะทำให้ดอกซากุระมีสีสันสดใสและสวยงาม
  • ลม : ลมแรงสามารถพัดพากลีบดอกซากุระให้ล่วงหล่นได้

เราจะติดตามข้อมูลพยากรณ์ซากุระจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้อย่างใกล้ชิด และจะอัปเดตข้อมูลให้ทุกคนทราบเป็นระยะ ๆ อย่าลืมบุ๊กมาร์กหน้านี้ไว้!

เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต

เกียวโตเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่ชมซากุระที่สวยงามราวกับภาพวาด ไม่ว่าจะเป็นวัดเก่าแก่, ศาลเจ้า, สวนสวย, หรือริมแม่น้ำ ก็ล้วนแต่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป ในปี 2025 นี้ เราคัดสรร “20 จุดชมซากุระเกียวโต” สุดฮิต ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักเกียวโตยิ่งกว่าเดิม :

  • ลักษณะเด่น : สวนสาธารณะมารุยาม่าเป็นที่รู้จักกันดีในนามของสัญลักษณ์แห่งการชมซากุระยามค่ำคืนของเกียวโต โดยมีจุดเด่นคือ “กิออนชิดาเระซากุระ” (Gion Shidarezakura) หรือซากุระย้อยต้นใหญ่ ที่มีอายุกว่า 80 ปี ซึ่งจะถูกประดับประดาด้วยไฟอย่างสวยงามอลังการในยามค่ำคืน
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด :
    • กลางวัน : เหมาะสำหรับการปิกนิกและชมซากุระหลากหลายสายพันธุ์
    • กลางคืน (18:00 – 24:00 น.) : เหมาะสำหรับการชมซากุระย้อยที่ประดับไฟ (แนะนำให้มาช่วงหัวค่ำ เพราะคนจะเยอะมากในช่วงดึก)
  • การเดินทาง :
    • รถไฟใต้ดิน : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Karasuma Line ลงสถานี Kyoto Shiyakusho-mae Station (ทางออก 1) แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
    • รถบัส : นั่งรถบัสสาย 100, 201, 202, 203, หรือ 206 ลงป้าย Gion แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • ลักษณะเด่น : วัดคิโยมิสึเดระ หรือ “วัดน้ำใส” เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกียวโต โดดเด่นด้วยระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปเหนือเนินเขา ทำให้มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเกียวโตและซากุระที่บานสะพรั่งได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเจดีย์สามชั้นสีแดงเป็นฉากหลัง
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด :
    • กลางวัน : เหมาะสำหรับการชมวิวเมืองและซากุระจากระเบียงวัด
    • เย็น (มี illumination) : เหมาะสำหรับการชมซากุระที่ประดับไฟ (ตรวจสอบช่วงเวลาที่มี illumination อีกครั้ง)
  • การเดินทาง :
    • รถบัส : นั่งรถบัสสาย 100 หรือ 206 ลงป้าย Kiyomizu-michi แล้วเดินขึ้นเนินเขาประมาณ 10 นาที
    • รถแท็กซี่ : สามารถนั่งแท็กซี่จากสถานี Kyoto Station ได้ (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
  • ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 เยน, เด็ก 200 เยน
เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต
  • ลักษณะเด่น : ทางเดินนักปราชญ์ (Philosopher’s Path หรือ Tetsugaku no Michi) เป็นทางเดินเลียบคลองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของเกียวโต ในช่วงซากุระบาน ต้นซากุระพันธุ์ Somei Yoshino กว่า 500 ต้น ที่ปลูกเรียงรายสองข้างทาง จะพร้อมใจกันผลิดอกสีชมพูอ่อน บานสะพรั่งเป็นอุโมงค์ซากุระยาวประมาณ 2 กิโลเมตร
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด :
    • กลางวัน : เหมาะสำหรับการเดินเล่นชมซากุระ และแวะชมวัด/ศาลเจ้า
    • ช่วงเย็น : บรรยากาศจะเงียบสงบกว่าช่วงกลางวัน
  • การเดินทาง :
    • รถไฟใต้ดิน : เริ่มต้นทางเดินได้จาก 2 จุด :
      • ฝั่งเหนือ : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ลงสถานี Keage Station (ทางออก 1) แล้วเดินต่อประมาณ 5-10 นาที
      • ฝั่งใต้ : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ลงสถานี Higashiyama Station แล้วเดินต่อประมาณ 15-20 นาที หรือนั่งรถบัสสาย 5 หรือ 100 ลงป้าย Ginkakuji-michi แล้วเดินต่อ
    • รถบัส : มีรถบัสหลายสายที่ผ่านบริเวณใกล้เคียง (เช่น สาย 5, 17, 100)
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • ลักษณะเด่น : แม่น้ำคาโมะ (Kamogawa) เป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านใจกลางเมืองเกียวโต ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ริมฝั่งแม่น้ำจะเต็มไปด้วยต้นซากุระที่บานสะพรั่ง ทอดยาวเป็นแนวยาวหลายกิโลเมตร
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด :
    • กลางวัน : เหมาะสำหรับการเดินเล่น, ปั่นจักรยาน, และปิกนิก
    • ช่วงเย็น : บรรยากาศจะโรแมนติกขึ้นเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน
  • การเดินทาง : สามารถเข้าถึงแม่น้ำคาโมะได้จากหลายจุดในเมืองเกียวโต:
    • รถไฟ : สถานีรถไฟที่ใกล้แม่น้ำคาโมะ ได้แก่ สถานี Gion-Shijo (Keihan Line), สถานี Kawaramachi (Hankyu Line), สถานี Sanjo (Keihan Line, Subway Tozai Line)
    • รถบัส : มีรถบัสหลายสายที่วิ่งเลียบแม่น้ำคาโมะ
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต
  • ลักษณะเด่น : ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จุดเด่นของที่นี่ในช่วงซากุระคือ สวน Ninomaru Garden ซึ่งมีต้นซากุระกว่า 50 สายพันธุ์ ทำให้สามารถชมซากุระได้หลากหลายรูปแบบและสีสัน ทั้งซากุระพันธุ์ที่บานเร็ว, บานช้า, สีชมพูอ่อน, สีชมพูเข้ม, และซากุระย้อย
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด :
    • กลางวัน : เหมาะสำหรับการเดินชมสวนและสถาปัตยกรรม
    • ช่วงเย็น : มีการจัด light-up (ตรวจสอบช่วงเวลา)
  • การเดินทาง :
    • รถไฟใต้ดิน : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ลงสถานี Nijojo-mae Station (ทางออก 1 หรือ 2)
    • รถบัส : นั่งรถบัสสาย 9, 50, หรือ 101 ลงป้าย Nijojo-mae
  • ค่าเข้าชม :
    • เฉพาะบริเวณปราสาท : ผู้ใหญ่ 1,030 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 350 เยน, นักเรียนประถม-มัธยมต้น 200 เยน
    • รวมค่าเข้าชมพระราชวังนิโนมารุ : ผู้ใหญ่ 1,880 เยน (ค่าเข้าชมอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบอีกครั้ง)
เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต
  • ลักษณะเด่น : ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine) สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 1,100 ปีของการก่อตั้งเมืองเกียวโต จุดเด่นของที่นี่ในช่วงซากุระคือ สวน Shin’en Garden ซึ่งมีต้นซากุระ weeping cherry (Yaebeni-shidare) สีชมพูเข้มจำนวนมาก ซากุระพันธุ์นี้จะบานช้ากว่าซากุระพันธุ์อื่นๆ ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมซากุระที่สามารถชมได้นานกว่าที่อื่น
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด :
    • กลางวัน : เหมาะสำหรับการเดินเล่นชมสวนและซากุระ
    • ช่วงเย็น : มีการจัด light-up (ตรวจสอบช่วงเวลา)
  • การเดินทาง :
    • รถไฟใต้ดิน : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ลงสถานี Higashiyama Station (ทางออก 1) แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
    • รถบัส : นั่งรถบัสสาย 5 หรือ 100 ลงป้าย Kyoto Kaikan Bijutsukan-mae
  • ค่าเข้าชม :
    • เฉพาะบริเวณศาลเจ้า : ฟรี
    • สวน Shin’en Garden : ผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็ก 300 เยน
  • ลักษณะเด่น : แม้จะตั้งอยู่ในจังหวัดโอซาก้า แต่โรงกษาปณ์โอซาก้า (Osaka Mint Bureau) ก็เป็นจุดชมซากุระยอดนิยมที่เดินทางจากเกียวโตได้ไม่ยาก จุดเด่นคือ “อุโมงค์ซากุระ” (Sakura Tunnel หรือ Sakura-no-Torinuke) ระยะทางประมาณ 560 เมตร ที่มีต้นซากุระกว่า 350 ต้น จากประมาณ 130 สายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์หายาก ทำให้ที่นี่มีความหลากหลายของสีสันและรูปทรงของดอกซากุระมากที่สุดแห่งหนึ่ง
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด :
    • กลางวัน : (เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงกลางวัน โปรดตรวจสอบเวลาเปิด-ปิดที่แน่นอน)
    • หมายเหตุสำคัญ : โรงกษาปณ์จะเปิดให้เข้าชมอุโมงค์ซากุระเพียงปีละ 1 สัปดาห์เท่านั้น ต้องตรวจสอบประกาศอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับวันและเวลาเปิด-ปิดในปี 2025
  • การเดินทาง : นั่งรถไฟ Keihan Main Line จากสถานีในเกียวโต (เช่น Gion-Shijo, Sanjo) ไปลงสถานี Temmabashi Station แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต
  • ลักษณะเด่น: สวนพฤกษชาติเกียวโต (Kyoto Botanical Gardens) เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ มีพืชพรรณหลากหลายชนิด รวมถึงซากุระกว่า 450 ต้น จากประมาณ 130 สายพันธุ์ ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมซากุระที่มีความหลากหลายทั้งสีสัน รูปทรง และช่วงเวลาบาน
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : กลางวัน
  • การเดินทาง :
    • รถไฟใต้ดิน : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Karasuma Line ลงสถานี Kitayama Station (ทางออก 3)
    • รถบัส : นั่งรถบัสสาย 204, 205, 206 ลงป้าย Shokubutsuen-mae

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 200 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 150 เยน, นักเรียนประถม-มัธยมต้น ฟรี (อาจมีค่าเข้าชมเพิ่มเติมสำหรับเรือนกระจก)

เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต
  • ลักษณะเด่น : วัดโทจิ (Toji Temple) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Kyo-o-gokoku-ji เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเกียวโต จุดเด่นคือ เจดีย์ห้าชั้น (Five-story Pagoda) ซึ่งเป็นเจดีย์ไม้ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น (55 เมตร) ในช่วงซากุระบาน ภาพของเจดีย์ห้าชั้นกับต้นซากุระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซากุระย้อย (weeping cherry) จะเป็นภาพที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด :
    • กลางวัน : เหมาะสำหรับการชมสถาปัตยกรรมและสวน
    • ช่วงเย็น : มีการจัด light-up (ตรวจสอบช่วงเวลา)
  • การเดินทาง :
    • รถไฟ : เดินประมาณ 15 นาทีจากสถานี Kyoto Station (Hachijo Exit)
    • รถบัส : นั่งรถบัสสาย 205, 207, 208 ลงป้าย Toji-Higashimon-mae
  • ค่าเข้าชม :
    • บริเวณวัด : ฟรี
    • ห้องโถง Kondo และ Kodo : ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 300 เยน (อาจมีค่าเข้าชมเพิ่มเติมในช่วงที่มี light-up)
  • ลักษณะเด่น : วัดไดโกจิ (Daigoji Temple) เป็นวัดมรดกโลกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,100 ปี มีบริเวณกว้างขวาง แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ Shimo Daigo (ส่วนล่าง), Kami Daigo (ส่วนบน), และ Sanboin Garden ในช่วงซากุระบาน จะมีต้นซากุระกว่า 1,000 ต้นบานสะพรั่งทั่วบริเวณวัด โดยเฉพาะบริเวณรอบอาคาร Bentendo สีแดงสดที่ตั้งอยู่ริมสระน้ำ จะเป็นจุดที่สวยงามเป็นพิเศษ
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : กลางวัน
  • การเดินทาง :
    • รถไฟใต้ดิน : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ลงสถานี Daigo Station (ทางออก 2) แล้วเดินต่อประมาณ 10-15 นาที (มีรถบัสรับส่งจากสถานีไปยังวัดในช่วงฤดูท่องเที่ยว)
  • ค่าเข้าชม : (ค่าเข้าชมอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบอีกครั้ง)
    • ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) :
      • เข้าชม 3 ส่วน (Sanboin, Shimo Daigo, Reihokan) : ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, นักเรียนมัธยม 1,000 เยน
      • เข้าชม 2 ส่วน (เลือกได้) : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, นักเรียนมัธยม 800 เยน
    • ช่วงฤดูอื่นๆ :
      • Sanboin Garden & Reihokan Museum : ผู้ใหญ่ 800 เยน, นักเรียนมัธยม 600 เยน
      • Shimo Daigo (บริเวณวัดส่วนล่าง) : ฟรี
  • ลักษณะเด่น : วัดนินนาจิ (Ninnaji Temple) เป็นวัดมรดกโลกที่มีชื่อเสียงในเรื่องของซากุระพันธุ์ Omuro (Omuro Sakura) ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์เตี้ย (สูงประมาณ 2-3 เมตร) ที่จะบานช้ากว่าซากุระพันธุ์อื่นๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมซากุระ “กลุ่มสุดท้าย” ของเกียวโต
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : กลางวัน (ช่วงที่ซากุระ Omuro บานเต็มที่ มักจะอยู่ในช่วงกลาง-ปลายเดือนเมษายน)
  • การเดินทาง :
    • รถราง (Randen) : นั่งรถราง Keifuku (Randen) Kitano Line ลงสถานี Omuro-Ninnaji Station แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
    • รถบัส : นั่งรถบัส Kyoto City Bus สาย 26 ลงป้าย Omuro Ninnaji
  • ค่าเข้าชม :
    • บริเวณวัด : ฟรี
    • สวน Omuro (ช่วงซากุระ) : ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 300 เยน
    • Goten (พระราชวังเก่า) : ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 300 เยน
เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต
  • ลักษณะเด่น : ศาลเจ้าฮิราโนะ (Hirano Shrine) เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเทศกาลชมซากุระ (Hirano Shrine Sakura Festival) ที่จัดขึ้นมาตั้งแต่สมัยเฮอัน (ค.ศ. 794-1185) ที่นี่มีซากุระกว่า 400 ต้น จากประมาณ 60 สายพันธุ์ ทำให้สามารถชมซากุระได้หลากหลายรูปแบบและสีสัน
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด :
    • กลางวัน : เหมาะสำหรับการชมซากุระหลากหลายสายพันธุ์
    • กลางคืน : เหมาะสำหรับการชมซากุระที่ประดับไฟ (illumination)
  • การเดินทาง :
    • รถบัส :
      • จากสถานี Kyoto Station : นั่งรถบัสสาย 50 หรือ 205 ลงป้าย Kinukake-no-michi
      • จากสถานี Kitaoji : นั่งรถบัสสาย 204 หรือ 205 ลงป้าย Kinukake-no-michi
  • ค่าเข้าชม :
    • บริเวณศาลเจ้า: ฟรี
    • สวน (ช่วงซากุระ) : อาจมีค่าเข้าชม (โปรดตรวจสอบอีกครั้ง)
  • ลักษณะเด่น: วัดเรียวอันจิ (Ryoanji Temple) เป็นวัดนิกายเซนที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของสวนหิน (Karesansui) ที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยปรัชญา แม้ว่าสวนหินจะเป็นจุดเด่นหลัก แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่ก็มีต้นซากุระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซากุระย้อย (weeping cherry) ที่สวยงาม
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : กลางวัน
  • การเดินทาง :
    • รถราง (Randen) : นั่งรถราง Keifuku (Randen) Kitano Line ลงสถานี Ryoanji-michi Station แล้วเดินต่อประมาณ 7 นาที
    • รถบัส : นั่งรถบัส Kyoto City Bus สาย 59 ลงป้าย Ryoanji-mae
  • ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 300 เยน
เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต
  • ลักษณะเด่น : วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) เป็นวัดนิกายเซนที่สำคัญแห่งหนึ่งในอาราชิยาม่า จุดเด่นคือ สวน Sogenchi Garden ซึ่งเป็นสวนที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเกียวโต ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะมีต้นซากุระทั้งพันธุ์ Somei Yoshino และ weeping cherry บานสะพรั่งอยู่รอบๆ สวน
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : กลางวัน
  • การเดินทาง :
    • รถไฟ :
      • JR : นั่งรถไฟ JR Sagano Line ลงสถานี Saga-Arashiyama Station แล้วเดินต่อประมาณ 5-10 นาที
      • Randen : นั่งรถราง Keifuku (Randen) Arashiyama Line ลงสถานี Arashiyama Station แล้วเดินต่อเล็กน้อย

รถบัส : นั่งรถบัส Kyoto City Bus สาย 11,

  • ลักษณะเด่น : กิออน (Gion) เป็นย่านเกอิชา (Geisha district) ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกียวโต ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ถนน Hanami-koji และบริเวณริมคลอง Shirakawa จะมีต้นซากุระบานสะพรั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามค่ำคืน เมื่อมีการประดับไฟ จะสร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและมีเสน่ห์
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด :
    • กลางวัน : เหมาะสำหรับการเดินเล่นชมเมือง และอาจได้พบเห็นเกอิชาหรือไมโกะ
    • กลางคืน : เหมาะสำหรับการชมซากุระที่ประดับไฟ
  • การเดินทาง :
    • รถไฟ :
      • Keihan Line : ลงสถานี Gion-Shijo Station
      • Hankyu Line : ลงสถานี Kawaramachi Station
    • รถบัส : มีรถบัสหลายสายที่ผ่านกิออน (เช่น สาย 100, 206)
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • ลักษณะเด่น : อาราชิยาม่า (Arashiyama) เป็นย่านท่องเที่ยวทางตะวันตกของเกียวโต มีชื่อเสียงในเรื่องของธรรมชาติที่สวยงาม ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ภูเขา, ริมแม่น้ำ, และบริเวณรอบๆ สะพาน Togetsukyo จะเต็มไปด้วยต้นซากุระที่บานสะพรั่ง
  • การเดินทาง :
    • รถไฟ :
      • JR : นั่งรถไฟ JR Sagano Line ลงสถานี Saga-Arashiyama Station
      • Randen : นั่งรถราง Keifuku (Randen) Arashiyama Line ลงสถานี Arashiyama Station
      • Hankyu : นั่งรถไฟ Hankyu Arashiyama Line ลงสถานี Arashiyama
    • รถบัส : มีรถบัสจากสถานี Kyoto Station และสถานที่อื่นๆ ในเมืองเกียวโต
  • ค่าเข้าชม : ฟรี (ยกเว้นบางสถานที่ เช่น วัด, รถไฟ, เรือ)
เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต
  • ลักษณะเด่น : คลองโอคาซากิ (Okazaki Canal) เป็นคลองที่เชื่อมต่อระหว่างทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) กับแม่น้ำคาโมะ (Kamogawa River) ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ริมคลองจะเต็มไปด้วยต้นซากุระที่บานสะพรั่ง และมีการจัดงานเทศกาลชมซากุระ
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : กลางวัน
  • การเดินทาง :
    • รถไฟใต้ดิน : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ลงสถานี Keage Station (ทางออก 1) แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
    • รถบัส : มีรถบัสหลายสายที่ผ่านบริเวณ Okazaki Park (เช่น สาย 5, 100)
  • ค่าเข้าชม : ฟรี (ยกเว้นค่าเรือนำเที่ยว)
  • ลักษณะเด่น : ศาลเจ้าชิโมงาโมะ (Shimogamo Shrine) หรือชื่อเต็มคือ Kamo-mioya-jinja เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จุดเด่นในช่วงซากุระคือ ป่า Tadasu no Mori ซึ่งเป็นป่าโบราณที่ล้อมรอบศาลเจ้า มีต้นซากุระอยู่หลายต้น
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : กลางวัน
  • การเดินทาง :
    • รถไฟ :
      • Keihan Line : ลงสถานี Demachiyanagi Station แล้วเดินต่อประมาณ 12 นาที
      • Eizan Line : ลงสถานี Demachiyanagi แล้วเดินต่อ
    • รถบัส : นั่งรถบัสสาย 4 หรือ 205 ลงป้าย Shimogamojinja-mae
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต
  • ลักษณะเด่น : ศาลเจ้าคามิกาโมะ (Kamigamo Shrine) หรือชื่อเต็มคือ Kamo-wakeikazuchi-jinja เป็นศาลเจ้าคู่กับศาลเจ้าชิโมงาโมะ และเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเช่นกัน จุดเด่นในช่วงซากุระคือ ต้นซากุระพันธุ์ Saio-zakura ซึ่งเป็นซากุระ weeping cherry ที่มีชื่อเสียง และมีต้นซากุระอื่นๆ อีกหลายต้นภายในบริเวณศาลเจ้า
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : กลางวัน
  • การเดินทาง :
    • รถบัส :
      • จากสถานี Kyoto Station: นั่งรถบัสสาย 4 ลงป้าย Kamigamo Misonobashi
      • จากสถานี Kitaoji: นั่งรถบัสสาย 37 ลงป้าย Kamigamo Misonobashi หรือ รถบัสสาย Kitano ลงป้าย Kamigamo Jinja-mae
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • ลักษณะเด่น : Haradani-en Garden เป็นสวนส่วนตัวบนเนินเขาทางตอนเหนือของเกียวโต ที่เปิดให้เข้าชมเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ซากุระ) และฤดูใบไม้ร่วง (ใบไม้เปลี่ยนสี) เท่านั้น จุดเด่นคือ มีต้นซากุระ weeping cherry (Shidare-zakura) จำนวนมาก (กว่า 400 ต้น) ปลูกอยู่ทั่วทั้งสวน ทำให้ที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์ของคนรักซากุระ
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : กลางวัน (เปิดเฉพาะช่วงกลางวัน)
  • การเดินทาง :
    • รถแท็กซี่ : วิธีที่สะดวกที่สุดคือ นั่งรถแท็กซี่จากสถานี Kitaoji (Subway Karasuma Line) หรือสถานี JR Enmachi (ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที) ไม่มีรถบัสสาธารณะไปถึง

ค่าเข้าชม : ราคาไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและสถานการณ์การบานของซากุระ (โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 – 2,000 เยน) ควรตรวจสอบล่วงหน้า

โดยสรุปแล้ว ซากุระเกียวโต ปี 2025 คาดว่าจะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนมีนาคม (ประมาณ 22-26 มีนาคม) และบานเต็มที่ในช่วงต้นเดือนเมษายน (ประมาณ 1-5 เมษายน) อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศอาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงได้ อย่าลืมติดตามการอัปเดตพยากรณ์อย่างใกล้ชิดนะคะ และหวังว่า “20 จุดชมซากุระเกียวโต” ในบทความนี้จะเป็นประโยชน์ ช่วยให้คุณวางแผนทริปชมซากุระที่เกียวโตได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด!

  • Q : ซากุระในเกียวโตบานช่วงไหน?
    • A : โดยทั่วไปแล้ว “ซากุระเกียวโต” จะเริ่มบานประมาณปลายเดือนมีนาคม และบานเต็มที่ในช่วงต้นเดือนเมษายน แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี
  • Q : “จุดชมซากุระเกียวโต ที่ไหนคนเยอะที่สุด?
    • A : จุดชมซากุระยอดนิยม เช่น สวนมารุยาม่า, วัดคิโยมิสึ, ทางเดินนักปราชญ์ มักจะมีคนเยอะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และช่วงที่ซากุระบานเต็มที่
  • Q : ควรไปชมซากุระช่วงเวลาไหนดีที่สุด?
    • A : ช่วงเช้าตรู่ (ก่อน 8:00 น.) หรือช่วงเย็น (หลัง 17:00 น.) เป็นช่วงเวลาที่คนจะน้อยกว่า และแสงสวยเหมาะแก่การถ่ายรูป
  • Q : มีที่พักแนะนำใกล้จุดชมซากุระไหม?
    • A : มีที่พักให้เลือกมากมายในเกียวโต แนะนำให้จองล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูซากุระ (สามารถดูตัวอย่างที่พักได้ในบทความย่อย “คู่มือเดินทางเที่ยวเกียวโต ช่วงซากุระบาน”)
  • Q : การเดินทางในเกียวโตช่วงซากุระบานเป็นอย่างไร?
    • A : ระบบขนส่งสาธารณะในเกียวโตสะดวกและครอบคลุม แต่ในช่วงฤดูซากุระ อาจมีผู้ใช้บริการหนาแน่นเป็นพิเศษ ควรเผื่อเวลาในการเดินทาง
  • Q : จำเป็นต้องมี JR Pass ไหม?
    • A : ไม่จำเป็น หากเน้นเที่ยวแค่ในเกียวโต หรือเมืองใกล้เคียง แต่จะคุ้มหากเดินทางหลายเมืองในญี่ปุ่น
  • Q : มีมารยาทอะไรที่ต้องรู้ในการชมซากุระไหม?
    • A : มีค่ะ เช่น ไม่เด็ดดอกซากุระ, ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น, ไม่ทิ้งขยะ, และปฏิบัติตามกฎระเบียบของแต่ละสถานที่ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วน “เคล็ดลับ”)
  • Q : Hanami คืออะไร?
    • A : การนั่งชมดอกซากุระ มักจะปูเสื่อใต้ต้นซากุระ

บทความนี้น่าสนใจ “20 จุดชมซากุระเกียวโต”

เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ฉบับมือโปร ครบทั้งเรื่องกิน เรื่องเที่ยว ที่พัก ที่ช้อป กับแผนที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น พร้อมรายละเอียดการเดินทาง ช่วยให้คุณเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างมีความสุข สนุกตลอดทั้งทริป เลือกดูสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ทันที ไม่พลาดกับทุกสถานที่ยอดฮิตเพราะเรารวมมาให้แล้ว ไม่ว่าจะเที่ยวกี่วัน ก็เลือกแพลนเที่ยวได้ ในแบบฉบับของคุณ

เกียวโต เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทั้งวัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์, ธรรมชาติ, และอาหารการกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่ซากุระบานสะพรั่ง การวางแผนการท่องเที่ยวที่ดี จะช่วยให้คุณสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในเกียวโตได้อย่างเต็มที่

อย่ารอช้า! ให้ Trip Japan Online เป็นตัวช่วยให้ทริปญี่ปุ่นของคุณ เป็นทริปที่สมบูรณ์แบบที่สุด!

เตรียมตัวให้พร้อม พยากรณ์ จุดชมซากุระเกียวโต อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาแล้ว! เช็คช่วงเวลาซากุระบา และจุดชมมากกว่า 20 จุดชมยอดฮิต

แหล่งข้อมูลอ้างอิง “20 จุดชมซากุระเกียวโต”